“เรียกหมอมาตรวจดูคุณ”ริมฝีปากบางๆของนัทธีตอบไปเบาๆ
วารุณีหัวเราะ“ไม่ต้องหรอก น่าจะกินจนท้องอืด พรุ่งนี้ก็ดีขึ้นแหละมั้ง”
“คุณแน่ใจเหรอ?”นัทธีหรี่ตาลงถาม
วารุณีพยักหน้า“ใช่แน่นอน ไม่เจ็บไม่คัน นอกจากกินแล้วไม่ย่อย ก็ไม่ใช่เพราะสาเหตุอื่นแล้วแน่ โอเคสามี นอนเถอะ”
เธอเขย่าแขนของเขา อย่างออดอ้อน
นัทธีก็ใจอ่อน“โอเค ถ้าพรุ่งนี้ท้องคุณยังไม่สบาย ต้องไปหาหมอนะ”
“อือๆ”วารุณีรีบพยักหน้า
นัทธีเปิดผ้าห่มออกแล้วขึ้นไป เอาเธอมาโอบในอ้อมแขน จูบไปที่หน้าผากของเธอ“โอเค นอนเถอะ”
“ฝันดี”วารุณีถูไถอยู่ในอ้อมแขนของเขา หาที่สบายเจอแล้ว ก็หลับตาลง
ราตรีสวัสดิ์
ช่วงอาหารเช้าวันถัดมา ป้าส้มถือการ์ดเชิญใบหนึ่งมา ยื่นให้นัทธี
วารุณีแค่มองก็จำได้การ์ดเชิญนั้นได้“มันคือการ์ดเชิญพิธีบรรลุนิติภาวะของเจ้าหญิงน้อย”
นัทธีเปิดอ่านดู“พี่ชายเธอส่งมาให้ผม”
“ใช่สิ คุณมีธุรกิจกับพี่ชายเธอ จะต้องให้คุณอยู่แล้ว”วารุณีดื่มนมแล้วตอบกลับ
นัทธีปิดการ์ดเชิญมาไว้อีกฝั่ง“คุณก็ได้เหรอ?”
“ใช่ เมื่อวานได้มา”วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม:“ถึงตอนนั้นแล้วพวกเราไปด้วยกัน”
“อือ”นัทธีตอบกลับ
นวิยาที่อยู่ข้างๆเห็นทั้งสองพูดคุยกัน ตัวเองแทรกพูดไม่ได้ มือกำส้อมไว้แน่น แต่กลับไม่ได้จะพูดออกมา
ยังไงตัวตนของเธอตอนนี้ก็ทำไม่ได้ เธอเป็นแฟนของพิชิตแล้ว ถ้ายังพูดไปเรื่อยเปื่อยเหมือนเมื่อก่อนอีก มันจะเป็นการกระทำที่ไร้มารยาทอย่างชัดเจน
แต่ว่าช่างเถอะ ยังไงซะตัวตนที่เป็นแฟนสาวของพิชิต เธอก็ใช้ได้อีกไม่นานแค่ไหนหรอก
ทานข้าวเสร็จ วารุณีก็พาลูกทั้งสองออกไปจากบ้านกับนัทธี แล้วเริ่มทำงานวันใหม่
เธอทำแบบนี้จนผ่านไปครึ่งเดือน พิธีบรรลุนิติภาวะของเจ้าหญิงน้อยก็มาถึง
วารุณีกับลีน่าเอาชุดราตรีและเครื่องประดับที่ทำเสร็จแล้วไปส่ง เจ้าหญิงน้อยลองสวมอย่างดีใจ เหมาะอย่างมาก คืนนั้นจึงเอาชุดราตรีและเครื่องประดับ นั่งเครื่องบินกลับประเทศ
ยังไงสไตลิสต์ก็ยังรออยู่ในประเทศ ถ้าเธอเอาชุดราตรีกับเครื่องประดับกลับไป ก็จะให้สไตลิสต์ออกแบบการแต่งหน้าและทรงผมได้
วารุณีกับนัทธีไปประเทศนั้นด้วยกันเพื่อร่วมพิธีบรรลุนิติภาวะของเจ้าหญิงน้อย ในวันถัดมาที่เจ้าหญิงน้อยกลับประเทศ
ที่มาด้วยกันอีกนั้น ยังมีปาจรีย์กับลีน่า
ในงานเลี้ยง แสงไฟส่องแสงเป็นประกาย ทุกคนต่างสังสรรค์ทำความรู้จักกัน คึกคักอย่างมาก
วารุณีควงแขนของนัทธี ไปทำความรู้จักกับนักธุรกิจคนอื่นกับเขา
ส่วนปาจรีย์กับลีน่า กลับไปรู้จักดีไซเนอร์คนอื่น
วนไปรอบๆ เท้าของวารุณีก็ยืนจนปวด แต่ยังต้องทนไว้
นัทธีมองออก จึงโอบเอวของเธอมาที่มุมของโซนรับรองในโถงของงานเลี้ยง ให้เธอนั่งลง“เจ็บเท้าเหรอ?”
วารุณีพยักหน้า“รองเท้านี้กัดเท้าหน่อยๆ”
รองเท้าคู่นี้เธอใส่มาเพื่อให้เข้ากับชุดราตรีที่ตัว เลือกมาโดยเฉพาะ ใครจะไปรู้ว่าจะกัดเท้า
ถ้ารู้แบบนี้ เธอคงไม่สวมคู่นี้แล้ว
นัทธีนั่งอยู่ข้างเธอ ยกเท้าของเธอขึ้นมา วางไว้ที่ขาของตัวเอง จากนั้นจะถอดรองเท้าของเธอ
วารุณีเห็นแบบนี้ จึงตกใจ เอาขาคืนกลับมาอย่างไม่รู้ตัว พูดเสียงเบา:“คุณทำอะไร?”
“ผมจะดูแผลที่เท้าคุณ”นัทธีจับข้อเท้าเธอไว้ ไม่ให้เธอชักเท้ากลับไป
วารุณีหมดหนทาง ได้แต่ปล่อยให้เขาบีบ“แต่ในงานเลี้ยงแบบนี้ ไม่ค่อยดีมั้ง?”
“ไม่เป็นไร ไม่มีใครสังเกตพวกเรา”นัทธีพูดจบ ก็ถอดรองเท้าของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...