“ต้องไปแล้วค่ะคุณผู้หญิง เย็นมากแล้ว ป้าไปเตรียมมื้อค่ำดีกว่า อีกสักพักคุณผู้ชายก็น่าจะกลับมาแล้ว” ป้าส้มมองดูโทรศัพท์มือถือ ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าครัวไป
วารุณีก็นึกขึ้นมาได้ว่าใกล้เวลาต้องไปรับเด็กๆแล้วเหมือนกัน วางส้อมในมือลง ขึ้นไปยังชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปรับเด็กๆ
ในตอนที่รับเด็กๆขึ้นรถมาแล้ว ก็เห็นว่ายังเช้าอยู่
วารุณีก็กดโทรออกไปหานัทธี
รอสายไม่นานปลายสายก็มีคนรับ เสียงเข้มๆของนัทธีก็ดังขึ้นมา“ฮัลโหล?”
“ที่รัก คุณเลิกงานหรือยัง ?”วารุณีขับรถไปด้วยพลางเอ่ยถามไปด้วย
เด็กทั้งสองคนเกาะแน่นไปที่เบาะคนขับ แล้วเงี่ยหูฟัง
นัทธีมองไปยังเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้า คลึงไปที่หว่างคิ้ว ตอบกลับอย่างเหนื่อยล้าว่า “คงอีกสักพัก”
“งั้นฉันกับลูกๆแวะไปรับคุณนะ ?” วารุณีมองไปยังแววตาที่ลุกวาวของเด็กๆแล้วพูดออกไป
นัทธีเลิกคิ้วขึ้น “มารับผม?”
“ใช่ค่ะ ที่ผ่านมา คุณเป็นฝ่ายไปรับส่งเราแม่ลูกอยู่ตลอด เรายังไม่เคยไปรับคุณเลย วันนี้ให้เราไปรับคุณแล้วกันนะคะว่ายังไง ? ”วารุณียกยิ้มแล้วพูดออกมา
นัทธีก็รู้สึกว่ามันแปลกใหม่ เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย“ได้ มาสิ ”
“ค่ะ แล้วเจอกัน”วารุณีกดวางสายไป
ไอริณปรบมือด้วยความดีใจ“หม่ามี๊ เราจะไปรับคุณพ่อกันใช่ไหมคะ ?”
“ใช่จ้า”วารุณีพยักหน้าให้
“ดีเลยค่ะ หม่ามี๊ขับซิ่งๆเลย!” ไอริณก็พูดเร่ง
วารุณีหัวเราะออกมา แล้วเร่งความเร็วขึ้นมาเล็กน้อย
และในบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป นัทธีวางโทรศัพท์ลง เรียกมารุตเข้ามาหา “นายช่วยไปเตรียมของเล่นและขนมที่เด็กๆชอบมาให้หน่อย”
“ของเล่นและขนม?”มารุตถึงกับอึ้งไป จากนั้นก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ถามกลับไปว่า“อารัณกับไอริณจะมาเหรอครับ?”
“ใช่”นัทธีพยักหน้าให้
“รับทราบครับ ผมจะไปเตรียมให้เดี๋ยวนี้ ”มารุตพูดจบ ก็หันหลังเดินออกไป
นัทธีก้มหน้าลง แล้วจัดการกับเอกสารบนโต๊ะต่อ
ผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมงได้ วารุณีก็มาถึงที่บริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป
หลังจากที่เธอขับรถไปจอดที่ลานจอดรถเรียบร้อย ก็จูงมือของเด็กไว้คนละข้าง เดินเข้าไปที่ลิฟต์
ลิฟต์ที่ลานจอดรถเป็นลิฟต์ที่ตรงไปยังชั้นบนสุดของตัวตึก และมีไว้ให้นัทธีใช้เองโดยเฉพาะ เธอจึงไม่ต้องมาเป็นกังวลว่าจะมีใครมาเห็นเธอกับเด็กๆ
ขึ้นมาถึงยังชั้นบนอย่างราบรื่น ทันทีที่วารุณีแม่ลูกสามคนเดินออกมาจากลิฟต์ ก็เห็นมารุตที่ยืนรออยู่ตรงนอกลิฟต์แล้ว
“อามารุต”เด็กทั้งสองคนโบกมือน้อยๆให้ แล้วเอ่ยทักทายกับมารุต
มารุตยิ้มให้แล้วตอบกลับ“ สวัสดีครับ นี่คืออมยิ้ม เอาไปกินกันเลย ”
“ขอบคุณอามารุตครับ/ค่ะ”เด็กทั้งสองรับอมยิ้มที่มีสีสันสดใสมาอย่างดีอกดีใจ
ไอริณแกะไม่ออก จึงยื่นอมยิ้มไปให้กับอารัณ “พี่อารัณ แกะให้หน่อย”
“เรื่องเยอะจริงๆ ”แม้คำพูดของอารัณจะดูเหมือนรำคาญ แต่มือก็ซื่อสัตย์รับอมยิ้มนั้นมา แกะมันให้เธอ
และไอริณเองก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขา จ้องมองตาละห้อย ราวกับหากไม่เฝ้ามองดู จะถูกพี่ชายกินมันเข้าไปยังไงอย่างงั้น
เมื่อเห็นท่าทีที่น่ารักของเด็กๆ ใบหน้าของวารุณีก็ฉีกยิ้มออกมา หัวใจก็แทบละลาย
“ผู้ช่วยมารุต ขอบคุณสำหรับอมยิ้มค่ะ” วารุณีมองไปยังมารุตแล้วพูดขอบคุณ
มารุตโบกมือให้“คุณผู้หญิงไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ อมยิ้มนี้ท่านประธานให้ผมไปซื้อมาให้เด็กๆครับ ผมก็แค่เอาของที่คนอื่นให้มาให้ต่ออีกทีแค่นั้นครับ คุณผู้หญิง ไปที่ห้องท่านประธานกันก่อนเถอะครับ”
“ค่ะ”วารุณีพยักหน้าให้ จากนั้นก็จูงมือของเด็กๆ เดินตามหลังเขาไป ไปยังห้องทำงานของท่านประธาน
นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กน้อยทั้งสองคนมาที่นี่ มองสำรวจไปยังบริเวณโดยรอบด้วยความสงสัย
“หม่ามี๊ ที่นี่สวยจังเลย”ไอริณพูดพร้อมกับกะพริบตาปริบๆ
แม้อารัณจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็พยักหน้าให้อย่างเห็นด้วย
วารุณียกยิ้มแล้วมือลูบไปที่ศีรษะของเด็กๆ“ ห้องทำงานของคุณพ่อ สวยกว่านี้อีกนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...