เห็นแค่ว่ากลางน้ำทะเลสีฟ้า วารุณีกำลังใช้มือและเท้าตีน้ำไปมาด้วยความหวาดกลัว
อาจเพราะว่าตีอยู่ในน้ำนานแล้ว ตอนนี้การที่เธอตีน้ำไปมาก็เริ่มช้าลงแล้ว ออกแรงไม่ค่อยได้แล้ว ร่างกายก็เริ่มค่อยๆจมลงอย่างช้าๆ
พงศกรเห็นแบบนี้ ไม่คิดอะไรมาก ทิ้งซองจดหมายที่ใส่รูปไว้ในมือไปเลย กระโดดข้ามรั้วลงไป ว่ายไปหาวารุณี
“วารุณี!”พงศกรว่ายไปตรงหน้าวารุณี โอบคอของวารุณี ให้หัวของเธอหงายขึ้นมา จากนั้นพาเธอว่ายไปที่ประตูของเรือสำราญ
ก็แค่เรือสำราญนั้นแล่นอยู่ตลอด ถึงความเร็วจะช้า แต่ก็เร็วกว่าคนว่ายน้ำอีกเยอะ พงศกรว่ายอยู่นาน ก็ยังว่ายไปไม่ถึงเรือสำราญนั้น กลับกันยังถูกเรือสำราญทิ้งระยะห่าง แต่ดีที่มีคนบนเรือสำราญทิ้งห่วงชูชีพลงมา แค่เขาคว้าห่วงชูชีพไว้ได้ คนบนเรือสำราญก็สามารถดึงพวกเขาขึ้นมาได้
แต่พงศกรจับวารุณีอยู่ด้วย อยากจะคว้าห่วงชูชีพก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บวกกับนานแล้วที่เขาไม่ได้ว่ายน้ำ ก่อนกระโดดลงน้ำก็ไม่ได้วอร์มร่างกาย ตอนนี้ขาก็เริ่มเป็นตะคริว
วารุณีมองเขาที่อดทนต่อการแสดงออกที่เจ็บปวดไว้ รู้ว่าเขาเป็นอะไร ในใจรู้สึกผิด“ขอโทษนะพงศกร เป็นฉันทำคุณเหนื่อยไปหมด......”
“ไม่ต้องพูด!ผมจะต้องพาคุณขึ้นไปให้ได้”พงศกรพยายามฉีกยิ้มให้เธอ ว่ายไปข้างหน้าต่อ
แต่ยิ่งเขาว่าย ขาของเขาก็ยิ่งเป็นตะคริวหนักขึ้น สุดท้ายเจ็บจนเขาร้องออกมา ทั้งสองคนก็จมลงไปด้วยกัน
คนบนเรือสำราญมองเห็น ก็ยิ่งร้อนใจมากขึ้น
“คุณผู้ชายคนนั้นเหมือนจะตะคริวกิน เจ้าหน้าที่กู้ภัยล่ะ ทำไมเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่มา?”
“เกิดอะไรขึ้น?”คุณออสตินที่เป็นเจ้าภาพของเรือสำราญกำลังเล่นเทนนิสที่ชั้นสองของสนามเทนนิส ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของชั้นหนึ่ง ก็ทนไม่ไหวลงมาดูสถานการณ์
ที่ลงมาด้วยกันยังมีนัทธี เขาสวมชุดเทนนิส ที่มือซ้ายสวมปลอกรัดข้อมือ และยังถือไม้เทนนิสอันหนึ่ง ยืนข้างกายคุณออสตินด้วยเหงื่อบางๆ เผชิญหน้ากับการถกเถียงของผู้คน เขาละสายตาลง เห็นได้ชัดว่าไม่สนใจ
“คุณออสติน มีคนตกน้ำ!”มีคนชี้ไปที่ทะเลด้านหน้า
“ตกน้ำ?”คุณออสตินขมวดคิ้ว มองตามไป หลังจากมองเห็นว่าคนที่ตกน้ำคือใคร ก็ตกใจมาก“ทำไมเป็นคุณหมอพงศกรกับแฟนของเขาได้ล่ะ?”
ได้ยินคำนี้ รูม่านตานัทธีก็หดลง เงยหน้าขึ้นทันที มองไปด้านหน้า มองเห็นคนสองคนที่ค่อยๆจมลง เขาก็ทิ้งไม้เทนนิส กระโดดลงน้ำไปอย่างสีหน้าเคร่งเครียด ว่ายไปทางวารุณีกับพงศกร
การกระทำของเขา ทำเอาคุณออสตินตกใจ หลังจากได้สติคืนมา ก็รีบกำชับลูกน้องให้ไปช่วย
“เร็ว รีบไปช่วยคน!”คุณออสตินเร่งเสียงดัง
ถ้าผู้มีอำนาจของบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปเกิดเรื่องในถิ่นของเขา ตระกูลฮิลล์ก็จบเห่แล้ว!
วินาทีที่นัทธีกระโดดลงทะเลไป มารุตก็ไปที่แผนกกู้ภัยของเรือสำราญก่อนแล้ว และคว้าเรือคายักขับออกไป ดังนั้นจึงไปถึงวารุณีก่อนนัทธีก้าวหนึ่ง จากนั้นก็กระโดดลงน้ำด้วย
แค่เขาไม่ได้ไปช่วยวารุณี แต่ว่ายไปทางพงศกร
เขารู้ว่า วารุณีมีนัทธีแล้ว ไม่ต้องให้เขาช่วยเลย
และก็จริงๆ นัทธีทำเหมือนพงศกรก่อนหน้านี้ โอบคอของวารุณีไว้ พาเธอไปที่เรือคายัก ไปถึงหน้าเรือคายัก เขาก็จับก้นของวารุณี ดันเธอขึ้นไป จากนั้นเขาก็จับขอบเรือคายักด้วยมือทั้งสองข้าง และดึงร่างตัวเองขึ้นเรือคายักไปด้วย
มารุตก็เช่นเดียวกัน ช่วยพงศกรขึ้นไปที่เรือคายัก
ตอนนี้พงศกรหมดสติแล้ว แต่ขาของเขากลับยังเป็นตะคริว
วารุณีไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น เธอถูกพงศกรปกป้องอยู่ตลอด ถึงแม้จะจมน้ำ สั่นไปทั้งตัว แต่ก็ยังมีสติดี
“เร็ว ขับไป!”นัทธีตบหน้าของวารุณีเบาๆ ออกคำสั่งกับมารุต
มารุตก็รู้ว่าวารุณีกับพงศกรต้องไปพบหมอทันที หลังจากพยักหน้าอย่างซีเรียสแล้ว ก็ขับเรือคายักด้วยความเร็วสูงสุด
สองนาทีถัดมา ภายใต้การช่วยเหลือของทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย วารุณีกับพงศกรก็ถูกส่งมาที่เรือสำราญอย่างสำเร็จ
นัทธีคุกเข่าตรงข้างกายวารุณี กดไปที่ท้องของเธออย่างออกแรง เอาน้ำทะเลในท้องของเธอออกมา
วารุณีร้องส่งเสียงออกมา แล้วอ้วกออกมาหลายที สีหน้าขาวซีดจนเขียว ค่อยๆดูดีขึ้นมา
จากนั้น นัทธีเอามือข้างหนึ่งปิดจมูกของเธอไว้ มืออีกข้างยกขึ้นจับคางของเธอ ก้มหน้าลงผายปอดให้เธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...