วารุณีกลืนซุปไก่ในปาก แล้วชูนิ้วโป้งขึ้นมา“อร่อยมากค่ะ”
ป้าส้มดีใจจนตายิ้มออกมาเป็นครึ่งวงกลม“งั้นก็ดี คุณผู้หญิงทานเยอะๆนะคะ ฉันตั้งใจตุ๋นให้คุณเลย คุณผู้ชายก็เช่นกัน ฉันก็ตั้งใจตุ๋นซุปอัณฑะวัวให้เขา จะได้บำรุงร่างกาย”
“พรวด!”ได้ยินคำนี้ วารุณีก็พ่นซุปออกมาจากปากอย่างไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก็ไอจนหน้าแดง
ป้าส้มตกใจเธอ รีบเข้าไปตบหลังเธอ ช่วยให้เธอหายใจสะดวก“คุณผู้หญิง คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”
วารุณีสื่อมือ แสดงออกว่าตัวเองไม่เป็นไร
ป้าส้มเทน้ำอีกแก้วให้เธอ“นี่ค่ะ ดื่มน้ำหน่อย ค่อยๆหายใจ”
วารุณีรีบรับแก้วน้ำไป หลังจากดื่มไปหลายอึก ในที่สุดเสียงไอก็หยุดลง รู้สึกดีขึ้นเยอะ
“ป้าส้ม เมื่อกี๊ป้าพูดว่า ป้าต้มอะไรให้นัทธีนะคะ?”วารุณีวางแก้วน้ำลง ถามอย่างซับซ้อน
ป้าส้มไม่คิดอะไรทั้งนั้น ตอบกลับไปว่า:“ซุปอัณฑะวัวไงคะ”
วารุณีกุมหน้าผาก
เธอจะบอกป้าส้มดีไหมนะว่า เมื่อคืนเธอกับนัทธีไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกันจริง ดังนั้นนัทธีไม่ต้องการซุปอัณฑะวัวนี้เลย
“คุณผู้หญิง ทำไมเหรอคะ?”เห็นท่าทางตัดสินใจยากของวารุณีแล้ว ป้าส้มจึงถามอย่างไม่เข้าใจ
วารุณีโบกมืออย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวป้าอย่าบอกนัทธีนะ ว่าเป็นซุปอะไร ไม่งั้นเขาต้องโกรธแน่”
พอถูกเธอเตือน ทันใดนั้นป้าส้มก็ปรบมืออย่างคิดขึ้นได้ทันที“คุณผู้หญิงพูดถูก”
“พูดถูกอะไรเหรอ!”ป้าส้มพูดจบ เสียงของนัทธีก็เข้ามาจากประตูห้องทานอาหาร
จากนั้น เขาก็เดินเข้ามา เดินไปตรงหน้าโต๊ะทานข้าว ดึงเก้าอี้ตรงข้ามวารุณีแล้วนั่งลงไป
“ไม่มีอะไร ฉันแค่คุยกับป้าส้ม”วารุณีรีบจบบทสนทนาเมื่อกี๊ มองชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้าม และความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของชายหนุ่ม ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วทรงสวยนั้น“ทำไมไม่นอนต่ออีกสักพักล่ะ?”
“ไม่เป็นไร”นัทธีขยี้คิ้ว“เดี๋ยวบริษัทจะมีการประชุมที่สำคัญมาก ไปสายไม่ได้”
“แบบนี้นี่เอง”วารุณีพยักหน้า แสดงว่าเข้าใจแล้ว แต่ในใจกลับไม่สบายใจนัก
ในเมื่อมีประชุมสำคัญ งั้นเมื่อคืนยังจะกลับดึกขนาดนี้อีก!
“คิดอะไรอยู่เหรอ?”นัทธีสังเกตเห็นว่าอารมณ์ของหญิงสาวไม่ค่อยดี จึงถามอย่างกังวลเล็กน้อย
วารุณีส่ายหน้า“เปล่าค่ะ ป้าส้ม ป้าไม่ได้บอกเหรอว่า ต้มซุปให้เขา?ไปเอามาเสิร์ฟเถอะค่ะ”
“โอเคๆๆ ป้าจะไปเดี๋ยวนี้”ป้าส้มเช็ดมือที่ผ้ากันเปื้อนอย่างร่าเริง เดินไปที่ครัว
ในห้องทานข้าวเหลือแค่วารุณีกับนัทธีสองคน
วารุณีหยิบเซรามิกอันสวยงาม แล้วคนซุปไก่ในชาม“คุณนวิยาไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“พ้นขีดอันตรายแล้ว”นัทธีหยิบกาน้ำขึ้นมา เทน้ำให้ตัวเอง
“งั้นก็ดี”วารุณีพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นบีบช้อนไว้แน่น ถามไปอีกว่า“งั้นเมื่อคืนคุณกลับมาเมื่อไหร่?ทำไมโทรศัพท์ถึงปิดเครื่อง”
“คุณโทรหาผมเหรอ?”นัทธีตะลึงเล็กน้อย
วารุณีตอบอือ“โทรหาตอนเที่ยงคืน ฉันรอคุณอยู่ตลอด เห็นคุณยังไม่กลับมาสักที ก็เลยอยากถามคุณ แต่โทรศัพท์คุณปิดเครื่อง”
“ขอโทษนะ โทรศัพท์แบตหมด”นัทธีวางแก้วน้ำลง“เมื่อวานผมกลับมาตอนตีสอง นวิยาเข้าห้องฉุกเฉินไปสี่ชั่วโมงถึงพ้นขีดอันตรายได้”
“นานขนาดนี้เชียว?”วารุณีตาโตขึ้นมาด้วยความตกใจ
“เธอดื่มสุราที่มีฤทธิ์เข้มข้นสูง ทำให้อวัยวะข้างในไหม้ และยังทำให้เลือดออกในกระเพาะอาหาร ดังนั้นจึงใช้เวลานานหน่อย”นัทธีเม้มริมฝีปากแล้วอธิบาย
“แบบนี้นี่เอง”วารุณีพยักหน้า ไม่พูดอีก
นัทธีหยิบบัตรแบล็กการ์ดใบหนึ่งออกมาให้เธอ
เธอมองไปที่เขาอย่างประหลาดใจ“คุณหมายความว่าไง?”
อยู่ดีๆ ให้บัตรเธอทำไม?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...