“คุณพักที่ไหน ? ”พอขึ้นรถมาแล้ว นัทธีก็คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วถามออกไป
“คอนโดอุดมสุข”วารุณีบอกที่อยู่ของเธอ
นัทธีเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
บังเอิญจัง ?
เขาเองก็มีคอนโดอยู่ที่นี่เหมือนกัน หนำซ้ำยังเป็นตึกเดียวกันอีกด้วย ดูจากเลขที่ห้องแล้ว ดูเหมือนจะเป็นห้องตรงข้ามกันด้วย
“มีอะไรหรือเปล่าคะประธานนัทธี ?”เมื่อวารุณีเห็นนัทธีเหม่อลอย อดไม่ได้ที่จะร้องทักเขาไป
“ไม่มีอะไร”ดวงตาของนัทธีไหววูบ จากนั้นก็สตาร์ทรถ
ระหว่างทาง ไอริณก็นอนหนุนตักของวารุณีจนหลับ แต่อารัณยังมีพลังงานที่ล้นเหลือ เขามองนัทธีที่กำลังขับรถอยู่ “คุณอานัทธี ผมถามอะไรคุณอย่างได้ไหมครับ ?”
“อารัณ จะถามอะไรคุณอานัทธีเขา ?”วารุณีเองก็อยากรู้ขึ้นมาเหมือนกัน
“หม่ามี๊ไม่ต้องยุ่ง”อารัณจับมือเธอที่วางอยู่บนศีรษะของเขาออก และก็ยังคงมองนัทธีไม่วางตา “ได้ไหมครับคุณอานัทธี ?”
นัทธีเองก็รู้สึกสนใจ “ได้ ถามมาสิ ”
“งั้นผมถามนะครับ คุณอานัทธีแต่งงานหรือยังครับ ? ”อารัณถามออกไปอย่างไม่เกรงใจ
วารุณีกับนัทธีต่างก็คิดไม่ถึง ว่าเขาจะถามเรื่องส่วนตัวแบบนี้ พากันตกตะลึงไปชั่วขณะ
หลังจากได้สติกลับคืนมา วารุณีก็ตีไปที่หลังของอารัณเบาๆ “อารัณ ไม่มีมารยาทเลย ถามคำถามแบบนี้กับคุณอานัทธีได้ยังไง ”
ขณะที่พูดอยู่ เธอก็มองไปยังนัทธีที่กำลังขับรถ แล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้จะทำยังไง“ขออภัยด้วยนะคะประธานนัทธี เขายังเด็กไม่รู้ความอะไร”
“ไม่เป็นไร”นัทธียกยิ้ม“ฉันยังไม่แต่งงาน”
เยี่ยม!
อารัณกุมมือทั้งสองแน่น ในใจโห่ร้อง จากนั้นก็ถามไปว่า “แล้วมีแฟนไหมครับ ?”
“อารัณ!”สีหน้าของวารุณีก็ดำคร่ำเครียดลง น้ำเสียงจริงจังขึ้นมา
เด็กคนนี้ จะยังไม่จบอีกใช่มั้ย ?
“หม่ามี๊ อย่าโกรธเลย ผมมีจุดประสงค์ของผม ”อารัณราวกับผู้ใหญ่ที่กำลังพูดปลอบวารุณี
วารุณีกระทุ้งไปที่หน้าผากเขา “เราจะมีจุดประสงค์อะไรได้? ”
อารัณแลบลิ้น “ผมยังไม่บอกตอนนี้”
เขาแค่อยากจะถามให้แน่ชัดว่าคุณอานัทธียังไม่มีครอบครัว หากมีแล้ว เขาก็จะยกเลิกความคิดที่จะเอา DNA ของคุณอานัทธีมา
แม้ว่าคุณอานัทธีจะมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของเขากับไอริณ
หากพ่อแท้ๆของเขามีครอบครัวแล้ว เขาก็คงจะไม่ยอมรับเช่นกัน
“เรานี่จริงๆเลย!”วารุณีมองดูลูกชายที่เจ้าแผนการมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ถอนหายใจอย่างจนใจ
เด็กน้อยฉลาดเกินไป และโตเกินวัย ทำให้เธอมีเวลาทำหน้าที่แม่อันแสนสนุกนั้นสั้นน้อยลง
“คุณอานัทธี คำถามสุดท้ายของผม คุณอายังไม่ได้ตอบเลย”อารัณยังไม่ยอมแพ้ เห็นได้ชัดว่าหากไม่รู้คำตอบก็คงจะไม่ปล่อยผ่านมันไปง่ายๆ
ดวงตาที่ลุ่มลึกของนัทธีมองไปที่วารุณีผ่านกระจกมองหลังของรถ “ฉันยังไม่มีแฟนเหมือนกัน”
แต่มีคู่หมั้น!
ตอนนี้ที่เขาอยากจะรู้มากกว่าคือ เมื่อหลายปีก่อนเกิดอะไรขึ้น
ทำไมคู่หมั้นของเขาที่ควรจะเป็นวารุณี แต่กลับเป็นพิชญาไปได้
อีกทั้งดูจากการเจอกันอยู่หลายครั้งของเรา วารุณีเองก็เหมือนจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นคู่หมั้นของเธอ
“พอแล้วอารัณ พอแค่นี้ ห้ามถามคำถามอะไรพวกนี้กับคุณอานัทธีอีก หากยังถามอีกหม่ามี๊จะโกรธจริงๆแล้วนะ”วารุณีมองไปที่อารัณด้วยท่าทีที่จริงจัง
อารัณพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ครับได้ครับ ผมไม่ถามแล้ว หม่ามี๊อย่าโกรธนะ ”
ดีจริงๆ คุณอานัทธียังไม่ได้แต่งงาน และยังไม่มีแฟน งั้นเขาก็สามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไป พิสูจน์ว่าเขาใช่พ่อหรือเปล่า
เมื่อคิดได้ดังนั้น ดวงตาของอารัณก็คอยแต่จ้องไปที่เส้นผมของนัทธี หาโอกาสที่จะดึงมันมาสักสองสามเส้น
ยังไม่ทันที่เด็กน้อยจะได้ลงมือปฏิบัติ วารุณีก็จับเขากดลงไปบนตัก แล้วสั่งให้เขานอน
อารัณขยับตัวไม่ได้ จึงได้แต่ถอนหายใจเงียบๆ
ดูแล้ว คงต้องหาโอกาสในครั้งต่อไปเสียแล้ว
หม่ามี๊ช่างเป็นตัวถ่วงเขาเสียจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...