วารุณีตกใจเล็กน้อย“คุณน้านวิยา?ลูกรัก ลูกรู้จักเธอเหรอ?”
เหมือนว่าเธอ จะไม่เคยแนะนำนวิยาให้เด็กทั้งสองคนนี้นะ
อารัณพยักหน้าเล็กๆนั้นลง“รู้จัก ครั้งนั้นที่ห้องคนไข้ของพ่อบุญธรรม ผมได้ยินเสียงของเธอ”
ที่แท้ก็แบบนี้เอง
วารุณีเงยคางขึ้นมาทันที“ถูกต้อง เธอก็คือคุณน้านวิยาคนนั้น”
“เธอมีความสัมพันธ์อย่างดีกับพ่อเหรอครับ?”อารัณเงยหน้ามองเธอแล้วถามอีกครั้ง
วารุณีลังเลเล็กน้อย แล้วตอบอือ“เป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็กน่ะ”
“อ้อ”อารัณกำฝ่ามือเล็กๆนั้นไว้ สื่อว่าเข้าใจ
แต่จากนั้น เขาก็เบะปากเล็กๆลง“ผมไม่ชอบเธอเลย”
“ทำไมล่ะ?”วารุณีมองเขา
ถ้าเธอจำไม่ผิดล่ะก็ นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ที่อารัณบอกว่าไม่ชอบนวิยา
ครั้งแรก ก็ที่ห้องคนไข้ของพงศกร
อารัณมองไปด้านนอก“เธอไม่ใช่คนดี เมื่อกี๊ตอนที่อยู่ข้างล่าง สายตาที่เธอมองผมกับไอริณ เย็นชามาก ดูไม่ชอบ เธอไม่ชอบผมกับไอริณครับ”
วารุณีได้ยินคำนี้ ก็ไม่รู้สึกแปลกใจมากนัก ได้แต่นั่งย่อตัวลงไป แล้วจับเด็กชายตัวน้อยมาไว้ในอ้อมแขนเบาๆ“ธรรมดามาก เพราะว่าคุณน้าคนนั้นชอบพ่อ ก็เลยไม่ชอบพวกหนูไง”
อารัณเอนไปในอ้อมแขนของเธออย่างเชื่อฟัง“ที่แท้ก็แบบนี้เอง แต่ผมก็ไม่ชอบที่พ่อเดินใกล้ชิดกับเธอ”
วารุณีลูบผมของเขา“เอาน่ะ นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ลูกยังเด็ก อย่าห่วงเลย ไปเล่นกับน้องเถอะ เดี๋ยวครูก็มาแล้วนะ”
ครูการสอนชนชั้นนำที่นัทธีหาให้อารัณ หาได้เรียบร้อยแล้วเมื่อวาน
วันนี้จะเริ่มสอนอย่างเป็นทางการ หวังว่าเด็กคนนี้จะยืนหยัดต่อไปได้
อารัณกลับไปแล้ว กลับไปหาไอริณที่ห้อง
วารุณีก็ไม่ได้อยู่ที่ระเบียงนานมากนัก ยังไงก็หนาวเล็กน้อย ดังนั้นยืนอยู่สักพักจึงกลับเข้าห้อง
ตอนนี้เอง ป้าส้มก็เข้ามาเรียกไปทานข้าว
วารุณีพาเด็กทั้งสองคนลงไปกินข้าว ส่วนนัทธียังไม่กลับมา
นี่คือครั้งแรกที่พวกเขาสามคนแม่ลูกย้ายมาแล้ว ไม่ได้กินข้าวกับนัทธี จึงรู้สึกไม่ชินนัก
ทานข้าวเสร็จ ครูของอารัณก็มา
วารุณีพาไอริณไปฟังที่ห้องอ่านหนังสือด้วยสักพัก ก็พบว่าปวดหัวหน่อยๆ จึงออกไป เตรียมอาบน้ำให้ไอริณและพาเข้านอน
พอเธออาบน้ำให้ไอริณเสร็จแล้วออกมา ก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถด้านนอกคฤหาสน์
“หม่ามี๊ พ่อกลับมาแล้วเหรอคะ?”ไอริณที่เพิ่งนอนลงบนเตียงก็ถาม
วารุณีห่มผ้าห่มให้เธอ“น่าจะนะ ลูกนอนเถอะ เดี๋ยวหม่ามี๊ไปดู”
“อือ”ไอริณพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
วารุณีจูบลงไปที่หน้าผากของเธอ ออกไปจากห้องเบาๆ แล้วลงไปชั้นล่าง
เธอลงมาชั้นล่าง ก็เห็นนัทธีเข้าไปในห้องรับแขก ที่ตัวสวมแค่เชิ้ตสีดำตัวหนึ่ง เสื้อสูทที่สวมอยู่นั้น กลับหายไป
เห็นภาพแบบนี้ สายตาวารุณีก็สั่นคลอน เดาว่าที่สูทหายไป น่าจะอยู่ที่นวิยา
ที่แท้ เขาไม่ใช่แค่ให้เสื้อตัวนอกกับเธอ เขายังให้คนอื่นด้วย
“เป็นอะไรเหรอ ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นทำไม?”นัทธีเห็นวารุณียืนเหม่อลอยอยู่ที่ใต้บันได ดึงเนกไทไป ก็ถามไปด้วย
วารุณีส่ายหน้า“ไม่เป็นไร ทำไมกลับมาดึกขนาดนี้ล่ะ?”
“อยู่กับนวิยาที่โรงพยาบาลพักหนึ่งน่ะ ก็เลยดูอาการป่วยของเธอไปด้วยเลย”นัทธีเอาเนกไททิ้งลงไปที่โซฟา นั่งลงไป ก็ขยี้คิ้วแล้วตอบ
วารุณีมองใบหน้าเขาที่ดูอ่อนล้า จึงเดินเข้าไป เดินไปหยุดที่หลังเขา เอื้อมมือออกไปตรงพนักพิงโซฟา นวดขมับให้เขา
นัทธีตะลึงก่อนเล็กน้อย จากนั้นได้สติคืนมา เธอก็นวดให้เขา คิ้วที่ขมวดก็คลายออก หลับตาลงเพลิดเพลินกับมัน
วารุณีก้มหน้าลงมองเขาที่เย็นชา เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายลง จึงถามอย่างแปลกใจ“อาการป่วยของคุณนวิยาเป็นไงบ้าง?”
“ฟื้นฟูได้ไม่เลว แต่ว่าดวงตา!”นัทธีจึงพูด:“ตาของเธอ มองเห็นต่อไปได้ไม่นานแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...