เขายื่นกระดาษที่เขียนเบอร์หนึ่งให้มารุต
มารุตมองเบอร์ด้านบน ก็พยักหน้า“เข้าใจแล้วครับประธาน”
“ไปเถอะ”นัทธีส่ายมือ
มารุตหันกลับออกไป
นัทธีบีบสันจมูก หยิบเอกสารฉบับหนึ่งมาอ่าน
ทันใดนั้น ด้านนอกห้องทำงานก็มีเสียงดังโวยวายเข้ามา
นัทธีขมวดคิ้ว“ใครอยู่ด้านนอก?”
“ประธาน ผู้อำนวยการขงเบ้งโวยวายจะเจอคุณค่ะ”เลขาเปิดประตู ยื่นหน้าเข้าไป ตอบกลับอย่างรู้สึกไม่ดี
“ขงเบ้ง?”นัทธีหรี่ตาลง“ให้เขาเข้ามา”
“ค่ะ”เลขาตอบกลับไป แล้วหดหัวกลับไป
แป๊บหนึ่ง ประตูห้องทำงานก็เปิดออก ชายวัยกลางคนเดินเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห
เขาเดินมาตรงหน้าโต๊ะทำงานของนัทธี มือทั้งสองข้างตบไปที่โต๊ะทำงานนัทธี“นัทธี นี่แกหมายความว่าไง?”
“ลุงหมายถึงอะไร?”นัทธีเงยหน้าขึ้น มองเขานิ่งๆ
ขงเบ้งโมโห“ก็ที่แกตามจับนิรุตติ์ไง ทำไมแกต้องทำขนาดนี้ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องฝ่ายพ่อแกนะ!”
“ก่อนที่ลุงมาถามผม ยังไม่เข้าใจเหตุผลอีกเหรอ?”สายตานัทธีค่อยๆเย็นชา
ขงเบ้งดึงเก้าอี้ออกมานั่ง“ฉันจะถามพวกนั้นไปทำไม แต่ไม่ว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร แกทำกับพี่ชายแกแบบนี้ก็ไม่ดีมั้ง แกรู้ไหมตอนนี้การกระทำของแกนั้นใหญ่โตจนรู้กันไปทั่ววงการแล้ว เห็นตระกูลไชยรัตน์ของพวกเราเป็นเรื่องตลกกันไปหมด”
“แล้วยังไง?”นัทธีตอบกลับอย่างไม่คิดเช่นนั้น
ขงเบ้งโกรธจนเจ็บหน้าอก“แล้วยังไง?แกไม่รู้เหรอว่าพวกเขาคิดอะไรกัน?พวกเขาอยากให้พวกเราตระกูลไชยรัตน์ทะเลาะกันเอง แบบนี้พวกเขาก็สามารถใช้โอกาสจัดการพวกเราตระกูลไชยรัตน์!”
“วางใจเถอะลุง พวกเขาไม่มีโอกาสหรอก เพราะระหว่างผมกับนิรุตติ์ไม่มีความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ มีแต่ความข้องใจในเรื่องส่วนตัว ไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปแน่”นัทธีพูดอย่างเย็นชา
ขงเบ้งกระอักกระอ่วน“แต่ถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่ดี พวกเขามองตระกูลไชยรัตน์เป็นเรื่องตลก ถ้าปิดไม่อยู่ก็มีข่าวลือเรื่องเท็จของตระกูลไชยรัตน์แพร่ออกไป”
“ไม่เป็นไร รอผมจับนิรุตติ์ได้ ผมจะจัดงานแถลง อธิบายว่าพวกนั้นเป็นเพียงข่าวลือ ดังนั้นลุงไม่ต้องห่วง”นัทธีหยิบเอกสารฉบับหนึ่งมาอีกครั้ง แล้วเริ่มจัดการ
ขงเบ้งเห็นเขาไม่ยอมอ่อนข้อให้ ก็หมดหนทางทันที โกรธจนพูดไม่ออก
แต่เขาก็ยังไม่ลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เขามาที่นี่ หลังจากหายใจเข้าลึกๆแล้ว ใบหน้าอ้วนๆนั้น ก็ฉีกยิ้มออกมา
มองดูดีๆแล้ว รอยยิ้มนั้นดูประจบประแจงเล็กน้อย“เอ่อ นัทธี คือลุงไม่รู้นะว่าระหว่างแกกับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องแกเกิดอะไรขึ้น แต่ยังไงพวกแกก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และเป็นพี่ชายน้องชายเพียงคนเดียว แกก็ช่างมันไปเถอะ อย่าจับเขาเลย”
แววตานัทธีมีความเยาะเย้ยแวบผ่าน ปิดเอกสารที่เพิ่งจัดการเสร็จ พูดด้วยเสียงเย็นชา:“ดังนั้นลุงมาที่นี่ เพื่อให้ผมล้มเลิกที่จะจับตัวนิรุตติ์?”
“แค่กๆ ก็ใช่”
“ไม่ได้!”นัทธีปฏิเสธอย่างไม่รักษาน้ำใจ
ขงเบ้งดูแข็งทื่อไป“ทำไมล่ะ?”
“เพราะเขาจับตัวภรรยาผมไป และยังจี้เธอให้ตกเหวไปด้วย ลุงว่าผมจะปล่อยเขาไปได้ไงล่ะจริงไหม?”นัทธีมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา
ขงเบ้งตกใจกลัวสายตาของเขาจนตัวสั่น เนื้อหนังที่ใบหน้าก็สั่น
ท่าทางของเจ้าเด็กนี่ ทำให้ตกใจกลัวมากขนาดนี้เชียว?
ตอนที่คุณปู่มีชีวิตอยู่ ก็ไม่มีท่าทีแข็งแกร่งเท่าเขา?
ขงเบ้งกลืนน้ำลาย เพื่อนิรุตติ์แล้ว ก็ระงับความหวาดกลัวในใจไป รักษารอยยิ้มที่ใบหน้าสุดๆ“เหรอ งั้นหลานสะใภ้เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...