วารุณีมองซ้ายมองขวา ก็มองรอบๆไม่ชัด ได้แต่แน่ใจกับทิศทางหนึ่ง แล้วเสี่ยงโชคคลำหาไป
เธอเพิ่งเดินไปได้สองก้าว ก็คิดอะไรขึ้นได้ หยุดลง แล้วหันไปมองนิรุตติ์
นิรุตติ์ยังนอนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
วารุณีลังเลเล็กน้อย ก็หันกลับ เดินไปที่นิรุตติ์
ความเมตตาที่อยู่ในใจนั้น ทำให้เธอไม่อาจทำได้โดยการทิ้งนิรุตติ์ไว้แบบนี้ แล้วเดินออกไป
ดังนั้นไม่ว่านิรุตติ์จะเป็นหรือตาย เธอก็ทิ้งเขาไว้โดยไม่สนใจไม่ได้
วารุณีเดินไปตรงหน้านิรุตติ์อย่างยากลำบาก ย่อตัวลงอย่างอดกลั้นความเจ็บปวด แล้วยื่นมือออกไปที่นิรุตติ์
ตอนที่สัมผัสได้ว่าร่างกายนิรุตติ์ยังมีความอุ่นอยู่ ในใจของวารุณีก็ดีใจ แล้วรีบไปดูลมหายใจที่จมูกของเขา
“ยังมีลมหายใจ!”วารุณียิ้มออกมาอย่างดีใจ จากนั้นออกแรงผลักนิรุตติ์“นิรุตติ์ คุณฟื้นมาสิ!”
นิรุตติ์ยังคงไม่ขยับ ไม่ฟื้นคืนมา
วารุณีมองไม่ชัดว่าตอนนี้เขาบาดเจ็บแค่ไหน แต่เขาเปียกเม็ดฝนขนาดใหญ่ก็ยังไม่ฟื้นมาแบบนี้ จะต้องหนักกว่าเธอแน่
หมดหนทาง วารุณีได้แต่แบกเขาขึ้นมา เตรียมพยุงเขาไปหาที่หลบฝัน
ทันใดนั้น มือของเธอก็ไปโดนสิ่งของที่แข็ง เหมือนเป็นพวกโทรศัพท์
ดวงตาวารุณีเป็นประกาย รีบขยับมือไปลูบ พอลูบแล้วเป็นโทรศัพท์ ก็กดปุ่มเปิดเครื่อง หน้าจอก็สว่างขึ้นมา
วารุณีแทบร้องไห้ด้วยความดีใจ“ดีจัง ไม่พัง ยังใช้ได้”
โทรศัพท์ยังไม่ฟัง หมายความว่าเธอสามารถติดต่อนัทธีให้มาช่วยพวกเขาได้
อย่างไรก็ตาม พอเห็นโทรศัพท์โชว์ว่าไม่มีซิมการ์ด หัวใจของวารุณีก็เยือกเย็นขึ้นมา รอยยิ้มอันตื่นเต้นที่ใบหน้าก็แข็งไป
สักพักหนึ่ง เธอจึงเหมือนยอมรับชะตากรรม ยิ้มอย่างขมขื่น
ถึงติดต่อโลกภายนอกไม่ได้ แต่อย่างไรก็ใช้แสงสว่างได้ใช่ไหมล่ะ?
วารุณีเปิดไฟฉายโทรศัพท์ จากนั้นแบกนิรุตติ์ เดินไปข้างหน้าทีละก้าว เดินไปได้สักพัก จึงมองเห็นถ้ำขนาดเล็ก
วารุณีพานิรุตติ์หลบไปในถ้ำ
พอเข้าไป วารุณีก็หมดแรง พานิรุตติ์ล้มลงพื้นด้วยกัน แล้วหมดสติไปอีกครั้ง
ฝนยังคงตกหนักต่อไป
ที่แคมป์ด้านล่างตีนเขา มารุตมองฝนเม็ดใหญ่ด้านนอก อารมณ์ก็หดหู่อย่างมาก
พวกเขาหากันตั้งนาน ก็หาคุณผู้หญิงไม่เจอ เป็นไปได้ที่คุณผู้หญิงจะยังไม่ตายจริงๆ แต่ได้รับบาดเจ็บแน่นอน
แต่ตอนนี้ฝนตกหนักอย่างนี้ สำหรับคนบาดเจ็บคนหนึ่งแล้ว เหมือนอยากจะคร่าชีวิตไป
ถ้าคุณผู้หญิงไม่ตายจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะทนได้นานแค่ไหน
กำลังคิดอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ทีมค้นหาและช่วยเหลือคนหนึ่งเดินมาด้านหลังเขา“ผู้ช่วยมารุต ประธานนัทธีฟื้นแล้ว ต้องการพบคุณ”
ตัวของมารุตแข็งทื่อทันที ฉีกยิ้มออกไป“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบเขาจึงสูดลมหายใจ วางน้ำร้อนในมือ หยิบร่มคันหนึ่งมา เดินไปที่เต็นท์ใหญ่ที่สุดนั้น
รู้อยู่แล้วว่าต้องประสบเจอแบบนี้ เผชิญหน้าอย่างยอมรับชะตากรรมดีกว่า
มารุตคิดด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
มารุตเปิดผ้าม่านเต็นท์ เดินเข้าไป“ประ......”
เขาเพิ่งพูดออกไปคำหนึ่ง กำปั้นหนึ่งก็ต่อยเข้ามา ต่อยไปที่หน้าเขาพอดี
แว่นตามารุตลอยออกไป นั่งลงไปที่พื้น ปิดใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ถูกต่อย ไม่กล้ามองชายหนุ่มที่โมโห
“ทำไมคุณต้องทำแบบนี้!”นัทธียืนอยู่ตรงหน้ามารุต กำหมัดไว้ เสียงนั้นเย็นชาราวกับปีศาจที่มาจากขุมนรก
มารุตรู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องที่ตีให้สลบ เงยหน้ามองเขา“ประธาน ผมรู้ว่าคุณโมโหมาก แต่เพราะความปลอดภัยของคุณแล้ว ผมได้แต่ทำแบบนี้”
“งั้นคุณคิดบ้างไหม ถ้าวารุณีไม่ตาย แต่เพราะคุณมาขวางผมไว้ ฝนตกหนักขนาดนี้ก็อาจจะคร่าชีวิตเธอได้!”นัทธีคำรามออกมาด้วยความโมโหสุดๆ
มารุตละสายตาลง“ผมรู้ แต่ผมคือผู้ช่วยพิเศษของคุณ ระหว่างคุณกับคุณผู้หญิง ผมได้แต่เลือกคุณ”
นี่คือหน้าที่พื้นฐานในฐานะที่เขาเป็นผู้ช่วยพิเศษ
นัทธีก็รู้ตรงนี้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขาก็คงไม่ใช่แค่ปล่อยหมัดใส่มารุตไปง่ายๆแบบนี้ แต่อาจจะฆ่าเขาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...