ในหัวนั้นว่างเปล่า มีความคิดแค่อย่างเดียว นั้นก็คือรถคันนี้อยากชนเธอตาย!
ดวงตามองเห็นรถคันนี้ที่ใกล้ตัวเองเข้ามาเรื่อยๆ ปาจรีย์รู้สึกถึงกลิ่นของน้ำมันรถและลมร้อนที่ปล่อยออกมาจากรถ
เวลานี้ เธอสามารถเห็นฉากที่ร่างตัวเองถูกชนจนลอยอยู่กลางอากาศ
ปาจรีย์ตกใจจนกรีดร้องออกมา แล้วหลับตาลงอย่างไม่รู้ตัว รอความตายที่มาถึง
อย่างไรก็ตามหลังจากรถอยู่หลายวินาที เธอก็ไม่รู้สึกว่าร่างกายตัวเองมีอะไรผิดปกติไป ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมาอย่างแปลกใจ
ลืมตามาก็พบว่ารถคันนั้นที่ชนเข้ามาที่ตัวเองไม่อยู่แล้ว ขับออกไปแล้ว เธอยังมองเห็นท้ายรถของรถคันนั้นด้วย
เกิดอะไรขึ้น?
ไม่ชนเธอเหรอ?
ปาจรีย์มองทางที่รถคันนั้นออกไปด้วยสีหน้าซีดขาว สักพัก หัวใจที่แขวนอยู่ จึงค่อยๆสงบลง ความกลัวในใจก็ค่อยๆหายไป
และตอนนี้เอง เธอก็นึกถึงวารุณีขึ้นมา
“วารุณี!”ปาจรีย์มองไปทางที่วารุณีเพิ่งถูกจับไป รถคันนั้นก็ไม่มีใครแล้ว
หมายความว่า วารุณีถูกคนพาตัวไป
และรถที่จะชนตัวเองเมื่อกี๊ เป็นพวกเดียวกับคนที่จับวารุณีไป ก็เพื่อห้ามคนไปช่วยวารุณี
พอมีคนปรากฏตัวมาช่วยวารุณี ก็มีคนขับรถมาขวางไว้
ดังนั้นรถคันเมื่อกี๊ ไม่ได้อยากชนเธอตายจริงๆ ก็แค่ขู่เธอเฉยๆ จากนั้นช่วงชิงเวลาให้คนที่จับตัววารุณีไป
ไปตายซะ!
“จบเห่แล้ว!”ปาจรีย์กระทืบเท้าด้วยสีหน้าร้อนใจ จากนั้นหยิบโทรศัพท์มาแจ้งความทันที แจ้งทางโรงพักไปว่า วารุณีถูกลักพาตัวไป
ไม่ใช่แค่นี้ พอแจ้งความแล้ว เธอก็รีบโทรหาบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป อยากเอาเรื่องนี้ไปบอกนัทธี
แต่เธอไม่มีช่องทางติดต่อของนัทธี ได้แต่โทรหาพนักงานเคาน์เตอร์ของบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป
“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ”พนักงานเคาน์เตอร์สาวถามด้วยเสียงอ่อนโยน“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?”
“เร็วเลย รีบช่วยฉันติดต่อกับประธานของพวกคุณโดยตรง”เสียงที่รีบร้อนของปาจรีย์กำลังสั่น
พนักงานเคาน์เตอร์ขมวดคิ้ว“คุณผู้หญิงคะ ประธานของพวกเรายุ่งมาก ถ้าคุณมีอะไรบอกฉันได้ รอประธานว่าง ฉันจะช่วยบอกให้ได้ไหมคะ?”
หึ เป็นผู้หญิงที่คิดไม่ซื่อกับประธานอีกแล้ว
ผู้หญิงแบบนี้ เธอเห็นมาเยอะแล้ว ทุกครั้งก็จะเปลี่ยนวิธีคิดต่อประธาน เธอไม่ให้ผู้หญิงพวกนี้สมปรารถนาหรอก
ปาจรีย์แทบจะโกรธพนักงานเคาน์เตอร์ตาย ขย้ำหัวอย่างหงุดหงิด ตะโกนไปว่า:“ฉันคือเพื่อนสนิทของคุณผู้หญิงท่านประธาน คุณผู้หญิงของประธานคุณเกิดเรื่องแล้ว ถ้าคุณยังไม่ติดต่อนัทธี แล้วพลาดเวลาช่วยชีวิตของภรรยาประธานพวกคุณไป คุณรอรับผิดชอบได้เลย กลัวว่าความรับผิดชอบนี้คุณจะรับไม่ไหวน่ะสิ!”
พอพูดคำนี้ไป ในใจของพนักงานเคาน์เตอร์ก็เต้นตึกตัก
ประธานแต่งงานแล้วในบริษัทรู้กันดี แต่พวกเขากลับไม่เคยเห็นคุณผู้หญิงสักคน
ตอนนี้ผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่าเพื่อนสนิทของคุณผู้หญิงบอกว่า เกิดเรื่องกับคุณผู้หญิง และก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ฟังน้ำเสียงแล้ว ร้อนรนมากจริงๆ หรือจะเกิดเรื่องจริงๆนะ?
พนักงานเคาน์เตอร์ไม่กล้าพนันเลย
ถ้าคุณผู้หญิงเกิดเรื่องจริง ตัวเองบอกไม่ทัน ผลที่ตามมาตัวเองก็รับไม่ไหวจริงๆแน่
แต่ถ้าผู้หญิงที่ปลายสายนั้นแกล้ง......
พนักงานเคาน์เตอร์กัดริมฝีปาก ครุ่นคิดอยู่แป๊บหนึ่ง ก็ตัดสินใจบอกต่อ
ถึงจะเป็นการกลั่นแกล้ง อย่างมากก็ถูกต่อว่า ยังไงก็ปลอดภัยดีกว่าเสียใจทีหลัง
คิดตัดสินใจกับงานของตัวเองได้แล้ว พนักงานเคาน์เตอร์จึงสูดหายใจ ตอบกลับด้วยเสียงจริงจัง:“คุณผู้หญิงรอสักครู่ ฉันจะโอนสายให้”
ปาจรีย์ก็ถือว่าโล่งอก แต่ก่อนวาง ก็ไม่ลืมกำชับ“จำไว้นะ ต้องรีบหน่อย ฉันกลัวช้าไปจะไม่ทัน”
“ค่ะ”
พนักงานเคาน์เตอร์พูดจบ ก็วางสาย แล้วโทรหาเบื้องบน
พนักงานเคาน์เตอร์ไม่มีอำนาจโทรหาห้องทำงานของนัทธีโดยตรง ได้แต่โทรเข้าโทรศัพท์มารุต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...