พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 389

วารุณีมองออก จึงยื่นกระดาษทิชชูใส่มือของเด็กน้อย “เด็กดี รับไปเร็วเข้า”

“ขอบคุณครับคุณป้า” เด็กน้อยเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง

ตอนนี้เอง เด็กน้อยสองคนกำลังวิ่งกรูกันเข้ามา “คุณแม่”

วารุณีอ้าแขนรับพวกเขา “ทำไมถึงได้วิ่งกันเร็วขนาดนี้ล่ะ ?”

“ก็หนูคิดถึงแม่นี่คะ” ไอริณกอดขาของวารุณีเอาไว้ และทำท่าทีออดอ้อน

วารุณีลูกศีรษะของเด็กน้อยด้วยรอยยิ้ม “ปากหวานจริง ๆ แม่ตัวน้อย”

ไอริณหัวเราะแหะ ๆ

อารัณหันมองเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “แม่ครับ ทำไมเขามาอยู่ตรงนี้ ?”

“ลูกรู้จักหรือ ?” วารุณีถาม

อารัณพยักหน้า กำลังจะเอ่ยปากตอบ แต่ดูเหมือนเด็กผู้ชายจะรู้สึกอับอาย จึงรีบก้มศีรษะลง “คุณป้าครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ”

“รอเดี๋ยวก่อน” วารุณีดึงแขนของเขาเอาไว้ “พ่อแม่ของหนูไม่มารับหนูหรือจ๊ะ ?”

เมื่อครู่เธอเองก็คิดอยากจะถาม เพราะเห็นเด็กคนนี้ถูกทำร้ายโดยที่ไม่มีใครเข้ามาช่วย และไม่เห็นแม่แต่เงาของพ่อแม่เลย จึงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก

เด็กชายตัวน้อยดวงตาแดงก่ำ จากนั้นน้ำตาของเขาก็ค่อย ๆ ไหลรินลงมา “พ่อตายไปแล้วครับ ส่วนแม่สุขภาพไม่แข็งแรง มารับผมไม่ได้ ผมจึงต้องกลับบ้านเอง”

เมื่อได้ยินดังนั้น วารุณีก็รู้สึกไม่สบายใจทันที

ตั้งแต่ที่เธอเป็นแม่ เธอก็พบว่าตนเองไม่อาจทนดูเด็กที่น่าสงสารได้

“แล้วบ้านของหนูอยู่ไหนจ๊ะ ป้าจะพาหนูไปส่งเอง” วารุณีพูดอย่างอ่อนโยน

เด็กน้อยที่ได้รับความเอ็นดูกลับดวงตาเบิกโพลง จากนั้นจึงรีบส่ายหัวในทันที “ไม่ต้องหรอกครับคุณป้า ผม......”

“หนูไม่กลัวว่าอีกเดี๋ยวเด็กนิสัยไม่ดีพวกนั้นจะย้อนกลับมาหาหนูอีกหรืออย่างไร” วารุณีพูดคัดบทเขา

เด็กน้อยนิ่งไปสักครู่

วารุณีจูงมือของเขา “ไปกันเถอะ ขึ้นรถเร็ว”

พูดจบ เธอก็เรียกให้อารัณจูงมือไอริณ แล้วเดินตรงไปที่รถ

วารุณีขับรถ ไอริณนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ ส่วนอารัณและเด็กผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่ด้านหลัง

เด็กผู้ชายบอกที่อยู่ให้กับวารุณี

จากนั้นวารุณีจึงเอ่ยถามขึ้นทันที : “จริงสิ ป้ายังไม่ได้ถามชื่อของหนูเลย หนูชื่ออะไรหรือจ๊ะ ?”

“เขาชื่อเจเจครับ” อารัณตอบแทนเด็กชายคนนั้น

“ เจเจ?” วารุณีหัวเราะ “เป็นชื่อที่น่ารักมากเลยนะจ๊ะ”

เจเจรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาแดงก่ำขึ้นมา

ไม่ช้า ก็มาถึงบ้านของเจเจ

วารุณีหยุดรถ

หลังจากลงจากรถไปแล้ว ก็หันมองโบกมือให้กับวารุณี “ขอบคุณนะครับคุณป้า”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอกนะ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ หนูต้องบอกคุณแม่นะจ๊ะ ให้แม่โทรศัพท์หาคุณครูเข้าใจไหม ? ไม่อย่างนั้นเด็กพวกนั้นก็จะมารังแกหนูอีก” วารุณีกำชับ

ดวงตาของเด็กชายหมองหม่นลงเล็กน้อย แต่ไม่ช้าเขาก็พยักหน้า “ผมเข้าใจแล้วครับ”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเรากลับก่อนนะ ลาก่อน” วารุณีขึ้นรถ แล้วขับรถออกไป

เจเจยืนโบกมือให้รถอยู่ที่เดิม จนกระทั่งรถหายลับตาไป เขาจึงค่อย ๆ กระโดดเข้าไปในอาคารที่ค่อนข้างเก่าแก่ ด้วยอารมณ์ที่ดูเหมือนจะแจ่มใส

ภายในรถ จู่ ๆ อารัณก็พูดขึ้นมา : “ไม่มีประโยชน์หรอกครับแม่”

“ไม่มีประโยชน์อะไรกันจ๊ะ ?” วารุณีหันมองเขาผ่านทางกระจกมองหลังด้วยความสงสัย

อารัณนั่งกระดิกเท้า “ก็เจเจคนนั้น ถูกรังแกมาตั้งนานแล้วล่ะครับ และไม่ใช่ว่าไม่เคยบอกคุณครู แต่เป็นเพราะคุณครูไม่สามารถจัดการกับเด็กพวกนั้นได้ เด็กพวกนั้นอาจจะหยุดไปแค่ชั่วครั้งชั่วคราว จากนั้นก็เริ่มรังแกเขาอีกครั้ง”

“เป็นอย่างนี้นี่เอง ?” วารุณีขมวดคิ้ว

หากเป็นเช่นนี้ ดูเหมือนว่าคงต้องย้ายโรงเรียนแล้ว

มิเช่นนั้นเจเจคงต้องถูกรังแกเช่นนี้เรื่อย ๆ

“ใช่ครับ พวกเด็ก ๆ ที่รังแกเจเจ ก็คือเพื่อนบ้านของเจเจเอง พวกเขาเห็นพี่สาวของเจเจถูกตำรวจจับด้วยตาของตัวเอง ดังนั้นจึงป่าวประกาศไปทั่วว่าพี่สาวของเจเจเป็นฆาตกร ถึงขั้นว่าเด็ก ๆ และผู้ปกครองในโรงเรียนอนุบาลต่างก็รู้เรื่องกันหมดครับ” อารัณพยักหน้าแล้วอธิบายออกมา

วารุณีพูดขึ้นทันทีว่า “มิน่าล่ะ พอผู้ปกครองเหล่านั้นเห็นเจเจถูกรังแก กลับไม่มีใครคิดที่จะเข้าไปช่วยสักคน”

“ดังนั้นเจเจคนนั้นจึงอยู่ในโรงเรียนอนุบาลอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครยอมเป็นเพื่อนกับเขาครับ” อารัณผายมือออก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ