อารัณได้ติคืนมา รีบปิดปากกับตาของยัยสาวน้อย“อย่ามอง!”
“อื้อๆ......”สาวน้อยทำเสียงจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ อยากให้พี่ชายปล่อยตัวเอง
แต่อารัณไม่ทำตาม รีบดึงเธอออกไปจากครัว
อารัณยังหัวเราะอย่างร้ายกาจไปให้วารุณีกับนัทธี“พ่อกับหม่ามี๊ ทั้งสองเชิญต่อเลยนะครับ เอาต่อเลย!”
พูดจบ เขาก็ปิดประตูห้องครัวลง
เด็กทั้งสองคนมาไวไปไว วารุณีกับนัทธีมองหน้ากันไปมา
ผ่านไปสักพัก วารุณีผลักเขาออก จ้องเขาหน้าแดง“เพราะคุณเลย เด็กทั้งสองคนเห็นหมดแล้ว”
“เห็นก็เห็นสิ”นัทธีช่วยเธอจัดผม พูดเสียงอ่อนโยน
วารุณีถอยออกมาจากอ้อมแขนของเขา“พอแล้ว คุณออกไปเถอะ ฉันยังล้างชามไม่เสร็จเลย”
“ผมช่วยคุณเอง”นัทธีพูดไป ก็เริ่มถกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น
วารุณีมองแขนที่แข็งแกร่งของเขา ไม่ปฏิเสธอะไร ยื่นผ้าขนหนูผืนสะอาดให้เขา“คุณช่วยฉันเช็ดน้ำในชามให้แห้ง วางไว้ในตู้กับข้าวก็พอแล้ว”
นัทธีตอบอือ แสดงออกว่ารู้ว่าทำอย่างไร
แป๊บเดียว ทั้งสองคนนั้นคนหนึ่งล้าง อีกคนเช็ด ไม่นานก็เสร็จ
ทั้งสองเดินตามกันออกมาจากห้องครัว เด็กทั้งสองที่นั่งเล่นเลโก้ตรงพรมในห้องรับแขกได้ยินเสียงฝีเท้า ก็หยุดแล้วมองมาทางพวกเขา
เผชิญหน้ากับการมองมาของดวงตาโตๆทั้งสองคู่ มุมปากวารุณีอดไม่ได้ที่จะกระตุก
“หม่ามี๊”จู่ๆไอริณก็ทิ้งเลโก้ในมือแล้วคลานมา วิ่งเสียงดังมาตรงหน้าวารุณี ดึงมือของวารุณี แล้วจึงเงยหน้ามองนัทธี“หม่ามี๊กับพ่อกินอะไรกันแน่ พี่ไม่ยอมบอกหนูเลย?”
เธอถามคำถามเมื่อกี๊อีกครั้ง จะเห็นว่ายึดติดกับของกินมาก
อารัณอดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่“ตัวเองตะกละมาก!”
“อารัณ ทำไมพูดกับน้องสาวแบบนี้ล่ะ?”วารุณีเม้มริมฝีปาก ดุเขาออกไปเสียงเบา จากนั้นก้มหน้าลง มองดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของลูกสาว ไอเบาๆออกมาอย่างหน้าแดง“หม่ามี๊กับ......พ่อไม่ได้กินอะไร”
นัทธีได้ยินเธอพูดว่าพ่อ ก็รู้สึกอารมณ์ดี มุมปากยกขึ้นมา
ถึงแม้เด็กสองคนนี้เรียกเขาว่าพ่อนานแล้ว แต่ทุกครั้งตอนที่เธอพูดถึงเขา ก็จะเรียกว่าคุณอานัทธี
ตอนนี้เธอเปลี่ยนคำพูด จึงหมายความว่า เธอยอมรับเขาแล้วจริงๆ
“หนูไม่เชื่อ!”ไอริณทำปากมุ่ย“เมื่อกี๊หม่ามี๊กับพ่อปากชนปากกันแท้ๆ.....”
ยัยสาวน้อยยังพูดไม่จบ ที่ปากก็ถูกอารัณที่วิ่งมาปิดไว้อีกครั้ง“พอแล้ว ของที่พ่อกันกับหม่ามี๊ไป มีแค่พวกผู้ใหญ่ที่กินได้ พวกเราเป็นเด็กกินไม่ได้นะ”
ไอริณกะพริบตา เหมือนกำลังถามว่าจริงเหรอ?
อารัณพยักหน้าด้วยใบหน้าจริงจัง
วารุณีปิดริมฝีปากแล้วหัวเราะ
เด็กเหมาะสมที่สุดแล้วที่จะรับมือกับเด็กกันเองจริงๆ
ไอริณเชื่อคำพูดของอารัณ ยักไหล่ขึ้นมาด้วยสายตาผิดหวัง
อารัณจึงปล่อยเธอ“ไปเถอะ ในห้องมีอมยิ้ม เดี๋ยวพี่เอาให้ตัวเอง”
“เย้ค่ะ”ไอริณตบมือเล็กๆอย่างดีใจ
เด็กทั้งสองจูงมือกันกลับไปห้องนอนเด็ก
ในห้องครัวเงียบลงอีกครั้ง วารุณีหันไปมองนัทธี“ประธานนัทธี......”
“ยังเรียกผมว่าประธานนัทธีอีก?”นัทธีเลิกคิ้วขึ้น สบตากับเธอเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
วารุณีพูดไม่ออก ทันใดนั้นก็ได้สติคืนมาว่าตัวเองคบกับเขาแล้ว เรียกเขาว่าประธานนัทธีดูไม่ค่อยเหมาะสมจริงๆ ห่างเหินมาก ไม่เหมือนคนรัก
งั้นต้องเรียกยังไงล่ะ?
วารุณีกัดริมฝีปากคิด จากนั้นสูดลมหายใจ ลองตะโกนคำสองคำออกไปอย่างกล้าหาญ“นัทธี?”
นัทธีตอบอือกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน รับปาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...