ตอนนี้เอง ประธานวรวีบนเวที ก็ประกาศรูปแบบรับโควตาต่างๆ
เป็นการแข่งขัน สตูดิโอกับบริษัทต่างๆของจังหวัดจันทร์ ต่างเลือกดีไซเนอร์ที่โดดเด่นเข้าร่วมการแข่งขัน ดีไซเนอร์ที่ชนะอันดับหนึ่ง สามารถเป็นตัวแทนของสตูดิโอหรือบริษัท รวมทั้งประเทศไปร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ
“ง่ายขนาดนี้เชียว!”วารุณีหมุนปากกาไปมา แล้วพึมพำ
ดีไซเนอร์ที่อยู่ข้างๆได้ยิน ก็มองเธออย่างประหลาดใจ“ง่าย?คุณรู้ไหมจังหวัดจันทร์มีบริษัทเครื่องแต่งกายกับสตูดิโอเท่าไหร่?”
วารุณีคิดเล็กน้อย เลิกคิ้วขึ้นตอบ“คิดๆแล้วน่าจะหลักร้อยขึ้นไปมั้ง”
“ใช่ สตูดิโอกับบริษัทมากกว่าร้อยแห่ง หมายความว่ามีผู้เข้าแข่งขันหลายร้อย หนึ่งในนี้ยังมีแบนด์ใหญ่ๆอีกหลายแห่ง เช่นดาวค้างฟ้า สตูดิโอของรุ่งเรือง มูนไลท์ สตูดิโอของพิชญา พราวแพรวสตูดิโอของ......แน่นอนว่า นอกจากพวกนี้แล้ว ยังมีม้ามืดที่ยิ่งใหญ่อีก!”ดีไซเนอร์คนนี้ชูนิ้วโป้งให้ สีหน้าเคร่งเครียด
มองดีไซเนอร์คนนี้ที่เรียกตัวเอว่าม้ามืด ด้วยท่าทางหวาดกลัวอย่างนี้ วารุณีก็อดไม่ได้ที่จะจริงจังขึ้นมา ไม่หมุนปากกาที่มืออีก เอาวางลง“ม้ามืดที่คุณพูดชื่ออะไร?”
“ฉันก็ไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าเธอเป็นคนของ บริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป แฟชั่นโชว์ของบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปครั้งที่แล้วคุณได้ดูยัง?”ดีไซเนอร์เข้าไปใกล้วารุณี
วารุณีพยักหน้า“คุณหมายถึงBath fire rebirth?”
“ใช่ ม้ามืดที่ฉันพูดถึงก็คือหัวหน้าดีไซเนอร์ของแฟชั่นโชว์ครั้งนั้นใหญ่ชิ้นนั้น เสื้อผ้าที่จัดแสดงในโชว์ใหญ่นั้นสวยมาก จะเห็นได้ว่า พรสวรรค์การออกแบบของคนนั้นไม่ได้แพ้ดีไซเนอร์ชั้นนำพวกนั้นเลย ก็แค่ชื่อเสียงยังสู้ไม่ได้ ไม่ใช่แค่ ฉันว่าคนสุดท้ายที่จะได้โควต้าเข้ารวมการแข่งขันต้องเป็นเธอแน่”ดีไซเนอร์คนนี้ลูบคางพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
วารุณีก้มหน้าลงเล็กน้อย เอามืออุดปากไว้แล้วหัวเราะ
ที่จริงเธอยังคิดว่า จะสอบถามข้อมูลของม้ามืดคนนี้หน่อย ถึงตอนนั้นตอนที่ชิงโควตา ก็จะได้ไม่ใช่ว่าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคู่แข่ง
คิดไม่ถึงว่า ม้ามืดนี้จะเป็นตัวเอง
“คุณหัวเราะอะไร?”ดีไซเนอร์คนนี้เห็นวารุณีจู่ๆก็หัวเราะขึ้นมา จึงไม่ค่อยพอใจ
วารุณีส่ายมือ“ไม่มีอะไรๆ ขอบคุณสำหรับคำพูดที่น่าฟังของคุณนะ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อได้โควตานี้”
พูดจบ เธอก็ปิดสมุดลง กอดไว้ที่อกแล้วยืนขึ้นมา
ดีไซเนอร์ฟังที่เธอพูด ก็กะพริบตาอย่างตะลึง จากนั้นได้สติคืนมา ชี้ไปที่เธออย่างตกใจและตื่นเต้น“คุณ......คุณคือคน......”
“ชู่ว!”วารุณียกนิ้วหนึ่งนิ้วมาไว้ที่ปาก ทำท่าเงียบให้ดีไซเนอร์คนนี้“เบาๆ!”
ดีไซเนอร์คนนี้พยักหน้าอย่างตื่นเต้น เบ้าตามีประกายขึ้นมา มองวารุณีเหมือนมองไอดอล“ฉันเข้าใจแล้วๆ!”
“งั้นฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกัน!”วารุณีโบกมือให้เธอด้วยรอยยิ้ม หันกลับออกไปจากห้องประชุม
ด้านนอกห้องประชุม วารุณีก็เจอนัทธีอีก
เขาเอนไปที่กำแพง ก้มหน้าลงเล็กน้อย มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง มืออีกข้างคีบบุหรี่มวนหนึ่ง บุหรี่ไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง พร้อมกับเขม่าควันยาวๆ
วารุณีหยุดฝีเท้าลงอย่างไม่รู้ตัว จ้องเขา
เธอรู้มาตลอดว่าเขาสูบบุหรี่ เพราะว่ามีหลายครั้ง เธอได้กลิ่นบุหรี่จากตัวเขา แต่ไม่เคยเห็นเขาสูบกับตา
ครั้งนี้ ในที่สุดเธอก็เห็นแล้ว หล่อมาก มาพร้อมกับความโชกโชนบางๆ ที่ทำให้คนอดไม่ไหวที่อยากจะเข้าใกล้เขา อยากรู้จักทุกอย่างของเขา
“ออกมาแล้วเหรอ?”วารุณีกำลังจ้องนัทธีอย่างตั้งใจอยู่นั้น จ้องจนหลงใหล นัทธีก็เขี่ยขี้เถ้า แล้วจู่ๆก็เงยหน้าขึ้น มองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง
ดวงตาวารุณีเป็นประกาย ได้สติคืนมา ก็พยักหน้าเล็กน้อย ถือว่าตอบกลับ จากนั้นก้าวเท้าเดินออกไปจากตรงหน้าเขา เดินไปที่ลิฟต์
“เดี๋ยว!”นัทธีบีบก้นบุหรี่แล้วตามไป คว้าแขนของเธอไว้
วารุณีไม่ทันระวังที่ถูกเขาคว้าไว้ เท้าที่ก้าวออกไปหมุนอยู่ที่เดิม หันกลับชนเข้ากับอ้อมแขนของนัทธี
ศีรษะของเธอชนกับคางของชายหนุ่ม
เธอไม่เป็นอะไร แต่ชายหนุ่มกลับทำเสียงฮึดฮัด แขนที่ปล่อยเธอก็เอามาจับปากไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...