พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 195

“จงใจอะไร ?”พิชญาเงยหน้าขึ้นจ้องมองเธอ แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด

วารุณีกำมือแน่น “จงใจยื่นขาออกมาเพื่อให้ฉันสะดุดล้ม!”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างก็อึ้งไปตามๆกัน

“ที่แท้ที่คุณวารุณีเกือบล้มนั้น เป็นเพราะคุณพิชญายื่นขาออกมาขัดขาเขางั้นเหรอ ”

“ต้องใช่แน่ๆ ทางเดินนี้เป็นพื้นเรียบ ไม่มีขั้นบันไดอะไรสักหน่อย หากไม่มีอะไรมาขัดขา ไม่มีทางล้มได้แน่นอน ”

“งั้นคุณพิชญาก็ทำเกินไปนะ !”

ฟังการถกเถียงของบริเวณโดยรอบ พิชญาไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร แต่กลับหัวเราะขึ้นมาแทน “ฉันยอมรับว่าฉันยื่นขาออกมา แต่เป็นเพราะฉันงอขาอยู่เป็นเวลานานจึงเมื่อย เลยเหยียดขาตัวเอง แต่ฉันก็เหยียดขาอยู่อย่างนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะเธอไม่มองที่พื้นเอง แล้วยังหาว่าฉันจงใจทำ งั้นฉันจะว่าเธอว่าแกล้งทำเป็นข้อเท้าพลิกแล้วล้มได้ไหม เพื่อที่จะใส่ร้ายฉัน”

ในเมื่อตอนที่เธอเหยียดขาออกมาก็ไม่มีใครเห็น และกล้องที่ถ่ายทอดสดก็คงไม่ถ่ายด้านล่าง

ไม่มีหลักฐาน ใครจะทำอะไรเธอได้ ?

เมื่อเห็นดวงตาที่ได้ใจของพิชญา วารุณีก็พอจะเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไร ริมฝีปากแดงเม้มแน่น แววตาคมฉายความกรุ่นโกรธ กำลังคิดที่จะเอาคืน

ประธานวรวีถือเอกสารชุดหนึ่งเดินเข้ามา มองดูห้องประชุมที่มีเสียงอึกทึก ใบหน้าก็เคร่งขรึม“เอะอะเสียงดังอะไรกัน ?”

“ประธานวรวี คือแบบนี้ครับ ”นักข่าวที่พูดจาฉะฉานคนหนึ่ง ก็เริ่มเล่าเรื่อง ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดทันที

หลังจากที่ประธานวรวีฟังจบ ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสายตาที่เย็นเยือกก็จ้องมองไปที่พิชญา“นักออกแบบบางคน ไม่มีพรสวรรค์ไม่คิดจะพยายามยังเลือกใช้วิธีสกปรก หนำซ้ำจิตใจยังโหดเหี้ยม ช่างเบิกตาให้ผู้คนได้ตาสว่างเสียจริง ”

คำพูดเหล่านี้ทำให้คนในห้องประชุม และผู้ชมที่ดูถ่ายทอดสดอยู่ต่างก็ตกตะลึง

ทุกคนต่างก็ดูออก ว่าคนที่ประธานวรวีพูดนั้นหมายถึงพิชญา เพราะสายตาเขาจ้องมองไปที่เธอ

ไม่เพียงประธานวรวีบอกว่าเธอใช้วิธีสกปรก จิตใจโหดเหี้ยม และคิดไปถึงเรื่องที่คุณวารุณีเกือบจะสะดุดล้ม สายตาทุกคนที่มองเธอ ก็ดูซับซ้อนมากขึ้น

บางที เหตุการณ์เมื่อครู่ของคุณวารุณี อาจจะเป็นความตั้งใจของหญิงสาวที่คิดจะขัดขาของคุณวารุณี

เมื่อรู้สึกถึงการเปลี่ยนไปของผู้คนรอบข้าง วารุณีก็ยิ้มออกมา ในใจก็กระจ่าง ประธานวรวีรู้เรื่องที่พิชญาลอกแบบคนอื่นแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ฟังคำพูดของนักข่าวจบ ถึงได้พูดคำที่มันแฝงนัยลึกซึ้งแบบนี้ และเชื่ออย่างไม่ลังเล ว่าพิชญาจงใจขัดขาเธอ

เพราะเรื่องไร้จรรยาบรรณอย่างการลอกเลียนแบบของคนอื่นแบบนี้ยังทำได้ แล้วยังจะมีเรื่องอะไรที่พิชญาทำไม่ได้กัน ?

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ วารุณีก็มองไปที่พิชญา แล้วขยับปากทำท่าทำทางให้เธอ “เธอเสร็จแน่!”

พิชญาเข้าใจทันที สีหน้าสลด เดี๋ยวซีดเดี๋ยวขาว มือที่วางอยู่ตรงที่พักแขนของรถเข็น ก็บีบกำจนแน่น

เธอจะไม่เข้าใจคำพูดที่ประธานวรวีพูดได้ยังไง ที่เจตนาว่าตัวเองอยู่ แต่ก็ไม่กล้าที่จะแย้งกลับไป

เพราะถ้าหากเธอแย้งกลับไป ก็เท่ากับยอมรับว่าคนที่ประธานวรวีพูดนั้นคือเธอ แม้ว่าคนในที่นี้จะรู้ แต่หากเธอเป็นคนเริ่มพูดก่อนมันก็จะต่างออกไป เพราะฉะนั้นเธอจึงจำต้องแกล้งเป็นใบ้

ในขณะเดียวกันในใจของพิชญาก็รู้สึกเป็นกังวล ประธานวรวีบอกว่าเธอใช้วิธีสกปรก หรือจะรู้เรื่องอะไรมางั้นเหรอ ?

“เอาละครับคุณวารุณี การแข่งขันจะเริ่มขึ้นแล้ว คุณรีบไปนั่งที่เถอะครับ ”บนเวที ประธานวรวีก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

“ค่ะ”วารุณีรับคำ แล้วเดินไปนั่งลงที่นั่งก่อนหน้า

สีหน้าของประธานวรวีก็ดูดีขึ้นมาก“ ในเมื่อทุกคนมากันครบแล้ว งั้นตอนนี้เราจะประกาศผลการแข่งขันในรอบเช้า ที่สี่รุ่งเรือง ที่สาม ตาณ ที่สอง พิชญา!”

เมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง พิชญาก็เงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ทำไมฉันถึงได้ที่สองค่ะ !”

เธอได้ที่สอง งั้นที่หนึ่งก็คือวารุณี ซึ่งมันทำให้เธอรับไม่ได้

การออกแบบของเธอ เป็นการผสมผสานของนักออกแบบหลายๆคนมารวมกัน แล้วมันจะแพ้ให้กับวารุณีได้ยังไง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ