หญิงสาวหลบตา ไม่ตอบคำถาม
วารุณีหรี่ตา คลายแรงในมือลง แล้วถามออกไปอีกครั้ง“ ตอบฉันมา ว่าช่วยเขาทำไม !”
“ฉัน......ฉันก็ไม่อยากทำ แต่เธอข่มขู่ฉัน!”หญิงสาวราวกับทุ่มหมดหน้าตัก หลับตาลง และตอบออกไปเสียงดัง
พิชญาไม่ห่วงขาที่หักของเธอ มือยันไปที่โต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน ตะโกนกลับอย่างโกรธเคือง “เหลวไหล ฉันไปข่มขู่เธอตอนไหน ?ก่อนที่เธอจะเอาแบบมาให้ฉัน ฉันไม่เคยรู้จักกับเธอมาก่อน !”
เธอยอมรับเรื่องที่เธอลอกเลียนแบบของวารุณียังจะดีซะกว่า ที่จะต้องมารับผิดในเรื่องนี้
“ที่เขาพูดมันจริงไหม เขาไม่รู้จักเธอจริงๆเหรอ ?”วารุณีมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น
หญิงสาวส่ายหน้าไปมา “ใช่ ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ก่อนการแข่งจะเริ่มขึ้นเธอมาหาฉัน ให้เงินฉันจำนวนหนึ่ง แล้วให้ฉันคอยดูงานแบบของคุณวารุณีจากการถ่ายทอดสด รอให้คุณวารุณีวาดแบบออกมาได้แล้ว แคปรูปเอาไว้ จากนั้นก็ให้ฉันไปรอเธอที่ในห้องน้ำ”
“ฉันไม่ได้ทำ!”พิชญาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หน้าอกกระเพื่อมสั่นไหวอย่างรุนแรง
เธอทำแบบนี้เมื่อไหร่กัน ?
ไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้หรอกเหรอที่เข้ามาหาเธอเอง ?
วารุณีมองไปที่พิชญา แล้วหันกลับไปมองที่ผู้หญิงคนนั้น ก้มหน้าลงแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ผ่านไปไม่ถึงนาที เธอเงยหน้าขึ้นแล้วถามอีกครั้งว่า“ในเมื่อพิชญาบอกให้เธอรออยู่ในห้องน้ำ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าต้องไปห้องน้ำตอนไหน ?”
ผู้หญิงคนนั้นชี้นิ้วไปยังอีกฝั่งของห้องประชุมที่มีกลุ่มนักข่าวอยู่ ชี้ไปยังคนคนหนึ่ง“เขา เขาก็เฝ้าดูการถ่ายทอดสดอยู่ หลังจากที่คุณวารุณีวาดเสร็จ เขาก็แกล้งเดินผ่านหน้าของพิชญา แล้วโยนกระดาษให้เธอ บอกเธอว่าให้ไปหาฉันที่ห้องน้ำ”
“อย่างนี้นี่เอง!”วารุณีพยักหน้า สายตามองผ่านพิชญาที่ตอนนี้ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อคน แล้วมองไปที่ประธานวรวี
ประธานวรวีออกคำสั่งให้เลขาฯภูมิพาตัวนักข่าวคนนั้นมา
นักข่าวคนนั้นเหมือนจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะต้องถูกพาตัวมา ในตอนนี้ก็ไม่ได้ขัดขืน ยอมเดินตามมาแต่โดยดี
“คุณก็ถูกเธอติดสินบนเหรอ ?”ประธานวรวีชี้ไปที่พิชญา แล้วถามนักข่าวคนนั้น
นักข่าวคนนั้นเหลือบมองไปที่พิชญา แล้วจึงพยักหน้าหงึกๆ “ครับ......ใช่ครับ”
“นี่พวกแก......พวกแก.......”ร่างกายพิชญาสั่นสะท้านไม่หยุด โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มือที่ค้ำอยู่บนโต๊ะ มีเส้นเลือดปูดโปนออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ผ่านไปสักพัก เหมือนเธอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆก็หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยการประชดประชันและไม่พอใจ “ฉันรู้แล้ว พวกเขาสองคนร่วมมือกันทำร้ายฉัน ฉันก็ว่า โลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญแบบนี้ได้ยังไงกัน เจ้านายของพวกเธอ ช่างเจ้าแผนการจริงๆ !”
“เจ้านาย หมายความว่าไง ? ” ประธานวรวีก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
วารุณีเองกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไร ดวงตาฉายแววอย่างที่คิดเอาไว้
เธอรู้จักพิชญาดี เพราะฉะนั้นเธอมองออกแต่แรกแล้ว ว่าพิชญาไม่ได้โกหก ผู้หญิงคนนี้และนักข่าวคนนี้ พิชญาไม่ได้เป็นคนติดสินบนพวกเขา แต่เป็นเพราะฟังคำสั่งของคนอื่น เพื่อมาช่วยพิชญา
หากสองคนนี้ไม่ถูกจับได้ก็คงดี แต่เพราะถูกจับได้เสียก่อน ทั้งสองจึงต้องโยนความผิดทุกอย่างมาที่พิชญา ให้พิชญารับผิดทั้งหมด จุดประสงค์ก็เพื่อปิดบังอำพรางผู้บงการตัวจริง
“สองคนนี้ เชื่อฟังคำสั่งของเจ้านาย ใช้ฉันเป็นเครื่องมือเพื่อทำลายวารุณี ถ้าสำเร็จเราต่างก็ได้ผลประโยชน์ แต่ถ้าพลาด ก็มีฉันคนเดียวที่ต้องรับกรรม ที่น่าหัวเราะก็คือ ฉันคิดไม่ถึงจุดนี้ตั้งแต่ทีแรก แค่ได้ยินว่าจะทำลายวารุณีได้ฉันก็กระโดดเข้าร่วมโดยทันที!”พิชญาจ้องเขม็งไปที่หญิงสาวกับนักข่าวคนนั้น แล้วกล่าวพูดตำหนิตัวเอง
ทุกคนในที่นี้ กับผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ต่างก็ตกตะลึงกันขึ้นมาอีกครั้ง
พวกเขาไม่คิดว่า การลอกเลียนแบบที่เล็กน้อยนี้ จะมีเบื้องหลังที่มากมายอย่างนี้ ช่างเป็นละครฉากใหญ่เสียจริง
“พวกคุณไม่ใช่คนที่พิชญาติดสินบน แต่ถูกคนอื่นจ้างวานมาเพื่อทำลายคุณวารุณีเหรอ ?” ประธานวรวีถามอย่างตำหนิไปที่ผู้หญิงกับนักข่าวคนนั้น
หญิงสาวกับนักข่าวมองหน้ากัน แล้วรีบโบกมือปฏิเสธทันที “ไม่ใช่นะไม่ใช่ เบื้องหลังของเราไม่มีใคร แต่เป็นพิชญาเองนั่นแหละที่เป็นคนจ้างวานพวกเราเอง ”
ในตอนที่พูดคำนี้ ดวงตาของคนทั้งสองต่างก็มีความหวาดกลัวพาดผ่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...