เรื่องวันนี้ เธอไม่เคยคิดมาก่อน ที่ผ่านมาลูกทั้งสองคนต่างมีความสุขกันมาก และก็ไม่เคยร้องงอแงหาพ่อมาก่อน ดังนั้นเธอคิดว่าตลอดว่า พวกเขาไม่ต้องการพ่อ แค่ต้องการเธอที่เป็นแม่คนนี้อยู่เคียงข้างจนพวกเขาเติบโตตลอดไปก็พอแล้ว
แต่ตอนนี้เธอเข้าใจทันทีว่า เธอคิดแบบนี้ผิดโดยสิ้นเชิง การเติบโตของลูกไม่ควรขาดพ่อแม่แท้ๆเคียงข้างไปด้วย ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถขาดพ่อไปได้ กระทั่งว่าหลายๆครั้ง การสั่งสอนของพ่อที่มีต่อลูก แม่ก็ไม่อาจทำได้
มองสภาพวารุณีที่ดูเจ็บปวด สายตานัทธีก็เป็นประกาย นั่งตัวตรงเล็กน้อย
“ถึงผมไม่รู้ว่าทำไมคุณต้องแยกกับพ่อของเด็กๆ แล้วเลือกที่จะคลอดลูกคนเดียว แต่ว่าคุณเพิ่งพูดว่าพ่อของเด็กๆมีคนที่รักอีกคนแล้ว หมายความว่าพวกคุณไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้แล้ว งั้นคุณเคยคิดไหมว่า จะหาพ่ออีกคนให้เด็กทั้งสอง?”
“หาพ่อ?”สายตาวารุณีตะลึงไป
ตรงนี้เธอไม่เคยคิดจริงๆ
“ใช่”นัทธีพยักหน้า“ตอนนี้เด็กทั้งสองคนยังเล็กอยู่ เป็นช่วงที่ต้องการพ่อแม่มาอยู่ด้วย คุณสามารถทำแบบนี้ได้”
วารุณีส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น“ง่ายแบบนี้ที่ไหนกัน ใครจะยอมแต่งกับผู้หญิงที่มีลูกสองแล้ว”
มือนัทธีที่วางไว้ในกระเป๋ากางเกง ก็กำขึ้นมา“เยอะมาก แค่คุณยอม ผม......”
อย่างไรก็ตามเขายังพูดไม่จบ ก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามาตัดบท
เขาขมวดคิ้ว จ้องกระเป๋าช่วงเอวของวารุณีอย่างไม่พอใจนัก ริมฝีปากบางๆเม้มลงอย่างเย็นชา
วารุณีไม่เห็นความผิดปกติของเขา ก้มหน้าลงหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ามาดู มองเห็นเป็นสุภัทรโทรมา หน้าเล็กๆก็หม่นลงไป
“เป็นไงบ้าง คิดได้หรือยัง?”หลังจากกดรับสาย สุภัทรดื่มกาแฟ ถามอย่างใจเย็น
วารุณีกำโทรศัพท์แน่น ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น:“ฉันยังคำเดิม ไม่รับปาก!”
หน้าแก่ๆของสุภัทรหมองไป เอาแก้วกาแฟวางบนโต๊ะน้ำชาตรงหน้าแรงๆเสียงดังปัง“จนตอนนี้แกยังไม่ยอมรับอีกเหรอ?แกไม่เห็นคำที่ด่าแกบนอินเทอร์เน็ตเหรอ?”
“เห็นแล้ว”
“เห็นแล้วแต่แกยังแบบนี้อีก แกอยากให้พวกเขาด่าแบบนี้ต่อไปเหรอ?”สุภัทรตบโต๊ะ
นัทธีจ้องโทรศัพท์ของวารุณี
วารุณีเห็นเขาอยากฟัง คิดว่าเรื่องนี้เขาก็เกี่ยวข้องด้วย จึงเอาโทรศัพท์ออกมาจากหู แล้วเปิดลำโพงซะเลย ตอบไปว่า:“คุณสุภัทร คุณไม่ต้องมาทำเป็นคิดแบบนี้เพื่อฉันหรอก ฉันเห็นแล้วดูปลอมมาก ยังไงฉันถูกคนด่าแบบนี้ ก็ไม่ใช่เพราะคุณที่ทำเหรอ?”
“แก......”สุภัทรอึกอักเพราะเธอ แต่แป๊บเดียวก็ปรับสภาวะให้ดีขึ้น พูดเสียงเย็นชา“ฉันทำแบบนี้ ไม่ใช่เพราะถูกแกบังคับเหรอ ถ้าแกรับปากฉันไวๆ ฉันต้องทำแบบนี้กับแกไหม?”
“ใช่ ฉันไม่ยอมหรอก ดังนั้นคุณจะเล่นงานฉัน งั้นประธานนัทธีล่ะ ประธานนัทธีบังคับคุณ?”วารุณีเงยหน้ามองชายตรงข้าม พูดกับโทรศัพท์อย่างเย็นชา
ชายหนุ่มหรี่ตาลง ยังคงไม่ส่งเสียงใดๆ
ที่ปลายสาย สุภัทรขมวดคิ้ว“นี่มันเกี่ยวอะไรกับนัทธี?”
“ทำไมไม่เกี่ยวกับประธานนัทธีล่ะ เหตุผลที่คุณทำให้ชื่อเสียงฉันให้แปดเปื้อน ก็เพราะฉันยั่วยวนประธานนัทธีอย่างหน้าด้าน ทำลายการหมั้นของประธานนัทธีกับพิชญา แต่คุณเคยคิดไหมว่าประธานนัทธีจะยอมถูกคุณหลอกใช้มาทำให้ชื่อเสียงของฉันแปดเปื้อน?”วารุณียกมุมปากขึ้นมาอย่างเหน็บแนม
ได้ยินคำนี้ รูม่านตาของสุภัทรหดลง เนื้อหนังบนหน้าแก่ๆนั่นสั่นคลอน ที่ปากพูดไม่ออก
ตรงนี้เขาไม่เคยคิดจริงๆ
เขาแค่อยากใช้ข่าวลือที่ง่ายที่สุด ได้ผลที่สุด ไปทำให้ชื่อเสียงให้วารุณีผู้หญิงคนนี้แปดเปื้อน ไม่เคยคิดจะเอานัทธีเข้ามาพัวพันเลย เพราะจะทำให้นัทธีไม่พอใจได้
นานมากที่ไม่ได้ยินการตอบกลับของสุภัทร วารุณีก็รู้ว่าตัวเองพูดถูก มองนัทธีที่อยู่ตรงข้ามแล้วพูดว่า“คุณไม่เคยคิดจริงๆด้วย งั้นคุณบอกมาสิ ถ้าฉันไปขอความช่วยเหลือจากประธานนัทธี ประธานนัทธีจะช่วยฉันปิดข่าวในเน็ตไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...