“ดีมาก แต่ทีแรกพวกเราแค่บอกว่าให้คุณออกมาเป็นภรรยาของผม ไม่ได้บอกเลยนี่ว่าให้คุณตีผม ดังนั้นผมคิดได้ไหมว่า คุณกำลังใช้มันมาแก้แค้นส่วนตัวผม คุณภรรยา?”นิรุตติ์ยืนขึ้นมา เข้าใกล้วารุณีเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
วารุณีดึงอารัณให้ถอยไปก้าวหนึ่ง“อย่ามาเรียกมั่วนะ ฉันกลายเป็นภรรยาคุณเมื่อไหร่กันคะ!”
“ผมก็อยากรู้ คุณกลายเป็นภรรยาเขา อารัณกลายเป็นลูกชายเขาตั้งแต่เมื่อไหร่!”ทันใดนั้นประตูห้องส่วนตัวก็ถูกคนเปิดออก นัทธีกระจายความเย็นชาออกมาทั้งตัว มองวารุณีด้วยสายตาคุกรุ่น
“คุณอานัทธี”อารัณเรียกเขา
นัทธีก้มลงมอง พยักหน้าให้อารัณอย่างอบอุ่น ถือว่าตอบแล้ว
จากนั้นตอนที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง อาการก็กลับไปเย็นชาเหมือนเดิม เขาก้าวเท้ายาวๆเดินเข้ามาทีละก้าว ด้านหลังยังตามด้วยมารุต
“ประธานนัทธี คุณมาได้ไงคะ?”วารุณีมองชายหนุ่มที่เข้ามาใกล้ ถามอย่างตะลึงเล็กน้อย
นัทธีไม่ตอบ แต่หยุดอยู่ตรงหน้าเธอ จ้องมองเธออย่างโกรธเคือง“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามเมื่อกี๊ของผมเลย คุณกลายเป็นภรรยาของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เขาชี้ไปที่นิรุตติ์ ถามอีกครั้ง
วารุณีเผชิญหน้ากับคำถามที่แรงของเขาแบบนี้ จึงรู้สึกผิดเล็กน้อย อ้าปากแดงๆออกมา เตรียมอธิบาย
อย่างไรก็ตามตอนนี้เอง นิรุตติ์กลับกอดอก พูดอย่างมีเลศนัย“คำถามนี้ฉันตอบเองละกัน ก็เมื่อกี๊ไง”
“หุบปาก ผมไม่ได้ถามพี่!”นัทธีหรี่ตาลงอย่างอันตรายแล้วด่าออกไป
นิรุตติ์ยักไหล่“เค งั้นฉันไม่พูดโอเคยัง!”
นัทธีจึงละสายตาจากตัวเขา ไปมองที่วารุณี
“หม่ามี๊ คุณอานัทธีเหมือนจะโกรธเลย”อารัณดึงชายเสื้อของวารุณี
วารุณีตบหลังมือของเขา“หม่ามี๊รู้แล้ว ลูกไปตรงนั้นอย่างเชื่อฟังหน่อยนะ”
“อ้อ”อารัณก็รู้ว่านี่คือเรื่องระหว่างพวกผู้ใหญ่ ตัวเองยุ่งด้วยไม่ได้ จึงปล่อยชายเสื้อของเธออย่างเชื่อฟัง ไปนั่งที่โซฟาในมุมห้องส่วนตัว
นัทธีมองมารุตแวบหนึ่ง
มารุตพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วไปที่โซฟา อยู่กับอารัณ
ตรงนั้นเหลือแค่พวกวารุณีสามคน
วารุณีสูดหายใจเข้า“ประธานนัทธี ฉันไม่ได้เป็นภรรยาของผู้อำนวยการนิรุตติ์ ทั้งหมดนี้คือคาวมเข้าใจผิด ฉันแค่ช่วยผู้อำนวยการนิรุตติ์......”
“วารุณี คุณจะอธิบายเรื่องพวกนี้กับเขาทำไม”นิรุตติ์มองนัทธี หัวเราะตัดบท“นัทธีไม่ได้เป็นอะไรกับคุณสักหน่อย พวกคุณแค่เพื่อนกันทั่วไป คุณอธิบายกับเขาเรื่องพวกนี้ ถ้าไม่รู้ ก็คงคิดว่าคุณคือแฟนเขา”
ได้ยิน สายตาวารุณีก็ตะลึง
ใช่ ทำไมเธอต้องอธิบายกับนัทธีด้วย?
พวกเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน เธอรีบอธิบายแบบนี้ และยังมีความรู้สึกที่จะไปพัวพันความสัมพันธ์กับเขาอีก ทั้งที่เมื่อคืนเธอก็พูดแล้วว่า อยู่ให้ห่างนัทธี ทำไมจำไม่ได้ตลอดเลยนะ!
วารุณีกัดริมฝีปากอย่างหงุดหงิด ไม่ส่งเสียงใดๆ
เห็นเธอฟังคำพูดของนิรุตติ์ ก็เงียบลง นัทธีกำหมัดทั้งสองข้างไว้ สายตาแฝงความบ้าระห่ำ ลมหายใจทั้งตัวนั้นเยือกเย็นมากขึ้น
แต่นิรุตติ์กลับทำเรื่องให้วุ่นวายมากขึ้น หัวเราะแล้วพูดว่า“นัทธีแกเข้ามาแล้วมาถามคำถามพวกนี้กับวารุณี แกใช้สถานะอะไรมาถามเหรอ?”
สถานะ?
ริมฝีปากบางๆของนัทธีเม้มเข้า ไม่พูดต่อ
นิรุตติ์ดันแว่น หัวเราะเสียงเบา“ตอบไม่ได้สินะ เพราะว่าแกไม่มีสถานะใดๆเลย วารุณีก็ไม่ได้เป็นอะไรกับแก ดังนั้นแกไม่มีสิทธิ์ไปถามเธอ เธอทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับแกทั้งนั้น!”
“เหรอ”นัทธีหรี่ตาลงจ้องวารุณี“คุณก็คิดแบบนี้เหรอ?”
วารุณีหลับตาลง เหมือนตัดสินใจอะไร ตอนที่ลืมตามาอีกครั้ง สายตาเหลือเพียงความเย็นชา“ใช่ค่ะ อย่างที่ผู้อำนวยการนิรุตติ์บอกแหละค่ะ ฉันกับประธานนัทธีก็เป็นแค่เพื่อนกันทั่วไป ดังนั้นประธานนัทธีกรุณาอย่าทำท่าทางเหมือนเป็นคนรักฉัน มาถามฉันว่าทำอะไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...