วารุณียิ้มให้รถ หลังจากเห็นรถขับไปที่จอดรถที่อยู่ไม่ไกล จึงหันไปพูดกับอัครเดช“โอเคคุณอัครเดช ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว ฉันต้องไปแล้ว”
“คุณจะไปไหน เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง”อัครเดชหยิบกุญแจรถออกมาจากกระเป๋ากางเกง หมุนนิ้วมือไปมา ตอนที่หมุนไปมา เขาก็ตั้งใจโชว์ให้เห็นโลโก้รถ
วารุณีมองความพยายามอวดของเขาออก ในใจก็รู้สึกว่าตลกชะมัด แต่กลับไม่แสดงออกทางใบหน้า โบกมือ แล้วปฏิเสธอย่างเย็นชา“ไม่ต้องหรอก”
เห็นวารุณีไม่ไว้หน้าตัวเองหลายรอบ อัครเดชก็เริ่มโกรธ
แต่พอมองใบหน้าที่สวยงาม หุ่นที่สวยของเธอ เขาก็ระงับความโกรธลง หยิบโทรศัพท์ออกมา“งั้นทิ้งช่องทางติดต่อเอาไว้ไหม ยังไงก็เป็นเพื่อนที่โรงเรียนกัน คุณคงไม่หักหน้าผมแม้แต่เรื่องนี้หรอกนะ?”
“เอ่อ......”คิ้วของวารุณีขมวดแน่นขึ้น
ตอนที่เธอกำลังรู้สึกลำบากใจอยู่นั้น จู่ๆเสียงของหญิงสาวที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากประตูต้าน“อัครเดช ฉันถามเคาน์เตอร์บริการแล้ว พวกเขาบอกว่าร่มที่ให้เช่าหมดแล้ว งั้นตอนนี้พวกเราควรจะทำ......”
หญิงสาวยังพูดไม่จบ ก็มองเห็นวารุณี แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที“ทำไมถึงเป็นเธอล่ะ?”
วารุณีก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ“ฉันเอง บังเอิญจังเลยสุชาดา พวกเราเจอกันอีกแล้ว”
สีหน้าสุชาดาหม่นลง ไม่พูดจา
อัครเดชมองเธอ“สุชาดา ที่แท้คุณก็เจอวารุณีแล้วเหรอ?”
ได้ยินคำนี้ สุชาดาจึงได้สติคืนมาว่า วารุณียืนใกล้กับเขามาก
ทันใดนั้นเธอก็เหมือนสิงโตที่ถูกบุกรุกอาณาเขต รีบไปคล้องแขนของอัครเดช จ้องวารุณีอย่างตักเตือน ถามเสียงคมกริบไปว่า“ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ได้?”
“ตรงนี้คือทางเข้าออกของอเวนิว พวกเราอยู่ตรงนี้แปลกตรงไหน?”วารุณีผายมือออก รู้สึกว่าคำถามของเธอ ถามได้แปลกมาก
สุชาดารัดแขนของอัครเดชแน่น“ฉันไม่สนว่าทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ ฉันจะบอกเธอให้นะวารุณี อย่ามายุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งด้วย”
“คนที่ไม่ควรยุ่งด้วย?”วารุณีตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็ชี้ไปที่อัครเดชด้วยอาการซับซ้อน“เธอหมายถึงเขาเหรอ?”
เหมือนจะคิดอะไรได้ อัครเดชหันหน้าไปอย่างร้อนตัว
สุชาดาไม่เห็น ก็พยักหน้าแรงๆ“ถูกต้อง ตอนนี้อัครเดชเป็นแฟนของฉัน ต่อไปพวกเราจะแต่งงานกัน เธออย่าคิดจะสนใจอัครเดช!”
“อะไรนะ?”วารุณีตะลึงงันไปหมด สักพักจึงได้สติคืนมา รู้สึกตลก“สุชาดา ฉันไปสนใจอัครเดชตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
ถ้าไม่ใช่ว่าคืนนี้เจอกันบังเอิญ
ไม่แน่ว่าชีวิตนี้เธอก็คงนึกถึงคนนี้ไม่ออก
“หึ เธอน่ะเล่นลิ้นให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ ทั้งๆที่เธอ......”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว!”สีหน้าอัครเดชแดงระเรื่อ เหมือนว่ากำลังกลั้นอะไร รีบจับแขนของสุชาดา ไม่ให้เธอพูด
สุชาดากลับไม่สน สะบัดแขนของเขาออกโดยตรง“ฉันจะบอกว่า เรื่องที่ตอนนั้นเธอจีบคุณ คุณลืมแล้วเหรอ?”
“เดี๋ยวนะ”วารุณียกมือขึ้นทำท่าหยุด“สุชาดา เธอบอกว่าฉันเคยจีบอัครเดช?”
“ไม่ใช่เหรอไง ตอนปีหนึ่ง ฉันชอบอัครเดช ฉันก็เคยจีบอัครเดช แต่อัครเดชกลับไม่ยอมคบกับฉัน สาเหตุก็เพราะว่าเธอก็ชอบอัครเดช ดังนั้นลับหลังเธอเลยไล่คนจีบอัครเดชตั้งมากมาย”สุชาดาจ้องเธอด้วยความโกรธ
วารุณีได้ยินก็หัวเราะ“เรื่องพวกนี้ใครบอกกับเธอ?”
ไม่น่าล่ะช่วงมหาวิทยาลัย สุชาดาถึงได้เกลียดเธอมาก
ที่แท้นอกจากอิจฉาเธอแล้ว ยังมีสาเหตุเรื่องอัครเดชด้วย
“แน่นอนว่าอัครเดช!”สุชาดามองอัครเดชที่อยู่ข้างๆ
อย่างไรก็ตามอัครเดชกลับปิดหน้า ด้วยสภาที่ไม่กล้ามอง
“อัครเดชคุณเป็นอะไร?”สุชาดาถามอย่างไม่เข้าใจ ยื่นมือไปจับมือของอัครเดช เอาลงมาจากหน้า
อัครเดชผลักเธอออกไปโดยตรง ตะโกนด้วยความโมโห“ผมเป็นอะไรเหรอ?ผมไม่ให้คุณพูด ทำไมคุณไม่ฟังเลย?”
สุชาดากัดริมฝีปากอย่างน้อยใจ“ฉันไม่ได้พูดความจริงหรือไงล่ะ ทำไมคุณต้องดุฉันขนาดนี้ด้วย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...