ถึงแม้เชอรีนตกใจว่าทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้ แต่ก็ไม่สนใจที่จะถาม ชี้ไปที่สุชาดาแล้วพูดอธิบายสถานการณ์ว่า“ฉันกับเธอถูกบริษัทเลือกพร้อมกัน ให้ไปอบรมนางแบบที่ต่างประเทศ คิดไม่ถึงว่าเธอจะแย่งบอร์ดดิ้งพาสของฉันไป พยายามขัดขวางไม่ให้ฉันไป!”
“อะไรนะ?”วารุณีตกใจ มองไปที่สุชาดาอย่างไม่อยากจะเชื่อ“เธอทำแบบนี้ ไม่กลัวคนของบริษัทพวกเธอว่าหรือไง?”
“ฉันจะกลัวอะไร?อัครเดชเป็นหุ้นส่วนของบริษัท เธอคิดว่าเขาจะไม่ช่วยฉัน?”สุชาดาทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย่อหยิ่ง
วารุณีเม้มริมฝีปาก“ที่แท้เธอใช้ความสัมพันธ์ ถึงได้กล้าทำอะไรตามใจชอบนี่เอง”
“เกี่ยวอะไรกับเธอ?ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ เธอน่ะสมน้ำหน้าแล้ว”สุชาดาส่งเสียงไม่พอใจออกไป“เมื่อวานฉันบอกแล้วไง ฉันไม่ปล่อยพวกเธอแน่ ตอนนี้เป็นสิ่งที่พวกเธอต้องใช้คืนแล้ว!”
พูดจบ เธอก็ฉีกบอร์ดดิ้งพาสทิ้ง ต่อหน้าเชอรีน
“ไม่!”เชอรีนร้องออกมาเสียงดัง หน้าซีดขาวไปหมด
วารุณีก็ไม่คิดว่าสุชาดาจะทำเกินเหตุขนาดนี้ บอกว่าฉีกก็ฉีก ตอนนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
สุชาดามองสีหน้าของทั้งสองคนที่ดูแย่ ในใจก็รู้สึกสะใจสุดๆ จากนั้นเอาเศษกระดาษทิ้งใส่พื้น แล้วเตรียมออกไป
วารุณีจับเธอไว้แล้วหรี่ตาลง“คิดจะไปเหรอ?”
“เธอทำอะไร ปล่อยฉัน!”สุชาดาสะบัดมือออก พูดด้วยเสียงแหลมกริบ
วารุณีไม่ปล่อยเธอ กลับออกแรงที่มือแน่นขึ้น
สุชาดาเจ็บจนสีหน้าดูเหยเก
วารุณีไม่สนเธอ ยองตัวลงไป ดึงเชอรีนที่จะเก็บบอร์ดดิ้งพาสที่ฉีกขาดขึ้นมา“เธอไม่ต้องเก็บ!”
พูดจบ เธอก็ชี้ไปที่เศษบนพื้น ออกคำสั่งกับสุชาดา:“เธอทำซะ เก็บพวกมันขึ้นมา!”
“เรื่องอะไรล่ะ?”สุชาดาเชิดใส่
วารุณีปล่อยแขนของเธอ“ก็เพราะว่านี่คือสถานที่สาธารณะไง”
“นี่ ยัยแม่พระ จะไปยุ่งอะไรล่ะก็ให้สนามบินจัดการสิ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเธอก็เก็บเองละกัน!”สุชาดาเอามือกอดอก พูดอย่างไม่พอใจ
เบ้าตาของเชอรีนแดงเถือก ดึงแขนเสื้อของวารุณีอย่างอ่อนแรง“ช่างเถอะวารุณี ฉันเก็บเองก็ได้ ตอนนี้ฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอแล้ว ฉันต้องหาทางซื้อตั๋วใหม่ ไม่งั้นฉันจะพลาดโอกาสในการอบรมครั้งนี้ไปจริงๆ”
“เรื่องตั๋วเดี๋ยวฉันช่วยเธอซื้อเอง แต่ตอนนี้มีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการในทันที พวกเราจะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ ที่พื้นพวกนี้เธอเป็นคนทิ้ง เธอก็ต้องเก็บสิ!”วารุณีจ้องมองสุชาดาอย่างเย็นชา
สุชาดากลอกตาใส่“เธอจะให้ฉันเก็บให้ได้เลยใช่ไหม?ฉันบอกเธอให้นะ ไม่มีทาง ใครอยากเก็บก็เก็บไปเถอะ!”
วารุณีหัวเราะ“ดังนั้นเธอจะไม่เก็บใช่ไหม?”
“ใครเก็บก็เป็นหมาแล้ว!”สุชาดากลอกตาใส่
ปากแดงๆของวารุณียกขึ้นมา“ได้ งั้นฉันจะทำให้เธอเป็นหมาเอง!”
“หมายความว่าไง?”เชอรีนไม่ค่อยเข้าใจ
วารุณียิ้มอย่างมีลับลมคมในให้เธอ ไม่ตอบอะไร จากนั้นเรียกรปภ.ที่กำลังลาดตระเวนอยู่ที่สนามบินมา ในตอนที่สุชาดารู้สึกกังวล
“คุณรปภ.คะ ฉันจำได้ว่าสนามบินของพวกคุณมีข้อบังคับว่า ถ้ามีคนทิ้งขยะมั่วซั่ว และมีทัศนคติที่แข็งกระด้างไม่ยอมรับผิด ก็จะถูกบังคับให้เลื่อนไฟล์ทบินใช่ไหมคะ?”วารุณีมองสุชาดาอย่างจะยิ้มก็ไม่ยิ้มแล้วถามไป
ทันใดนั้นเชอรีนก็เข้าใจจุดประสงค์ของเธอ แล้วดวงตาก็เป็นประกาย
สุชาดาก็เข้าใจเช่นกัน แต่สีหน้ากลับดูหม่นลงไป
ยัยแพศยาอย่างวารุณี ดันเอาข้อบังคับของสนามบินมากดดันเธอ!
รปภ.ไม่รู้ว่าระหว่างผู้หญิงสามคนตรงหน้านี้มีปัญหาอะไรมากัน แต่ก็ฟังคำพูดของวารุณี แล้วยังพยักหน้าตอบกลับอย่างจริงจัง“ใช่ครับ”
“ค่ะ ผู้หญิงคนนี้จงใจทิ้งขยะมั่วซั่ว แล้วยังไม่ยอมรับผิดด้วย รบกวนพวกคุณพาเธอไปที่ออฟฟิศ เปลี่ยนบอร์ดดิ้งพาสของเธอ ให้เธอนั่งไฟล์ทถัดไปด้วยค่ะ”เล็บที่แดงสดของวารุณีชี้ไปที่สุชาดา
เชอรีนกำฝ่ามือแน่น รีบรับรองไปว่า“ใช่ค่ะ มีกล้องวงจรปิดที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เธอจงใจจริงๆ!”
ในเมื่อสุชาดาฉีกบอร์ดดิ้งพาสของเธอ ไม่ให้เธอไปร่วมการฝึกอบรม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...