พิชิตถอนหายใจ และอาการก็ดูขมขื่นโดดเดี่ยวขึ้นมา“นวิยาไม่อยากอยู่ที่โรงพยาบาล เธอถือโอกาสตอนที่ฉันไม่สังเกต ไปถามอาการของเธอที่แผนกจักษุโดยเฉพาะว่าออกจากโรงพยาบาลได้หรือไม่ พอสอบถามว่าออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ก็ให้ฉันพาเธอมาทันที”
“แล้วไงต่อ?”สีหน้านัทธีหม่นลงอย่างดูแย่
พิชิตลูบขมับ“จากนั้นฉันไม่เห็นด้วย นวิยาก็ขอร้องฉัน ฉันเปลี่ยนความคิดของเธอไม่ได้ และก็กังวลอีกว่าเธอจะทำอะไร ดังนั้นจึงได้แต่ทำแบบนี้ ขอโทษนะนัทธี”
นัทธีมองเขาอย่างเย็นชา“แกต้องรู้นะ แกทำแบบนี้ จะทำให้ครอบครัวฉันเป็นยังไง?”
“ฉันรู้ ท่าทีของวารุณีเมื่อกี๊ ฉันเข้าใจแล้ว”พิชิตหัวเราะอย่างขมขื่น
ที่จริงเขาเสียใจมาก ถ้านวิยากับวารุณีมีอะไรเกิดขึ้นอีกครั้ง ก็ถือว่าเขาช่วยจุดชนวน
แต่ตอนนี้เสียใจไปก็ทำอะไรไม่ได้ ส่งเธอมาแล้ว
“พิชิต แกยังรักนวิยาไหม?”ตอนที่พิชิตแอบร้องทุกข์อยู่นั้น จู่ๆนัทธีก็ถามออกมา
พิชิตตะลึง“ทำไมจู่ๆแกก็ถามฉันแบบนี้”
“ตอบฉันมา!”นัทธีมองเขาอย่างพิจารณา
สายตาพิชิตสั่นคลอน จากนั้นพยักหน้า“อือ ถ้าฉันไม่รัก ฉันก็คงไม่ใจอ่อนเพราะว่าเธอขอร้องหรอก”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นแกก็รีบจีบนวิยาให้ติดสิ”นัทธียกน้ำขึ้นมาจิบคำหนึ่ง
พิชิตเกือบจะกัดลิ้นของตัวเอง“จีบ......ให้ติด?”
“ไม่ใช่ว่าแกรักนวิยาเหรอ?”นัทธีเหลือบมองเขา
พิชิตส่ายมืออย่างตื่นตระหนกเล็กน้อย“ก็รักเธอ แต่ฉันจีบเธอไม่ได้อยู่แล้ว และเอก็ไม่ได้ชอบฉัน!”
ตอนที่พูดประโยคนี้ ในสายตาลึกๆของพิชิต ชัดเจนว่าเศร้าเล็กน้อย
ริมฝีปากบางๆของนัทธีเม้มลง“แกรักเธอ แล้วนวิยารู้ไหม?”
“ฉันไม่รู้”พิชิตส่ายหน้า“ฉันไม่เคยบอกนวิยา กับความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอ ดังนั้นฉันไม่แน่ใจว่าเธอรู้หรือไม่”
“ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นแกก็บอกความรู้สึกของแกกับนวิยาไปตรงๆสิ พอเธอรู้แล้ว แกถึงจะมีความน่าจะเป็นที่จะสำเร็จ”นัทธีพูดนิ่งๆ
ในใจของพิชิตนั้นหวั่นไหวเล็กน้อย แต่จากนั้นก็คิดอะไรได้ จึงส่ายหน้าอีก“ไม่ได้หรอก คนที่นวิยารักคือแก ถึงฉันบอกความในใจกับเธอไป เธอก็จะปฏิเสธฉัน และฉันไม่อยากทำให้เธอลำบากใจ ไม่อยากให้เธอไม่มีความสุข”
ความรักของเขาก็เป็นแบบนี้ รักคนๆหนึ่ง ก็หวังว่าเธอจะมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างดี
จะไม่นำปัญหาและความยากลำบากมาให้กับอีกฝ่าย แค่เพราะว่าความรู้สึกของตัวเอง
นัทธีหัวเราะอย่างเย็นชา“ขี้ขลาด เพราะแกเป็นแบบนี้แหละ ไม่เคยสารภาพรัก และก็ไม่แข็งแกร่งขึ้นบ้าง ดังนั้นถึงไม่ได้นวิยามา แต่ถ้าแกแข็งแกร่งขึ้นมาหน่อย บางทีผลลัพธ์อาจจะไม่เหมือนกัน”
พอได้ยิน พิชิตก็ลูบจมูกอย่างเคอะเขิน
โอเค เขายอมรับว่าตัวเองขี้ขลาดหน่อยๆในเรื่องความรู้สึก ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย
แต่ถ้าเขาแข็งแกร่งขึ้นมาหน่อยจริงๆ นวิยาจะคบกับเขาจริงๆเหรอ?
พิชิตละสายตาลง เริ่มครุ่นคิดขึ้นมา
นัทธีได้ยินเสียงฝีเท้าจากบันได จึงเงยหน้ามองไป เห็นวารุณีจับราวบันไดลงมา เอาแก้วน้ำวางไว้ที่โต๊ะน้ำชา“แกคิดเอาเองละกัน ถ้าแกปล่อยนวิยาไปแบบนี้ต่อไป นวิยาจะเป็นอย่างไร แกกับฉันก็ไม่อาจคาดเดาได้”
คำนี้ทำให้สีหน้าพิชิตเปลี่ยนไป จากนั้นท่าทีก็ดูจริงจังขึ้นมาทันที มือที่วางไว้ที่ขา ก็ค่อยๆกำขึ้นมา
ผ่านไปสองนาที ทันใดนั้นเขาก็ยืนขึ้นมา“ห้องของนวิยาอยู่ที่ไหน?”
“ชั้นสอง ห้องที่สองที่ใกล้กับบันได”นัทธีพูดออกไป
พิชิตพูดขอบคุณ แล้วหันกลับเดินไปที่บันได
นัทธีพูดถูก ถ้าเขาปล่อยให้นวิยารักนัทธีตลอดไป เป็นแบบนี้ต่อไป กลัวว่านวิยาจะทำเรื่องอะไรที่ทำให้คนคิดไม่ถึงได้
ยังไงสองครั้งนี้ ก็เหนือความคาดหมายของพวกเขาแล้ว
ดังนั้น ถ้าเขาลองดู ลองสารภาพความรู้สึกกับนวิยา ให้นวิยามอบโอกาสเขาครั้งหนึ่ง แบบนี้ ก็จะดีต่อนัทธีวารุณี และเขาเอง
พอคิดแบบนี้ ฝีเท้าของพิชิตก็เร่งเร็วขึ้น
แต่ตอนที่ผ่านวารุณี เขาก็ค่อยๆหยุดลง พูดด้วยใบหน้ารู้สึกผิด:“ขอโทษนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...