วารุณีรู้ว่าปาจรีย์อยากให้เธอขับรถกลับไป ในใจก็รู้สึกอบอุ่น รับกุญแจไว้“ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไร แต่ว่าวารุณี เธอควรซื้อรถสักคันนะ”ปาจรีย์ส่ายมือด้วยรอยยิ้ม
วารุณีพยักหน้า“อือควรซื้อไว้ ออกจากบ้านก็สะดวก ไม่ต้องเอาแต่เรียกรถหรือให้คนไปส่ง”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุทางรถยนต์ของพงศกรวันนี้ ยิ่งทำให้เธอมีสติคืนมา
ถ้าวันไหนมีคนประสบอุบัติเหตุเพราะไปส่งเธออีกล่ะ เธอคงจะบ้าจริงๆ ดังนั้นตัวเองซื้อรถไว้สักคันก็คงดี เกิดอะไรขึ้นก็จะได้ไม่เหนื่อยคนอื่น
ในใจแอบเอาเรื่องซื้อรถนี้เก็บไปคิด มือข้างหนึ่งของวารุณีอุ้มไอริณที่หลับ มือข้างหนึ่งจูงอารัณ ออกไปจากโรงพยาบาล
วันถัดมา หลังจากวารุณีส่งไอริณไปโรงเรียนอนุบาล ก็พาอารัณไปดูรถที่ร้าน 4S
เธอไม่คิดจะซื้อรถแพงมากนัก สองสามแสนก็พอแล้ว ปกติแค่เอามาใช้แทนการเดินเท่านั้น ดังนั้นเลยไม่ต้องการอะไรมาก
วารุณีจูงมือของอารัณ เดินรอบรถธรรมดาทีละคันๆ สุดท้ายจึงเลือกสีขาวคันหนึ่ง
“อันนี้ละกันค่ะ”วารุณีตบหน้ารถ พูดกับเซลล์ข้างๆ
เซลล์กำลังตอบตกลง ก็มีเสียงผู้ชายที่ฟังดูขี้เล่นดังขึ้นมาจากด้านหลัง“เอาคันสีขาวด้านหลังให้คุณผู้หญิงคนนี้”
“หม่ามี๊ คุณลุง”อารัณดึงมือของวารุณี พูดเตือน
“หม่ามี๊รู้แล้ว”วารุณีตอบไปแล้วจ้องนิรุตติ์ที่กำลังเดินมาทางนี้ ตรงด้านหลังเซลล์
นิรุตติ์หยุดอยู่ตรงหน้าวารุณี ยิ้มให้สองแม่ลูกวารุณีก่อน จากนั้นก็เก็บรอยยิ้มไป หันไปพูดกับเซลล์“ไม่ได้ยินที่ผมพูดเมื่อครู่เหรอ ยังไม่รีบไปอีก?”
“ค่ะ”เซลล์จำเขาได้ จึงพยักหน้าไปมาแล้วไปเตรียมสัญญา
หลังจากเซลล์เดินไป นิรุตติ์ก็เอาสายตามองไปที่สองคนแม่ลูกอีกครั้ง“วารุณี ไม่เจอกันนานเลยนะ”
วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“ไม่เจอกันนานเลยค่ะผู้อำนวยการนิรุตติ์ คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรคะ?”
ไม่ได้เจอกันระยะหนึ่งแล้วจริงๆ
เหมือนว่าหลังจากที่เขาเจาะเลือดไป เขาก็หายตัวไปเลย
“ที่นี่คือหนึ่งในร้านที่ผมลงทุน วันนี้ผมมาตรวจดูผลประกอบการน่ะ เห็นคุณมา เลยเข้ามาทักทาย ใช่สิ เด็กน้อยเป็นอย่างไรบ้าง ฟื้นคืนกลับมาเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม?”นิรุตติ์ก้มลงมองอารัณที่อยู่ข้างๆวารุณี ยื่นมือออกไป อยากจะลูบหัวของอารัณ
แต่อารัณกลับปล่อยมือของวารุณี หลบไปอยู่หลังเขา
มือของนิรุตติ์นิ่งอยู่กลางอากาศ สีหน้าก็หม่นลงไปแป๊บหนึ่ง
วารุณีเห็นแบบนี้ ก็โค้งให้เขาอ่างขอโทษ“ขอโทษค่ะผู้อำนวยการนิรุตติ์ เด็กขี้กลัว ก็เลย......”
“ไม่เป็นไร”นิรุตติ์ยิ้มกลับไปอีกครั้ง ชักมือกลับมา วางไว้ในกระเป๋ากางเกง“นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมเจออารัณเอง เขาจะป้องกันตัวจากผมน่ะปกติ รอต่อไปพวกเราสนิทกันก็ดีขึ้น ยังไงผมก็เป็นลุงแท้ๆของเขา”
พูดถึงตรงนี้ ดวงตานิรุตติ์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จู่ๆก็นั่งยอง มองอารัณ“อารัณ เรียกลุงให้ฟังหน่อยสิ?”
แน่นอนว่าอารัณไม่ทำตาม กอดขาของวารุณีไว้ จ้องเขาอย่างระวังตัว
นิรุตติ์ก็ไม่หงุดหงิด ยืนขึ้นมาอย่างผิดหวัง“เฮ้อ ดูเหมือนคำว่าลุงนี้ ผมจะไม่ได้ยินแล้ว”
“ขอโทษค่ะผู้อำนวยการนิรุตติ์......”วารุณียิ้มขึ้นมาจากมุมปาก แล้วพูดขอโทษอีกครั้ง
พูดตามเหตุผลแล้ว เธอควรช่วยนิรุตติ์ ให้อารัณเรียกเขาว่าลุง ยังไงครั้งที่แล้วเขาก็ช่วยอารัณไว้
แต่เธอก็กลัวอารัณจะเรียกจนชิน ถ้าต่อไปเจอนัทธี แล้วนัทธีได้ยินอารัณเรียกนิรุตติ์แบบนี้ จะต้องสงสัยตัวตันของอารัณใหม่แน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...