ที่มุม วารุณีได้ยินประโยคนี้อย่างไม่ทันตั้งตัว ก็ตะลึงงันไปหมด ริมฝีปากอ้ากว้าง โทรศัพท์ตกลงพื้นดังแปะ
เธอเพิ่งได้ยินอะไรไป พิชญา......เป็นลูกสาวของปวิช?
“ใครอยู่ตรงนั้น!”เสียงของโทรศัพท์วารุณีตกลงไป ก็ทำเอาขยานีกับปวิชสองคนนี้ตกใจ
พวกเขามองไปทางต้นเสียงพร้อมกัน มองเห็นชายเสื้อเล็กน้อยที่โผล่ออกมาจากมุมตรงหน้า ตระหนักได้ว่าที่พวกเขาเพิ่งพูดไปมีคนได้ยิน อาการก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“ปวิช ทำไงดี เธอจะต้องรู้จักฉันแน่ ดังนั้นจึงจงใจแอบฟัง”ขยานีรีบร้อนจนดึงแขนเสื้อของปวิช
ปวิชก็กลัวว่าคนนั้นจะเอาเรื่องของเขากับขยานีไปพูด เข้าถึงหูของสุภัทร
ถึงแม้ตอนนี้สุภัทรล้มละลาย ถึงจะจนมุมแต่ก็มีอำนาจมากกว่าเขา เขาไปสู้ด้วยไม่ได้
ดังนั้น เขาจำเป็นต้องขัดขวางคนที่แอบฟังพวกเขาคุยกัน ถ้าเอาเงินไปซื้อได้ก็คงดี แต่ถ้าซื้อไม่ได้ ก็คง......
ปวิชหรี่ดวงตาที่ดุดันนั้นลง สะบัดมือของขยานี เดินไปที่หัวมุม
วารุณีได้ยินเสียงฝีเท้า รู้ว่าพวกขยานีเดินมาทางตัวเอง กลัวพวกเขาจับได้ หลังจากกัดฟันแล้ว ก็ก้มเก็บโทรศัพท์ที่พื้นแล้ววิ่ง
ปวิชคิดไม่ถึงว่าเธอจะวิ่ง ก็ตะลึงไปก่อนเล็กน้อย จากนั้นตะโกนเสียงดังไปที่ยาม บอกว่าสถานีโทรทัศน์มีปาปารัสซีเข้าไป
ยามพวกนั้นได้ยินว่ามีปาปารัสซี จึงตามไปทางที่วารุณีหนีไปทันที
“ตามไปเร็ว อย่าให้เธอวิ่งไป จะต้องจับเธอให้ได้!”ปวิชก็ไล่ตามอยู่ด้านหลังยาม ตามไปตะโกนไป
วารุณีได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลัง ก็ยิ่งวิ่งไวมากขึ้น แต่ยิ่งวิ่งไว เธอก็ยิ่งรีบร้อน
ยังไงที่นี่ก็เป็นสถานีโทรทัศน์ เธอไม่ชิน ไม่ว่าจะวิ่งอย่างไร สุดท้ายก็จะถูกจับได้
ตอนที่วารุณีไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี จู่ๆมือใหญ่คู่หนึ่งก็ยื่นออกมาจากประตูหนึ่งตรงทางเดิน ดึงมือของเธออย่างรวดเร็ว ดึงเธอเข้าไปในประตู แล้วปิดประตูลง
วารุณีคิดว่าตัวเองถูกจับ สายตาก็ปรากฏความตื่นตระหนกอย่างแรง กำลังจะร้องออกมาเสียงดัง ปากของเธอก็ถูกมือข้างหนึ่งปิดไว้
“อย่าส่งเสียง!”เสียงเคร่งขรึมทุ้มเบาของชายหนุ่มดังอยู่ด้านหลังเธอ
ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยที่ไม่อาจคุ้นเคยได้อีกแล้ว ดวงตาวารุณีก็เบิกโต สงบลงทันที แล้วรีบร้องอู้อี้ออกมา สื่อว่าให้ชายหนุ่มปล่อยเธอ
ชายหนุ่มฟังเข้าใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน ปล่อยมือออก
วารุณีหันกลับ มองเห็นคนที่ช่วยตัวเอง เป็นนัทธีแล้ว หัวใจที่เกร็งแน่น จึงกลับไปอยู่ที่เดิม
ขณะที่เธอโล่งอกไปนั้น ก็จ้องไปที่ชายหนุ่มแล้วตำหนิไปด้วยว่า“ประธานนัทธี คุณทำฉันตกใจ ฉันคิดว่าฉันถูกจับแล้วเสียอีก”
นัทธีเม้มริมฝีปากบางๆ“คุณทำอะไร ถึงให้ยามของสถานีโทรทัศน์มาจับคุณได้?”
เขาเพิ่งพบผู้อำนวยการสถานีเสร็จแล้วออกมาจากลิฟต์เฉพาะ ก็เห็นฉากที่เธอถูกไล่ตาม จากนั้นจึงเปิดประตูของออฟฟิศห้องหนึ่งที่ไม่มีคน เดินเข้าไปในประตูรอให้เธอผ่านจะได้ช่วยเธอ
นอกจากนี้แล้ว เขายังเพิ่งให้มารุตไปที่ห้องวงจรปิด ลบภาพบันทึกตลอดทางของเธอออกหมด
วารุณีวิ่งจนหน้าแดง ตอบกลับไปอย่างหอบๆ“ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันถูกใส่ร้าย”
“ใส่ร้าย?”สายตานัทธีเพ่งออกไป อาการก็เคร่งขรึมขึ้นมา“ใคร?”
“ปวิช”วารุณีมองซ้ายมองขวา มองเห็นที่มุมออฟฟิศมีเครื่องกดน้ำ จึงเดินไปใช้ถ้วยกระดาษ มารองน้ำถ้วยหนึ่ง
ดื่มเสร็จแล้ว เธอจึงหายใจเป็นปกติ แล้วจึงพูดต่อว่า“เขาคือชายชู้ที่อยู่ข้างนอกของขยานี เมื่อกี๊ฉันบังเอิญเจอพวกเขา แต่ถูกพวกเขาจับได้ ดังนั้นจึงมีฉากอย่างที่คุณเห็น”
“แค่บังเอิญเจอพวกเขาเฉยๆ?”นัทธีหรี่ตาลง ไม่เชื่อว่าจะธรรมดาขนาดนี้
มุมปากวารุณีกระตุกเล็กน้อย“ปิดประธานนัทธีไม่อยู่จริงๆด้วย โอเค ฉันยังได้ยินที่พวกเขาคุยกันด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...