มารุตได้ยืนรออยู่ที่หน้าห้องทำงานของท่านประธานแล้ว เมื่อเห็นนัทธีเดินออกมาจากลิฟต์ กำลังจะกล่าวทักทาย ก็เห็นวารุณีที่ตามหลังมาด้วย ก็ต้องประหลาดใจขึ้นมา
“คุณผู้หญิง คุณก็มาด้วยเหรอครับ”
วารุณียกยิ้มให้มารุต “สวัสดีค่ะผู้ช่วยมารุต”
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง”มารุตโค้งคำนับให้ จากนั้นเดินถือเอกสารตามหลังนัทธีไป “ท่านประธานครับ การประชุมใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว นี่เป็นเอกสารการประชุมครับ ”
นัทธีตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง รับเอกสารมาแล้วเปิดดู จากนั้นก็คืนให้มารุต “มากันครบหรือยัง ?”
เขาผลักประตูห้องทำงานออกแล้วเดินเข้าไป
วารุณีกับมารุตก็เดินตามเข้าไปด้วย
มารุตพยักหน้าให้ “ใกล้แล้วครับ ขาดแต่นายท่านวัชระที่ยังมาไม่ถึงครับ”
“ทำไมคุณปู่วัชระต้องมาประชุมที่บริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปด้วย ?” เมื่อวารุณีได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะถามคำถามกับตัวเอง
มารุตสงสัยว่าตัวเองควรจะตอบคำถามนั้นดีหรือไม่
ทันใดนั้นนัทธีก็พูดขึ้นว่า “เธอเป็นภรรยาของฉัน”
“ครับ”เมื่อมารุตได้ยินคำนี้ ใบหน้าที่ลำบากใจก็หายไปในทันที
เพราะคำพูดของนัทธีก็อธิบายได้ชัดเจน ความหมายของเขา ก็คือเธอมีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องพวกนี้
ดังนั้นมารุตจึงได้อธิบายให้วารุณีได้รับรู้ว่า“ เมื่อเร็วๆนี้นายท่านวัชระได้พัฒนาเนื้อผ้ารูปแบบใหม่ แต่เพราะเงินทุนกับเครื่องจักรในการผลิต ผ้าชนิดนี้ไม่สามารถผลิตออกมาได้ตามความเป็นจริง จึงมาหาท่านประธานเพื่อจะเจรจาร่วมลงทุนกัน การประชุมในวันนี้ ก็เพื่อจะพูดคุยกันเรื่องผ้าชนิดนี้ว่าจะผ่านการร่วมการลงทุนกันหรือไม่ครับ ”
“อย่างนี้นี่เอง ”วารุณีพยักหน้า แสดงให้รู้ว่าเข้าใจแล้ว ในใจก็รู้สึกมีความสนใจในเรื่องผ้าชนิดนั้นมาก จึงถามว่า“ เป็นผ้าอะไร ?”
“ได้ยินมาว่าเป็นผ้าเส้นใยนำแสง ผ้าชนิดนี้หากนำเอามาผลิต จะให้ผลที่น้ำหนักเบาและแสงผ่านทะลุได้”มารุตนึกไปถึงคุณสมบัติที่เขียนกำกับเอาไว้ก่อนหน้าในเอกสาร
“แสงผ่านทะลุ?”วารุณีอุทานออกมา จากนั้นก็ขมวดคิ้ว“ หากเป็นอย่างนั้นจริง ประโยชน์ของผ้าชนิดนี้ก็จะสามารถนำไปใช้กับสิ่งอื่นๆได้ ไม่เพียงแค่เอามาผลิตเสื้อผ้า ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นอีกด้วย เช่นทหาร......”
วารุณีชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่ได้พูดอะไร แต่ทุกคนต่างก็เข้าใจความหมายดี
ท่าทีของนัทธีก็ดูจริงจังขึ้นมา “ใช่ เพราะฉะนั้นการประชุมในวันนี้จึงสำคัญมาก และยังมีคนของเบื้องบนเข้าร่วมด้วย”
เพราะคุณสมบัติของผ้าชนิดนี้มีความพิเศษมาก หากไม่รายงานเบื้องบน ทางเบื้องบนไม่มีทางอนุญาตให้บริษัทเอกชนดำเนินการวิจัยพัฒนาและผลิตแน่
“เอาล่ะ คุณรออยู่ในห้องทำงานของผมแล้วกัน ผมจะเข้าประชุมก่อน”นัทธีพูดกับวารุณี ปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกขึ้นยืน
วารุณียักไหล่ให้ “ไม่ล่ะค่ะ เดี๋ยวฉันจะแวะไปที่แผนกออกแบบหาเพื่อนสักหน่อย เสร็จแล้วก็จะกลับไปที่ทำงานเลย”
“ก็ได้”นัทธีพยักหน้า ไม่ได้บังคับให้เธออยู่ต่อ จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับมารุต
“เดี๋ยวก่อน”วารุณีร้องเรียกเขาเอาไว้ทันที
“ว่ายังไง?”ชายหนุ่มหยุดเดิน
วารุณีเดินเข้ามาตรงหน้าเขา “เนกไทคุณเบี้ยว”
พูดจบ เธอก็ยื่นมือไปจัดเนกไทให้เขา
“เรียบร้อยค่ะ”หลังจากที่จัดแจงเสร็จ วารุณีก็ก้าวถอยหลัง เตรียมที่จะหลีกทางให้
นัทธีก็คว้าไปที่เอวของเธอ แล้วดึงร่างเธอเข้ามาให้อ้อมแขนของเขา
วารุณีตัวแข็งทื่อ “คุณจะทำอะไร ? ”
นัทธีไม่ตอบ ก้มมองไปยังริมฝีปากที่แดงระเรื่อ โน้มศีรษะลงแล้วประกบจูบ
วารุณีไม่คิดว่าจู่ๆเขาจะจูบเธอ ก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
มารุตเองก็นิ่งอึ้งไปด้วยเช่นกัน
มารุตอ้าปากค้าง มุมปากกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง
สามีภรรยาคู่นี้จะมากเกินไปแล้ว เขายังอยู่ด้วยทั้งคน มาแสดงความรักต่อหน้าเขาแบบนี้ ช่างไม่เห็นหัวเขาเอาเสียเลย
เมื่อคิดได้ดังนี้ มารุตก็กลอกตามองบน
วารุณีก็เพิ่งมาได้สติ เมื่อเห็น ใบหน้าก็ขึ้นเห่อแดงระเรื่อ ผลักนัทธีออกทันที ก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย “เพราะคุณเลย มารุตเขาเห็นหมดแล้ว ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...