พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 340

สรุปบท บทที่ 340 บังเอิญเจอเมธาวี: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

สรุปเนื้อหา บทที่ 340 บังเอิญเจอเมธาวี – พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ โดย candy cat

บท บทที่ 340 บังเอิญเจอเมธาวี ของ พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ ในหมวดนิยายนิยาย จีน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย candy cat อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

มารุตได้ยืนรออยู่ที่หน้าห้องทำงานของท่านประธานแล้ว เมื่อเห็นนัทธีเดินออกมาจากลิฟต์ กำลังจะกล่าวทักทาย ก็เห็นวารุณีที่ตามหลังมาด้วย ก็ต้องประหลาดใจขึ้นมา

“คุณผู้หญิง คุณก็มาด้วยเหรอครับ”

วารุณียกยิ้มให้มารุต “สวัสดีค่ะผู้ช่วยมารุต”

“สวัสดีครับคุณผู้หญิง”มารุตโค้งคำนับให้ จากนั้นเดินถือเอกสารตามหลังนัทธีไป “ท่านประธานครับ การประชุมใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว นี่เป็นเอกสารการประชุมครับ ”

นัทธีตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง รับเอกสารมาแล้วเปิดดู จากนั้นก็คืนให้มารุต “มากันครบหรือยัง ?”

เขาผลักประตูห้องทำงานออกแล้วเดินเข้าไป

วารุณีกับมารุตก็เดินตามเข้าไปด้วย

มารุตพยักหน้าให้ “ใกล้แล้วครับ ขาดแต่นายท่านวัชระที่ยังมาไม่ถึงครับ”

“ทำไมคุณปู่วัชระต้องมาประชุมที่บริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปด้วย ?” เมื่อวารุณีได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะถามคำถามกับตัวเอง

มารุตสงสัยว่าตัวเองควรจะตอบคำถามนั้นดีหรือไม่

ทันใดนั้นนัทธีก็พูดขึ้นว่า “เธอเป็นภรรยาของฉัน”

“ครับ”เมื่อมารุตได้ยินคำนี้ ใบหน้าที่ลำบากใจก็หายไปในทันที

เพราะคำพูดของนัทธีก็อธิบายได้ชัดเจน ความหมายของเขา ก็คือเธอมีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องพวกนี้

ดังนั้นมารุตจึงได้อธิบายให้วารุณีได้รับรู้ว่า“ เมื่อเร็วๆนี้นายท่านวัชระได้พัฒนาเนื้อผ้ารูปแบบใหม่ แต่เพราะเงินทุนกับเครื่องจักรในการผลิต ผ้าชนิดนี้ไม่สามารถผลิตออกมาได้ตามความเป็นจริง จึงมาหาท่านประธานเพื่อจะเจรจาร่วมลงทุนกัน การประชุมในวันนี้ ก็เพื่อจะพูดคุยกันเรื่องผ้าชนิดนี้ว่าจะผ่านการร่วมการลงทุนกันหรือไม่ครับ ”

“อย่างนี้นี่เอง ”วารุณีพยักหน้า แสดงให้รู้ว่าเข้าใจแล้ว ในใจก็รู้สึกมีความสนใจในเรื่องผ้าชนิดนั้นมาก จึงถามว่า“ เป็นผ้าอะไร ?”

“ได้ยินมาว่าเป็นผ้าเส้นใยนำแสง ผ้าชนิดนี้หากนำเอามาผลิต จะให้ผลที่น้ำหนักเบาและแสงผ่านทะลุได้”มารุตนึกไปถึงคุณสมบัติที่เขียนกำกับเอาไว้ก่อนหน้าในเอกสาร

“แสงผ่านทะลุ?”วารุณีอุทานออกมา จากนั้นก็ขมวดคิ้ว“ หากเป็นอย่างนั้นจริง ประโยชน์ของผ้าชนิดนี้ก็จะสามารถนำไปใช้กับสิ่งอื่นๆได้ ไม่เพียงแค่เอามาผลิตเสื้อผ้า ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นอีกด้วย เช่นทหาร......”

วารุณีชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่ได้พูดอะไร แต่ทุกคนต่างก็เข้าใจความหมายดี

ท่าทีของนัทธีก็ดูจริงจังขึ้นมา “ใช่ เพราะฉะนั้นการประชุมในวันนี้จึงสำคัญมาก และยังมีคนของเบื้องบนเข้าร่วมด้วย”

เพราะคุณสมบัติของผ้าชนิดนี้มีความพิเศษมาก หากไม่รายงานเบื้องบน ทางเบื้องบนไม่มีทางอนุญาตให้บริษัทเอกชนดำเนินการวิจัยพัฒนาและผลิตแน่

“เอาล่ะ คุณรออยู่ในห้องทำงานของผมแล้วกัน ผมจะเข้าประชุมก่อน”นัทธีพูดกับวารุณี ปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกขึ้นยืน

วารุณียักไหล่ให้ “ไม่ล่ะค่ะ เดี๋ยวฉันจะแวะไปที่แผนกออกแบบหาเพื่อนสักหน่อย เสร็จแล้วก็จะกลับไปที่ทำงานเลย”

“ก็ได้”นัทธีพยักหน้า ไม่ได้บังคับให้เธออยู่ต่อ จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับมารุต

“เดี๋ยวก่อน”วารุณีร้องเรียกเขาเอาไว้ทันที

“ว่ายังไง?”ชายหนุ่มหยุดเดิน

วารุณีเดินเข้ามาตรงหน้าเขา “เนกไทคุณเบี้ยว”

พูดจบ เธอก็ยื่นมือไปจัดเนกไทให้เขา

“เรียบร้อยค่ะ”หลังจากที่จัดแจงเสร็จ วารุณีก็ก้าวถอยหลัง เตรียมที่จะหลีกทางให้

นัทธีก็คว้าไปที่เอวของเธอ แล้วดึงร่างเธอเข้ามาให้อ้อมแขนของเขา

วารุณีตัวแข็งทื่อ “คุณจะทำอะไร ? ”

นัทธีไม่ตอบ ก้มมองไปยังริมฝีปากที่แดงระเรื่อ โน้มศีรษะลงแล้วประกบจูบ

วารุณีไม่คิดว่าจู่ๆเขาจะจูบเธอ ก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

มารุตเองก็นิ่งอึ้งไปด้วยเช่นกัน

มารุตอ้าปากค้าง มุมปากกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง

สามีภรรยาคู่นี้จะมากเกินไปแล้ว เขายังอยู่ด้วยทั้งคน มาแสดงความรักต่อหน้าเขาแบบนี้ ช่างไม่เห็นหัวเขาเอาเสียเลย

เมื่อคิดได้ดังนี้ มารุตก็กลอกตามองบน

วารุณีก็เพิ่งมาได้สติ เมื่อเห็น ใบหน้าก็ขึ้นเห่อแดงระเรื่อ ผลักนัทธีออกทันที ก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย “เพราะคุณเลย มารุตเขาเห็นหมดแล้ว ”

เมธาวีเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาเจอวารุณีที่นี่ เธอถึงกับตกใจ จากนั้นก็จ้องมองมาด้วยความโกรธ“ คุณเองเหรอ?”

วารุณียกยิ้มแล้วพยักหน้าให้ “ฉันเอง คุณเมธาวีไม่เจอกันนานเลย คุณเมธาวีเป็นพนักงานที่นี่เหรอคะ ?”

เธอเห็นบัตรพนักงานที่แขวนอยู่บนคอของเมธาวีก็เลิกคิ้วขึ้น

คุณหนูตระกูลแววสูงเนิน มาเป็นพนักงานที่บริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป ช่างน่าแปลกจริงๆ

“ใช่!”เมธาวียืดอกขึ้น พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “แต่มีบางคำที่คุณพูดผิดไป ฉันไม่ใช่พนักงานทั่วไป ฉันเป็นนักออกแบบในแผนกออกแบบ”

ดังนั้น เธอถึงได้เดินออกมาจากลิฟต์ตัวนี้

“นักออกแบบ?”วารุณีราวกับตัวเองได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุด ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ มองสำรวจเมธาวีตั้งแต่หัวจรดเท้า “คุณเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าเหรอ ?”

นี่มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน !

แม้นายท่านวัชระจะอยากให้หลานสาวตัวเองเป็นนักออกแบบมาก แต่เมธาวีไม่มีพรสวรรค์ในด้านนี้เลย ภาพที่วาดออกมา สู้เด็กน้อยวาดรูปยังไม่ได้เลย จะเป็นนักออกแบบได้จริงเหรอ ?

“ทำไม ฉันจะเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าไม่ได้เหรอ?”มองดูแววตาที่สงสัยของวารุณี เมธาวีก็ถึงกับหงุดหงิดขึ้นมาทันที

ในตอนที่หงุดหงิดก็รู้สึกผิดไปด้วยเล็กน้อยเช่นกัน

เพราะตัวเธอเองรู้ดี ว่าเธอไม่มีความสามารถที่จะเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าได้ เพราะเธอพลาดท่าเสียทีให้กับผู้หญิงอย่างวารุณีมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นเมื่อหลงใหลในเรื่องนี้ ก็คิดที่จะเป็นนักออกแบบเหมือนกัน จะสยบวารุณีในวงการนี้ให้ได้

แต่เธอไม่มีพรสวรรค์ในด้านนี้จริงๆ เข้ามาที่นี่ได้ ก็เพราะไปขอร้องกับคุณปู่ คุณปู่จึงบอกพี่นัทธี เธอจึงสามารถเข้ามาที่นี่ได้

คุณปู่ให้เธอเข้ามาที่นี่เพื่อเรียนรู้กับนักออกแบบคนอื่นๆ แต่เพราะเธอไม่มีพรสวรรค์จริงๆ ฟังไม่เข้าใจและก็ดูไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นงานของเธอในแต่ละวันไม่เล่นเกมก็คือนอนหลับ หรือไม่ก็มาทำงานสาย

นี่ก็คือเหตุผล ว่าทำไมเธอเพิ่งจะมาเข้างาน

“เปล่าไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น”วารุณีโบกมือให้ “ ทุกคนมีสิทธิ์เลือกอาชีพของตัวเอง ฉันแค่แปลกใจ ว่าทำไมคุณเมธาวีถึงได้สิ้นคิด ยืนกรานที่จะทำงานแบบนี้”

ในขณะที่พูด เธอก็มองไปยังเมธาวีเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

เมธาวีมองออก ว่าหญิงสาวกำลังหัวเราะเยาะตัวเองอยู่ โกรธจนกัดฟันแน่น“ คุณจะมายุ่งอะไรด้วย คุณรอเอาไว้ได้เลย ความแค้นที่มีก่อนหน้านี้ ฉันจำมันเอาไว้อยู่ตลอด สักวันฉันจะคิดบัญชีกับคุณ บดขยี้จนคุณไม่เหลือ ในที่ที่คุณภูมิใจที่สุด หึ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ