“พอแล้วลูกสองคนนี้ ถามมากขนาดนี้ทำไม คิดดีกว่าว่าเดี๋ยวจะกินอะไร?”วารุณีบีบหน้าของลูกทั้งสอง
“หนูอยากกินหมูก้อนราดน้ำแดงที่คุณยายส้มทำค่ะ”ไอริณชูมือเล็กๆขึ้นมา พูดออกไปก่อน ลิ้นเล็กๆก็ยังคงเลียริมฝีปาก
ดวงตาอารัณก็เป็นประกาย รู้ว่ามองวารุณีก็ไม่มีประโยชน์ จึงมองไปที่นัทธี“พ่อครับ ได้ไหม?”
ริมฝีปากบางๆของนัทธียกขึ้นมา“แน่นอน”
“เย้!”เด็กสองคนกระโดดขึ้นมาอย่างดีใจ จากนั้นเดินผ่านเขากับวารุณี วิ่งไปที่อพาร์ทเม้นท์ตรงข้าม
วิ่งไปหน้าประตูของอพาร์ทเม้นท์นัทธี เด็กทั้งสองก็เริ่มเคาะประตู
วารุณีมองลูกสองคนที่มีพฤติกรรมหน้าด้านแบบนี้ หน้าก็แดงระเรื่อ“ขอโทษมากเลยนะคะประธานนัทธี ฉันจะเรียกพวกเขากลับมาเลย!”
พูดไป เธอก็จะเรียกลูกสองคนกลับมา
แต่ยังไม่รอให้เธอพูด นัทธีก็ยกมือขึ้นห้าม“ไม่ต้อง ปล่อยพวกเขาไปเถอะ พวกเขาชอบฝีมือของป้าส้ม ป้าส้มเองก็ดีใจ”
“แต่ว่า......”วารุณียังอยากพูดอะไร
นัทธีหันกลับ“เอาเถอะ คุณก็มาสิ”
พูดจบ เขาก็เข้าอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ตรงข้าม
วารุณีได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของอพาร์ทเม้นท์ตรงข้ามเข้ามา แล้วมองห้องด้านหลังที่ไม่มีใครสักคนอีกครั้ง ในที่สุดก็ถอนหายใจ และตามเข้าไป
สองวันถัดมา
คดีคัดลอกผลงานของพิชญาถูกพิจารณาขึ้นมาใหม่
ครั้งนี้ วารุณีมาก่อนล่วงหน้า รวมตัวกับประธานวรวี
ประธานวรวีมองสภาพเธอที่ไม่เป็นอะไรไป จึงพยักหน้าอย่างโล่งอก“สองวันก่อนผมได้ยินประธานนัทธีบอกว่าคุณถูกลักพาตัว ทำเอาผมเสียสติไปเลย โชคดีที่คุณไม่เป็นอะไร ไม่งั้นวงการออกแบบฝั่งตะวันออกของพวกเรา ก็ต้องสูญเสียไปอีกคนแล้ว”
วารุณีหัวเราะอย่างเขินอาย“ประธานวรวีชมเกินไปแล้วค่ะ”
“ฉันไม่ได้พูดเกินไป หลายปีนี้วงการออกแบบฝั่งตะวันตก ได้กดวงการออกแบบตะวันออกของเราไว้ตลอด พวกเขาคิดว่าแฟชั่นถูกพัฒนาขึ้นมาจากตะวันตกก่อน ดีไซเนอร์ฝั่งตะวันออกของเราไม่อาจเทียบกับพวกเขาได้เลย”
พูดถึงตรงนี้ ประธานวรวีถอนหายใจ บ่นไปว่า:“ดังนั้นผมจึงไม่หวังจริงๆว่า ดีไซเนอร์ที่มีความสามารถอย่างพวกคุณจะเป็นอะไรไป โอเค ถึงเวลาเปิดคดีแล้ว พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
“อือ”วารุณีพยักหน้า เข้าไปตามหลังเขา
เข้าศาลมา วารุณีก็รู้สึกถึงสายตาซับซ้อนที่กำลังเฝ้ามองดูเธออยู่
เธอมองตามไป มองเห็นสุภัทรที่นั่งอยู่ท่ามกลางผู้ฟัง สายตาก็อดไม่ได้ที่จะเย็นชา
จากนั้น เธอก็ละสายตา ไม่มองอีก
ถึงแม้ลักพาตัวเธอที่แท้จริง ไม่ใช่สุภัทร
แต่คนพวกนั้นกลับเป็นคนที่สุภัทรหามา ดังนั้นNนั่นเลยมีช่องโหว่เข้ามาได้ เธอจึงให้อภัยสุภัทรด้วยไม่ได้!
พิจารณาคดีเริ่มขึ้นแล้ว ภายใต้คำสั่งของผู้พิพากษา พิชญาก็ถูกพาเข้ามา
เธอยังคงนั่งบนรถเข็น ตัวผอมลงไปเยอะมาก สภาพจิตใจก็ดูแย่มาก ดูแล้วตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าลำบากมาก
วารุณีเอาแต่จ้องพิชญา พิชญาตระหนักได้ จึงเงยหน้ามองมา สบตากับวารุณี
เธอมองไปยังวารุณีที่สวยสดงดงามอย่างเคย แล้วเทียบกับตัวเองที่ตกอับอย่างนี้ในตอนนี้แล้ว ความเกลียดชังในดวงตาแทบจะกลายเป็นมีด อยากจะแทงวารุณีให้ตาย
วารุณีอ่านสายตาของพิชญาออก ริมฝีปากแดงๆยกขึ้นมา จากนั้นชูมือขึ้น“ผู้พิพากษา จำเลยขู่ฉันค่ะ!”
พิชญาเบิกตาโต
ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่า วารุณีจะหน้าไม่อายอย่างนี้ ยังจะฟ้องอีก!
ผู้พิพากษาหยิบค้อนประธานข้างตัวขึ้นมาเคาะ“จำเลยข่มขู่โจทก์ โดนเตือนหนึ่งครั้ง จำเลยมีข้อโต้แย้งไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...