วารุณีก็ไม่อยากรออยู่ข้างนอกพอดี อยากหาที่นั่งลงสักพัก จึงพยักหน้าโอเค
เธอรอเขาในเต็นท์มาได้สองชั่วโมงแล้ว เขาถึงเพิ่งเสร็จงานกลับมา
พอกลับมา ทั้งสองก็ขึ้นรถออกไป เช็คเอาท์โรงแรม แล้วเดินทางไปสนามบิน
หกโมงเช้าวันถัดมา ทั้งสองกลับมาถึงจังหวัดจันทร์
อารัณกับไอริณยังไม่ตื่น วารุณีเห็นพวกเรานอนหลับสนิท ก็ไม่ได้รบกวนพวกเขา ปิดประตูห้องเบาๆแล้วออกไป
นัทธีไปที่ห้องทำงาน
วารุณีกลับไปที่ห้อง เตรียมจะงีบนอน
ตอนที่นอนไปถึงแปดโมงกว่า ก็ถูกนาฬิกาปลุกให้ตื่น
เธออาบน้ำแล้วลงมาชั้นล่าง อารัณกับไอริณเห็นเธอ ก็ดูไม่อยากจะเชื่อก่อน จนกระทั่งวารุณีตะโกนเรียกพวกเขา พวกเขาจึงวิ่งมาที่เธออย่างดีใจ
“หม่ามี๊ หม่ามี๊กลับมาแล้ว”อารัณกับไอริณกอดขาของเธอไว้
วารุณีลูบหัวของลูกทั้งสองคน ใบหน้าก็ยิ้มไปอย่างอ่อนโยน“หม่ามี๊กลับมาแล้ว สองวันนี้หม่ามี๊ไม่อยู่ เป็นเด็กดีหรือเปล่า?”
“เด็กดี”เด็กทั้งสองคนพยักหน้าทันที
จากนั้น อารัณก็ถาม“หม่ามี๊ พ่อกลับมายัง?”
“กลับมาแล้ว”วารุณีตอบ
ไอริณหัวเราะอย่างมีความสุขมากขึ้น“ดีจัง พ่อกับหม่ามี๊กลับมากันแล้ว”
วารุณีบีบจมูกเธอแล้วหัวเราะ จูงมือของเธอกับอารัณเดินไปที่ห้องอาหาร
ระหว่างทาง จู่ๆอารัณก็พูดขึ้นมาอย่างซีเรียส“หม่ามี๊ สองวันนี้หม่ามี๊ไม่อยู่ คุณน้านวิยามาหาพวกเราด้วย”
ได้ยินคำนี้ รอยยิ้มของวารุณีหุบลงทันที จากนั้นหรี่ตาลง“เธอมาหาพวกลูกทำไม ได้ทำอะไรพวกลูกหรือเปล่า?”
อย่างที่คิดไว้เลย เธอกับนัทธีไม่อยู่ นวิยาก็ไม่ปฏิบัติตัวตามกฎเกณฑ์ขนาดนั้น
“เปล่าครับ แค่ถามบางอย่างกับผมและไอริณ”อารัณส่ายหน้า
วารุณีหยุดฝีเท้าลง ก้มตัวลงมองลูกทั้งสองคน“เธอถามอะไรเหรอ?”
“เธอถามหนู เรื่องที่หม่ามี๊อยู่ต่างประเทศ”ไอริณตอบกลับพร้อมอมนิ้ว
อารัณเม้มริมฝีปาก“เธอถามผม ไม่เหมือนกับที่ถามไอริณ เธอถามพวกเราเกี่ยวกับเรื่องของพ่อ”
“พ่อ”วารุณีขมวดคิ้วอย่างสงสัย
ถามเรื่องของนัทธี ทำไมต้องถามเด็กสองคนนี้ด้วย
ไม่ใช่ว่าตัวเธอเองรู้จักและเข้าใจนัทธีมากกว่าเด็กสองคนนี้เหรอ?
พอเห็นท่าทีของวารุณีแล้ว อารัณก็รู้ว่าเธอเข้าใจผิด ส่ายมือเล็กๆไปมา“ไม่ใช่ครับหม่ามี๊ พ่อนี้ไม่ได้หมายถึงพ่อนัทธี แต่หมายถึงพ่อแท้ๆของพวกเรา”
รูม่านตาของวารุณีหดลงเล็กน้อย“เธอถามอย่างไร”
“เธอถามพวกเราว่า รู้หรือไม่ว่าพ่อแท้ๆของพวกเราคือใคร แล้วก็พูดอีกว่าพวกเราอยากหาพ่อแท้ๆเจอไหม”
สีหน้าวารุณีหม่นลงไปเล็กน้อย บีบฝ่ามือขึ้นมา
นวิยาถามเรื่องพวกนี้ไปทำไม?
“งั้นพวกลูกตอบไปว่าอะไร?”วารุณีลูบไหล่ของลูกทั้งสองคนแล้วถาม
อารัณส่งเสียงฮึดฮัดอย่างภูมิใจ“ผมไม่สนเธอ ผมพูดไปตรงๆว่าผมไม่รู้ว่าพ่อแท้ๆคืออะไร ผมรู้แค่ว่าคุณพ่อนัทธีก็คือพ่อของพวกเรา พูดจบผมก็พาไอริณออกไป”
“ดีมากลูก”วารุณียิ้มแล้วจูบไปที่แก้มของลูกทั้งสองคน
จากนั้นอารัณก็กัดริมฝีปาก“แต่ว่าหม่ามี๊ พ่อแท้ๆของพวกเรา เป็นใครกันแน่เหรอ ยังมีชีวิตอยู่ไหม?”
นี่เป็นครั้งที่หลายครั้งแล้วที่เขาถามคำถามนี้
แต่ว่าทุกครั้งหม่ามี๊จะไม่บอกเขา
วารุณียกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ฝืนยิ้มออกไป“ยังมีชีวิตอยู่”
“งั้นเขาอยู่ไหน?”อารัณกับไอริณมองเธอมาพร้อมกัน
วารุณียืนขึ้นมา จูงมือของลูกทั้งสองคน เดินไปที่ห้องอาหารต่อ“เขาก็อยู่ที่จังหวัดนี้”
“จริงเหรอ?”เด็กทั้งสองคนตกใจ
วารุณีตอบอือ“จริงๆ ถ้าพวกลูกอยากรู้จักพ่อแท้ๆของพวกลูกจริงๆ รอผ่านช่วงนี้ไป หม่ามี๊จะบอกพวกลูกเอง”
ผ่านช่วงนี้ไป ก็คือวันเกิดของนัทธีแล้ว ที่จริงเธอคิดจะบอกนัทธีวันนั้น กับตัวตนที่แท้จริงของลูกทั้งสองคน
ในเมื่อตอนนี้เด็กทั้งสองคนถามขึ้นมา งั้นเธอก็ยิ่งแน่วแน่ที่จะพูด
ถึงแม้เด็กทั้งสองคนไม่รู้ว่าทำไมวารุณีต้องรอผ่านช่วงนี้ไปก่อนถึงจะบอกพวกเขา แต่ในเมื่อหม่ามี๊พูดแบบนี้แล้ว ก็ต้องมีเหตุผลของหม่ามี๊ พวกเขาไม่ถามมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...