วารุณีพยักหน้าให้ “ใช่ค่ะ!”
“เธอ......”คุณหญิงอัณณ์โกรธจนใบหน้าแดงก่ำ
ในตอนนี้เอง จู่ๆก็มีเสียงที่แผ่วเบาดังขึ้นมา “คุณวารุณี ยังไงคุณหญิงอัณณ์ก็เป็นคุณป้าใหญ่ของคุณ คุณทำแบบนี้ คงจะไม่เหมาะสมสักเท่าไรนะคะ ?”
นวิยาเดินลงมาจากชั้นบน แล้วเดินตรงเข้ามาหา
ใบหน้าเรียวสวยของวารุณีก็มืดมน“คุณนวิยา เรื่องนี้ดูเหมือนมันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลยนะคะ ?”
“ใช่ค่ะมันไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ท่าทีที่คุณปฏิบัติกับคุณหญิงอัณณ์ ฉันไม่เห็นด้วยเท่าไร”นวิยากล่าว แล้วเดินมาตรงหน้าของคุณหญิงอัณณ์ “คุณหญิงอัณณ์ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
คุณหญิงอัณณ์มองมาที่เธอ นึกไม่ออกว่าเธอเป็นใคร “คุณคือ?”
“หนูชื่อนวิยาไงคะ คุณลืมแล้วเหรอ ?” นวิยายกยิ้มแล้วตอบกลับ
คุณหญิงอัณณ์ก็นึกขึ้นมาได้ทันที“นี่หนูเองเหรอ ฉันได้ยินว่าหนูฟื้นนานแล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?”
“หนูมาขอพักอาศัยอยู่กับนัทธีค่ะ ” นวิยากล่าว
คุณหญิงอัณณ์พยักหน้ารับ “อย่างนี้นี่เอง ฉันก็คิดว่าคนที่จะได้มาลงเอยกับนัทธีจะเป็นหนู ไม่คิดว่าจะมีใครบางคนเข้ามาแทรก ช่างน่าเสียดายจริงๆ เมื่อเทียบกับใครบางคนแล้ว ฉันหวังจะให้หนูมาเป็นสะใภ้ของตระกูลไชยรัตน์เรามากกว่า”
เธอจับไปที่มือของนวิยา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มออกมา
ท่าทีแบบนี้ เหมือนกับที่เพิ่งเจอวารุณีเมื่อครู่ไม่มีผิด
วารุณีจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเขากำลังประชดเธออยู่ เพราะเธอไม่ไปพูดเกลี้ยกล่อมนัทธี จึงทำเป็นยกยอปอปั้นนวิยาแล้วมาทับถมเธอ
ในใจของวารุณีเมินเฉยกับเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่ได้รู้สึกโกรธ เธอคร้านที่จะเก็บมาใส่ใจมากกว่า ยกแก้วน้ำตัวเองขึ้น แล้วจิบมันอย่างสบายอารมณ์
แต่นวิยาเองกลับรู้สึกเขินอาย และแกล้งมองไปยังวารุณีอย่างรู้สึกผิด“คุณวารุณี คุณหญิงอัณณ์ไม่ได้ตั้งใจ คุณอย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ วางใจเถอะ ตอนนี้ฉันตกลงคบหากับพิชิตแล้ว จะไม่คิดเกินเลยอะไรกับนัทธีอีก ดังนั้นคำพูดของคุณหญิงอัณณ์ คุณอย่าเก็บเอาไปคิดมากนะ”
“ฉันไม่ได้สนใจมันเลย เพราะคำพูดพวกนั้นทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ไม่ว่าเขาจะพูดยังไง คนที่อยู่กับนัทธี ก็ยังเป็นฉัน” วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
แววตาของนวิยาก็เย็นชา แต่ใบหน้ายังคงยกยิ้มอยู่ “คุณพูดถูก ”
เธอไม่ได้มองวารุณอีก หันกลับไปมองที่คุณหญิงอัณณ์“คุณนาย เมื่อครู่หนูได้ยินที่คุยกันไม่ทั้งหมด ได้ยินแค่คุณขอให้คุณวารุณีช่วยใช่ไหมคะ ? แต่คุณวารุณีเธอปฏิเสธ?”
“ก็ใช่นะสิ ไม่เคยเห็นใครไร้หัวใจเท่านี้มาก่อน” หางตาของคุณหญิงอัณณ์เหลือบมองมายังวารุณีด้วยความรังเกียจ
วารุณีไม่ได้สนใจ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเล่น ราวกับเธอเป็นธาตุอากาศ
และมันก็ทำให้คุณหญิงอัณณ์ต้องเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง
นวิยาจ้องมองและเก็บรายละเอียดของคนทั้งคู่ มุมปากค่อยๆยกหยักขึ้น
เธออดไม่ได้ที่อยากจะให้ทั้งสองคนนั้นหมางใจกัน
เธออยากให้วารุณีได้รู้ ว่าแต่งงานกับนัทธี แต่งเข้าตระกูลไชยรัตน์แล้วมันยังไง ไม่ได้รับความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ ผลมันจะเป็นยังไง
ต้องมีสักวัน ที่เธอจะทนอยู่ในตระกูลไชยรัตน์ต่อไปไม่ได้อีก
เมื่อคิดได้ดังนั้น รอยยิ้มของนวิยาที่ส่งไปให้กับคุณหญิงอัณณ์ก็ยิ่งฉีกกว้างมากขึ้น“งั้นคุณหญิงอัณณ์พอจะบอกหนูได้ไหมคะ เผื่อหนูจะไปช่วยพูดขอร้องกับนัทธีให้ได้ ?”
“ใช่สิ!”แววตาของคุณหญิงอัณณ์เป็นประกาย“นวิยา หนูเป็นเพื่อนกับนัทธีมาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนก็สนิทสนมกับนัทธีมาก ฉันก็คิดมาตลอดว่าพวกเธอคงจะได้ลงเอยด้วยกัน น่าเสียดาย......เฮ้อ ไม่พูดถึงมันดีกว่า นวิยา หนูต้องช่วยป้านะ ”
“คุณป้าพูดมาเถอะค่ะ” นวิยาเปลี่ยนสรรพนามเรียกขานทันที
ทันใดนั้นคุณหญิงอัณณ์ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา จากนั้นก็หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วเช็ดไปที่หางตา“เรื่องมันเป็นแบบนี้ ตอนนี้นัทธีกำลังตามหาตัวนิรุตติ์อยู่ นิรุตติ์เองก็กลับเข้าบ้านไม่ได้ ดังนั้นป้าจึงได้มาหาวารุณี อยากให้นัทธีวางมือจากเรื่องนี้ แต่เธอไม่ยอม ดังนั้นนวิยา หนูต้องช่วยป้าพูดเกลี้ยกล่อมนัทธีนะ ”
“อ้อ?”ดวงตาของนวิยาไหววูบ แต่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มปรากฏ“หนูทราบแล้วค่ะคุณป้า วางใจเถอะนะคะ หนูจะช่วยพูดเกลี้ยกล่อมนัทธีให้ค่ะ”
วารุณีได้ยินเธอตกปากรับคำ คิ้วก็ขมวดเข้าหากัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...