“ได้ๆๆ”คุณพ่อประสิทธิ์รีบพยักหน้ารับ“รบกวนด้วยนะวารุณี ครอบครัวของเราอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว ที่นี่ถูกเปิดเผยแล้ว หากพงศกรตามมาจริงๆ ปาจรีย์จะทำยังไง ?”
คนแก่อย่างพวกเขาสองคนก็ไม่เท่าไร ตายก็คือตาย
แต่ปาจรีย์อายุยังน้อย พวกเขาไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นกับปาจรีย์
วารุณีรู้ถึงความกังวลของคุณพ่อประสิทธิ์ ก็พูดปลอบไปอีกหลายคำ จากนั้นก็วางสายไป
ลีน่ามองเธอกดวางสาย ก็ถามว่า “วารุณี นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? พงศกรหาปาจรีย์เจอได้ยังไง ?”
วารุณีส่ายหัวให้อย่างคิดหนัก“ตอนนี้ไม่รู้เลย แต่ที่มั่นใจได้ก็คือ ต้องมีคนบอกเขาแน่ๆ นัทธีปิดเรื่องของตระกูลจิรดำรงค์ ด้วยอิทธิพลของพงศกร เขาหาไม่เจออย่างแน่นอน ดังนั้นความน่าจะเป็นไปได้ที่สุดคือ คนที่รู้เรื่องของตระกูลจิรดำรงค์ เป็นคนบอกพงศกร ”
ตอนนี้ภายในใจของเธอก็คาดเดาไปต่างๆนานา
และการคาดเดานี้ ทำเธอรู้สึกหนักอึ้ง
ลีน่าไม่ใช่คนโง่ เมื่อได้ยินคำพูดของวารุณี ก็เข้าใจบางอย่างได้ในทันที กลืนน้ำลายลงคอด้วยความรู้สึกวูบวาบแปลกๆ“วารุณี เธอคงไม่ได้หมายถึง ข้างกายประธานนัทธี หรือรอบตัวเรามีอันนั้นใช่ไหม?”
วารุณีขบริมฝีปาก“ ใช่ ฉันสงสัยเรื่องนี้ มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่ชี้ชัดได้ แต่ตอนนี้ก็เป็นแค่การสงสัยเท่านั้น จะจริงหรือไม่ ก็ต้องรอการตรวจสอบ”
“งั้นเธอก็รีบติดต่อไปหาประธานนัทธีเถอะ บอกเรื่องนี้กับประธานนัทธี ให้ประธานนัทธีตรวจสอบให้แน่ชัด ”ลีน่าเร่งเร้า
วารุณีพยักหน้า ตอบอืมกลับไปคำหนึ่ง “ฉันรู้ ฉันจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้”
พูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง หาเบอร์ของนัทธี แล้วกดโทรออก
ตอนนี้ที่ในประเทศ นัทธีกำลังออกจากโรงพยาบาลที่เขาเป็นผู้ลงทุนหลังจากที่มาเยี่ยมดูสุขใจ ทันทีที่กลับเข้ามาในรถ โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เห็นสายที่โทรเข้ามา มุมปากก็ยกหยักขึ้นเล็กน้อย
มารุตที่ขับรถมองผ่านกระจกมองหลัง อดไม่ได้ที่จะถามว่า“ ท่านประธาน คุณนายหรือเปล่าครับ”
“นายก็รู้ด้วย ?”นัทธีเลิกคิ้ว
มารุตหัวเราะแหะๆ “มองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของคุณก็รู้ นอกจากคุณนาย จะมีใครสามารถทำให้คุณยิ้มได้อีก”
นัทธีเค้นเสียงหึ “ ช่างสังเกตจริงๆ ”
“ขอบคุณสำหรับคำชมครับท่านประธาน” มารุตยกยิ้ม
นัทธีไม่สนใจเขา ก้มหน้าแล้วกดรับสายของวารุณี
เดิมทีคิดว่าวารุณีคิดถึงเขา นัทธีกำลังจะอ้าปากพูด น้ำเสียงที่ร้อนรนของวารุณีก็ดังขึ้นมา“นัทธี แย่แล้ว พงศกรรู้แล้วว่าปาจรีย์อยู่ที่ไหน!”
“อะไรนะ ? สีหน้านัทธีดำขลับขึ้นในทันที“ คุณว่าพงศกรหาปาจรีย์เจอแล้วงั้นเหรอ?”
“ใช่”วารุณีพยักหน้า จากนั้นก็เล่าเรื่องที่ได้คุยกับคุณพ่อประสิทธิ์ให้ฟัง
นัทธีฟังจบ สีหน้าก็ดูแย่ขึ้นในทันที “เขาหาเจอได้ยังไง ?”
วารุณีส่ายหน้า“ไม่รู้ แต่ฉันสงสัยว่ามีคนบอกเขา ”
ประโยคนี้ ทำเอารังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านอยู่รอบๆตัวของนัทธีน่ากลัวมากขึ้น
เพราะเขาเข้าใจในความหมายของวารุณีแล้ว เธอสงสัย ว่ารอบตัวเขาจะมีหนอนบ่อนไส้
ใช่ ที่อยู่ตระกูลจิรดำรงค์ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ และอำนาจของพงศกร อยากจะรู้เรื่องตระกูลจิรดำรงค์ที่เขาปิดบังเอาไว้นั้น ไม่มีทางทำได้แน่
ดังนั้นต้องมีคนบอกพงศกร พงศกรถึงได้รู้ว่าตระกูลจิรดำรงค์อยู่ที่ไหน รวมถึงช่องทางการติดต่อของปาจรีย์ด้วย
ไม่อย่างนั้น ต่อให้อีกสามปี พงศกรก็ไม่มีทางหาเจอแน่
ดังนั้น รอบตัวพวกเขาต้องมีหนอนแน่ๆ !
นัทธีกำโทรศัพท์แน่น สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นในทันที กลิ่นอายรอบตัว ทำเอาผู้คนแข็งค้าง
มารุตสังเกตเห็นอาการผิดปกติของเขา หันหน้ามาแล้วถาม “ท่านประธาน เกิดอะไรขึ้นกับคุณนายหรือเปล่าครับ ?”
นัทธีหรี่ตาลง ไม่ตอบเขา แต่พูดกับปลายสายไปว่า“ผมรู้แล้ว ผมจะหาตัวออกมาให้เร็วที่สุด ส่วนตระกูลจิรดำรงค์ คุณบอกพวกเขา ผมจะให้คนไปรับแล้วย้ายไปที่อื่น ”
“ได้”วารุณีพยักหน้า แสดงให้รู้ว่าเข้าใจแล้ว
หลังจากที่วางสาย นัทธีมองไปที่มารุต“ เช็กคนรอบตัวของเรา ดูว่ามีใครมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...