“ไม่ต้องโวยวายแล้ว กูเห็นแล้ว!”ชายหนุ่มที่ขับรถตะโกนด้วยเหงื่อที่เต็มหน้า
คนที่อยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับกำลังตัวสั่น“งั้นเฮียว่า ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี หรือว่าพวกเราจะหยุดรถแล้วยอมจำนน เอาผู้หญิงคนนี้คืนให้พวกเขา ไม่แน่พวกเราอาจจะถูกผ่อนปรนได้”
“ใช่ครับเฮีย”คนที่นั่งอยู่ด้านหลังก็คิดว่าวิธีนี้ดีที่สุด จึงพยักหน้าโน้มน้าว
สีหน้าชายหนุ่มที่ขับรถดูน่ากลัว“ไร้เดียงสา พวกแกคิดว่าได้เหรอไง?พวกเขาพาหน่วยSWATที่มีปืนจริงกระสุนจริงมา เห็นชัดว่าอยากบอกพวกเราว่า พวกเขาไม่ปล่อยพวกเราแน่ ถึงพวกเรายอมจำนน จุดจบก็ไม่ดีเท่าไหร่หรอก”
“แต่ว่า......”
“พอแล้ว ไม่ต้องแต่แล้ว”ชายหนุ่มที่ขับรถตวาดเสียงทุ้มเบาออกไป มีความโหดเหี้ยมอย่างเฉียบขาดในสายตา
“ยังไงก็ถึงจุดนี้แล้ว พวกเราทำแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุดไปเลยสิ พาผู้หญิงคนนี้ตายไปด้วยกัน แบบนี้พวกเราก็ไม่เหนื่อยถึงครอบครัว ไม่แน่ว่าคนๆนั้นอาจจะเห็นแก่พวกเราที่ฆ่าผู้หญิงคนนี้ได้ ดีใจจนให้เงินครอบครัวเราก้อนใหญ่ก็เป็นได้นะ”
คำนี้พูดออกไป ในรถตู้เงียบลงทันที ผู้ชายสองสามคนมองหน้ากัน เหมือนว่าต่างรับรู้
วารุณีมองตรงนี้ออก ความสุขในใจที่เพิ่งได้รับหายไป แทนที่ด้วยความหวาดกลัวอันเต็มเปี่ยม
เธอส่ายหัวอย่างรุนแรง ร้องไห้ฮือๆ อยากให้คนพวกนี้หยุดความคิดนี้ลง
แต่คนพวกนี้ดูฟังเขาไม่ออกอย่างชัดเจน สูดลมหายใจลึกๆ การแสดงออกบนใบหน้าเปลี่ยนเป็นความเด็ดเดี่ยว
“ครับ เฮีย เอาอย่างที่เฮียพูด ตายในเงื้อมมือของตัวเอง ดีกว่าถูกคนข้างหลังพวกนั้นจับ โดนกระสุนปืนเสียอีก”
“โอเคเพื่อนยาก!”ชายหนุ่มที่ขับรถพยักหน้าอย่างปลอบโยน จากนั้นหรี่ตาลง ภายใต้สายตาหวาดกลัวของวารุณี ก็ตบพวงมาลัย ขับรถชนไปที่รั้วกั้นตรงข้างถนน
ถนนเส้นนี้สร้างบนไหล่เขา ด้านล่างมีหน้าผา ถ้ารถตกลงไป คนด้านใน ต้องไม่มีใครรอดแน่นอน
หน่วยSWATกับนัทธีที่รีบตามอยู่ด้านหลัง ต่างมองความตั้งใจของรถตู้ออก ก็ตกใจทันที
“แย่แล้ว คนร้ายในรถตู้จะพาตัวประกันฆ่าตัวตาย รีบขัดขวางพวกเขาไว้ ให้แน่ใจความปลอดภัยของตัวประกัน!”หัวหน้าหน่วยSWATตะโกนใส่หูฟังอย่างร้อนใจ
หน่วยSWATคนอื่นๆที่ได้รับคำสั่งของเขา หลังจากตอบรับแล้ว ก็รีบเร่งความเร็วของรถ อยากจะห้ามรถตู้ไว้
นัทธีก็แบบนี้ เหยียบคันเร่งจนสุดแล้วพุ่งไป จะใช้รถของตัวเอง ชนรถตู้ออก ขัดขวางพฤติกรรมของรถตู้ที่จะฆ่าตัวตาย
อย่างไรก็ตามเขาช้าไปก้าวหนึ่ง รถตู้คันนั้นชนรั้วกั้น ทั้งหน้ารถนั้นไม่มีรั้วกั้นป้องกัน ก็พุ่งลงไปที่ใต้หน้าผา
เวลานี้ พวกเขาต่างตะลึง ใครต่างคิดไม่ถึงว่า คนในรถตู้จะเด็ดขาดโหดร้ายขนาดนี้ ยอมฆ่าตัวตาย แต่ไม่ยอมถูกพวกเขาจับ
“ไม่!”สายตานัทธีเปลี่ยนไป ตะโกนเสียงดังด้วยดวงตาที่แดงก่ำ และอยากตามลงไปด้วยกัน แต่กลับถูกหัวหน้าหน่วยSWATด้านหลัง ขับรถชนขัดขวางออกไป“คุณนัทธี คุณใจเย็นหน่อย!”
นัทธีไม่สนใจเขา ปลดเข็มขัดนิรภัยออกด้วยมือที่สั่นแล้วลงจากรถ วิ่งไปจุดที่รถตู้ลงไปแล้วมองลงไปดู
เมฆหมอกที่หนาปกคลุมทั้งหมดใต้เขา ทำให้มองไม่เห็นเงาของรถตู้โดยสิ้นเชิง ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงสถานการณ์ตอนนี้ของรถตู้ ว่าตกลงไปที่ไหน คนในรถจะเป็นอย่างไร
แต่หน้าผาสูงขนาดนี้ แค่คิดก็รู้ว่าคนที่ตกลงไป จะไม่มีจุดจบที่ดีเท่าไหร่นัก
เวลานั้น ในหัวของนัทธีว่างเปล่า ตัวสั่นเหมือนถูกดูดพลังไป ร่างสั่นคลอน ตรงหน้าก็มืดลงเล็กน้อย
ถ้าไม่ใช่ว่าหน่วยSWATคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆเห็นทันเวลา ดึงเขาไว้ กลัวว่าเขาคงตกลงไปแล้ว
“คุณนัทธี คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”หน่วยSWATถามอย่างเป็นห่วง
นัทธีไม่ตอบเขา กำฝ่ามือไว้ ตาสองข้างนั้นแดงก่ำมองหัวหน้าหน่วยSWAT“พวกคุณยังจะยืนทำอะไรอีก แจ้งเฮลิคอปเตอร์ ว่าลงเขาไปช่วยเหลือคน!”
“ผมแจ้งไปแล้ว คุณนัทธีใจอย่าใจร้อนนะครับ”หัวหน้าหน่วยSWATเอามือกดที่หูฟังแล้วตอบ จากนั้นชี้ไปที่คนสองสามคน“พวกคุณสองสามคน ไถลลงจากเขาไปตรงนี้ ค้นหาที่ตั้งของรถตู้ อีกเดี๋ยวจะส่งตำแหน่งให้เฮลิคอปเตอร์!”
“ครับ!”คนสองสามคนที่ถูกพูดถึงก็ตอบไป
นัทธีหรี่ตา“ผมไปด้วย!”
“เอ่อ......”หัวหน้าลังเลเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...