“มันก็น่าจะเป็นไปได้นี่น่า?”วารุณีลุกขึ้นยืน ใบหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ
พิชญาหัวเราะลั่น“คุณวารุณีก็พูดเกินไป ต่อให้ฉันจะลุกออกจากที่นั่งไป แต่มันก็ใช้เวลาไปแค่เจ็ดถึงแปดนาทีเท่านั้น จะไปทำอะไรได้ ? และตอนที่ฉันออกไป ก็ไม่ได้เดินผ่านที่นั่งของคุณ และก็มองไม่เห็นงานแบบของคุณด้วย แล้วฉันจะลอกแบบของคุณได้ยังไง ?”
“ก็ใช่”คนในงานกับผู้ชมที่ดูถ่ายทอดสดอยู่ ต่างก็คิดว่ามันก็มีเหตุผล
วารุณีมองไปที่หญิงสาวอย่างเย็นชา “เธอมองไม่เห็นงานแบบของฉัน แต่คนที่ดูถ่ายทอดสดอยู่เขาเห็น ”
“งั้นคุณก็หมายความว่า มีผู้ชมเอาภาพงานแบบของคุณให้ฉัน ในตอนที่ฉันไปเข้าห้องน้ำงั้นเหรอ ?”พิชญาระบายยิ้มออกมา
วารุณีเชิดหน้าขึ้น ไม่ตอบว่าที่เธอพูดนั้นถูกหรือไม่
แม้ว่าในใจของพิชญาจะกระวนกระวายที่เธอเดาออก แต่ภายนอกก็ยังคงแสดงออกเหมือนไม่มีอะไร เธอเบะปาก “ตลกละ เธอพูดว่ามันใช่ก็คือใช่งั้นเหรอ ? ผู้ชมที่เขาดูถ่ายทอดสดอยู่จะมาเกี่ยวอะไรกับฉัน แล้วทำไมเขาต้องมาช่วยฉันด้วย ? อีกอย่าง เห็นฉันติดต่อกับพวกเขางั้นเหรอ ระหว่างการแข่ง ก็ห้ามใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วย”
“ใช่ ตอนที่คุณพิชญาออกไป ฉันก็ไม่เห็นเธอถือโทรศัพท์ไปด้วย แล้วเธอจะติดต่อให้คนอื่นช่วยเธอยังไง บางทีคุณวารุณีอาจจะเข้าใจผิดก็ได้”
“หากเป็นแบบนี้ ทั้งสองคนต่างก็ไม่มีใครลอกแบบของใคร เรื่องก็ต้องมาถึงทางตันนะสิ เป็นไปได้เหรอที่คนสองคนจะคิดแบบออกมาได้เหมือนกันแบบนี้ ?”
ผู้ชมในสนามต่างก็แสดงความคิดเห็น และผู้ชมที่ดูถ่ายทอดสดอยู่ต่างก็คาดเดากันไปต่างๆนานาไม่หยุด
นวิยาเอนกายพิงไปยังหมอนบนหัวเตียง“นัทธี คุณว่า เขาสองคนใครกันที่เป็นคนลอกแบบของอีกคน ?”
“พิชญา!”นัทธีไม่ได้มองเธอ ดวงตาที่ลุ่มลึกยังคงจ้องมองดูหน้าจอที่ถ่ายทอดสดอยู่ และพูดชื่อนี้ออกมาอย่างเย็นชา
ดวงตาของนวิยาไหววูบไปชั่วขณะ“ทำไมคุณถึงได้มั่นใจอย่างนี้ หากมันไม่ใช่อดีตคู่หมั้นของคุณ แต่เป็นวารุณี ......”
“วารุณีมีพรสวรรค์ ทำไมเธอต้องลอกด้วย ?”นัทธีขมวดคิ้วแล้วจ้องมองมาที่เธอ แววตาแสดงออกถึงความไม่พอใจเล็กน้อย
รูม่านตานวิยาหดลง มือในผ้าห่มก็กำกันแน่น
เพราะวารุณีเขาถึงกับแสดงท่าทีไม่พอใจเธอ ?
เธอกับเขาเป็นคนรักที่โตมาด้วยกัน ก็ยังเทียบไม่ได้กับผู้หญิงที่เพิ่งจะรู้จักกันแค่ไม่กี่เดือนเหรอ
ในใจของนวิยาเริ่มที่จะอยู่ไม่สุข แต่ภายนอก กลับไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา ที่พอจะมองเห็น คงมีเพียงความผิดหวังที่นัทธีไม่เห็นด้วยกับเธอ
เธอหลับตาลง ปิดบังแววตาที่วูบไหว แล้วพูดอย่างแผ่วเบาไปว่า“ฉันก็แค่เดา ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ ทำไมคุณต้องดุฉันด้วย ?”
นัทธีก็ตกใจขึ้นมา
เขาดุเหรอ?
เม้มริมฝีปากบางแน่น นัทธีผ่อนลมหายใจ“ขอโทษ ผมแค่อยากจะบอกคุณ วารุณีไม่มีทางลอกแบบของใคร ตั้งแต่เริ่มการแข่ง กล้องก็จับภาพของเธออยู่ตลอดไม่ได้หลุดเฟรมเลย แต่กลับพิชญา ก่อนที่เธอจะไปเข้าห้องน้ำ ไม่ได้วาดอะไรออกมาเลย ออกจากห้องน้ำมาก็วาดแบบได้เลย ดูก็รู้ว่ามันไม่ปรกติ ”
พูดจบ เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
เมื่อนวิยาเห็น ก็เอามือไปกดที่บนโทรศัพท์ของเขา“นัทธีคุณจะทำอะไร?”
นัทธีดึงโทรศัพท์ออก “ค้นหาความจริงของเรื่องนี้ ”
“คุณจะช่วยคุณวารุณี?” นวิยาหรี่ตาลง
นัทธีไม่ตอบว่าที่หญิงสาวพูดนั้นถูกหรือไม่
นวิยาขบริมฝีปากแน่น “นัทธี ทำไมคุณต้องช่วยเธอ หรือคุณ......”
นัทธีรู้ว่านวิยากำลังจะพูดอะไร เดิมทีก็อยากที่จะยอมรับออกไป แต่พอเห็นร่างกายที่อ่อนแอของเธอ อีกทั้งคำพูดก่อนหน้าของพิชิตที่บอกว่าห้ามพูดอะไรที่กระทบกระเทือนความรู้สึกของเธอ สุดท้ายแล้วก็ต้องปฏิเสธออกไป ริมฝีปากบางตอบกลับไปว่า “ไม่ ผมแค่ชื่นชมเธอ”
“งั้นเหรอคะ”นวิยาดูเหมือนจะสบายใจขึ้นแล้วจึงยิ้มออกมา
นัทธีไม่ได้มองไปที่เธออีก กดโทรออกไปยังเบอร์ของประธานวรวีสมาคมออกแบบ ให้ประธานวรวีเช็กกล้องวงจรปิดทุกตัวของทางสมาคม จำเพาะเจาะจงไปในตอนที่พิชญาเข้าห้องน้ำ และคนที่เข้าออกในห้องน้ำช่วงนั้น
แค่เจาะจงคนที่เข้าออกในช่วงเวลานั้น ก็จะสามารถหาหลักฐานที่พิชญาลอกเลียนแบบได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...