พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 392

สรุปบท บทที่ 392 เกี่ยวข้องกับกับวรยา: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

สรุปเนื้อหา บทที่ 392 เกี่ยวข้องกับกับวรยา – พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ โดย candy cat

บท บทที่ 392 เกี่ยวข้องกับกับวรยา ของ พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ ในหมวดนิยายนิยาย จีน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย candy cat อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

มารุตถอนหายใจ “เรื่องแบบนี้ผมพูดไม่ได้หรอก ดังนั้นอย่าถามและรีบกลับไปเถอะ”

เขาผลักปาจรีย์ให้เข้าไปในลิฟต์

ปาจรีย์ไม่ยอมแพ้และยังอยากจะถามอะไรต่อ แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็ถูกลิฟต์ปิดเข้าให้

หมดหนทาง ปาจรีย์ได้แต่กระทืบเท้าอย่างโกรธเคือง “ไอ้เลวเอ๊ย มาทำให้อยากรู้แล้วก็ไม่บอก เป็นคนยังไงกันเนี่ย”

แม้ว่าในใจของเธอจะไม่มีความสุขเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเข้ามาในลิฟต์แล้วหากย้อนกลับไปถามก็คงจะไม่เหมาะจึงทำได้เพียงยอมแพ้และกลับไปถามวารุณีว่ารู้หรือไม่ว่าคุณป้าสะใภ้ที่เสียไปแล้วได้ไปทำอะไรให้นัทธีขุ่นเคืองใจกัน

อย่างไรก็ตามการมาในครั้งนี้ก็ไม่เสียเปล่า

ปาจรีย์ก้มหน้ามองลงไปที่เส้นผมที่อยู่ในมือพร้อมกับยิ้มออกมา

การมาของเธอในครั้งนี้ถือว่าเป็นการช่วยวารุณีสั่งสอนนัทธีแล้ว

แต่ต่อมาก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าวารุณีจะทำการทดสอบความเป็นพ่อลูกและหล่อนยังไม่มีเส้นผม นั่นจึงทำให้เธอจึงมีความกล้าที่จะไปดึงผมของนัทธีมาสองสามเส้น

ตอนนี้เกรงว่านัทธีอาจเกลียดเธอไปแล้วก็ได้ เธอจะไม่ไปปรากฏตัวต่อหน้าเขาเป็นการชั่วคราวก็แล้วกัน

เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเขาหักดังแคร๊กเข้าให้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ร่างกายของเธอก็สั่นเทาไปด้วยความกลัวจากนั้นก็ได้หยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับห่อผมลงไปอย่างระมัดระวัง

ตึ๊ง ลิฟต์มาถึงแล้ว

ปาจรีย์เดินออกมาไปจากประตูบริษัท ขณะที่เดินก็ได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพร้อมกับโทรไปหาวารุณี “วารุณี มีข่าวดีแหละ”

“ข่าวดีอะไรกัน?” วารุณีที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะและแก้ไขภาพวาดที่นักออกแบบส่งมาให้ก็ยิ้มออกมาเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด

“ฉันช่วยหล่อนเอาเส้นผมของนัทธีมาได้แล้ว” ปาจรีย์พูด

วารุณีตกใจจนดินสอทั้งหมดที่อยู่ในมือตกลงไปบนโต๊ะ “เธอไปเอามาได้ยังไงกัน?”

“คือว่า...ช่างมันเถอะ ฉันจะบอกความจริงกับหล่อนเอง จริงๆแล้วฉันไม่ได้ไปที่แผนกโรงงานแต่มาที่บริษัทไชยรัตน์กรุ๊ปต่างหาก ประธานนัทธีทำกับหล่อนขนาดนั้นฉันทนไม่ไหวก็เลยช่วยพูดไปให้แล้วอีกทั้งยังดึงเส้นผมมาได้อีกสองสามเส้นด้วย” ขณะที่ปาจรีย์พูดก็ได้ลูบไปที่จมูกของตัวเอง

วารุณีขดริมฝีปากสองที ซึ้งใจก็ซึ้งใจแต่ก็รู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “เธอนี่นะ ไม่กลัวว่าเขาจะแก้แค้นเธอหรือไงกัน?”

“ไม่เป็นไร เขาคงไม่ฆ่าฉันหรอก” ปาจรีย์ยักไหล่และไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้น

วารุณีส่ายหัว “แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน?”

“ตอนนี้ฉันออกมาจากบริษัทไชยรัตน์กรุ๊ปแล้ว กำลังจะกลับไปบริษัทและเอาผมไปให้หล่อนเนี่ยแหละ อีกอย่างฉันมีเรื่องอื่นจะคุยกับหล่อนด้วย”

“โอเค เดินทางระวังด้วยล่ะ” วารุณีพยักหน้า

เมื่อจบการสนทนา ปาจรีย์ก็ได้ขึ้นรถและขับออกไป

จนกระทั่งรถของเธอค่อยๆขับออกไปไกลจนลิบตา ร่างร่างหนึ่งก็ได้ออกมาจากด้านหลังของแปลงดอกไม้หน้าประตูบริษัทไชยรัตน์กรุ๊ป จ้องมองไปทางที่รถขับไปด้วยแววตาที่มืดมน

หากหล่อนฟังไม่ผิดล่ะก็ ปาจรีย์บอกว่าได้เส้นผมของนัทธีมาแล้วและจะเอาไปให้วารุณี

เป็นไปได้ไหมว่าวารุณีต้องการเอาเส้นผมไปทดสอบความเป็นพ่อลูกกับเด็กสองคนนั่น?

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ นวิยาก็ได้ดึงดอกไม้ตรงแปลงออกมาอย่างกะทันหัน ดอกไม้นั้นถูกดึงจนไม่เหลือเศษซากชิ้นดี

“ไม่ได้ ฉันจะต้องทำลายเส้นผมของนัทธี ยังไงก็จะให้วารุณีเอาไปทดสอบไม่ได้” นวิยากระซิบกระซาบด้วยเสียงทุ้มต่ำ น้ำเสียงเย็นชาจนทำให้คนกลัว

เดิมทีหล่อนเดินจากไปแล้วแต่ระหว่างทางดันนึกขึ้นได้ว่าลืมของเลยเดินกลับมาเอา

ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกับปาจรีย์ที่กำลังเดินออกมา หล่อนไม่สามารถต่อปากต่อคำกับปาจรีย์ได้และไม่ต้องการเผชิญหน้าใดๆ นั่นจึงทำให้หล่อนต้องไปหลบซ่อนตัวและได้ยินสิ่งที่ปาจรีย์พูดออกมาอย่างไม่คาดคิด

แต่เขาก็ไม่ได้พูดมันออกมาและนั่นได้ทำให้หล่อนรู้สึกหงุดหงิดอยู่ภายในใจ

“ฉันเข้าใจ” ปาจรีย์ยิ้มจากนั้นสีหน้าท่าทางก็ดูจริงจังขึ้นมา “จริงๆแล้วฉันก็ยังไม่รู้เหตุผลที่แน่ชัดหรอกเพราะว่าประธานนัทธีไม่ได้บอกฉัน เป็นผู้ช่วยมารุต่างหากที่เล่าให้ฉันฟัง ตอนแรกพวกเรานั้นต่างคิดว่าหล่อนได้ไปทำอะไรให้ประธานนัทธีขุ่นเคืองใจหรือเปล่า แต่จริงๆแล้วไม่ใช่หล่อน เป็นคุณป้าสะใภ้ต่างหาก”

“แม่ฉัน?”

“อืม ผู้ช่วยมารุตบอกว่าเป็นคุณป้าสะใภ้และตัวหล่อนก็เป็นลูกสาวของเธอ ในเมื่อป้าสะใภ้ไม่อยู่แล้ว ประธานนัทธีก็เลยเอาความคับข้องใจนี้มาระบายลงกับหล่อนไงล่ะ?” ปาจรีย์พูด

ริมฝีปากของวารุณีขยับ ใบหน้าดูงงงวย “แต่ว่าแม่ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรให้นัทธีขุ่นเคืองใจนะ แม่ฉันเจอนัทธีครั้งแรกก็เมื่อสี่เดือนก่อน จากนั้นไม่ถึงสองวันก็ไปต่างประเทศแล้ว กลับมาที่ประเทศอีกทีก็...ดังนั้นฉันจึงกล้ายืนยันว่าแม่ฉันไม่ได้ทำอะไรแน่นอน”

ถ้าทำจริง ทำไมตอนนั้นนัทธีถึงไม่โกรธล่ะ มาโทษหล่อนในตอนนี้ทำไม?

ปาจรีย์จับผม “ฉันเองก็รู้สึกว่ามันแปลก แต่เป็นไปได้ไหมว่าป้าสะใภ้ไม่ได้ไปทำอะไรในช่วงนั้นแต่เป็นไปทำอะไรไว้ก่อนหน้านั้นแทน แล้วคนที่ไปทำให้ขุ่นเคืองใจไม่ใช่ประธานนัทธีแต่เป็นคนในครอบครัวของเขาและเขาก็เพิ่งมารู้ในตอนนี้?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ วารุณีก็เงียบลงจากนั้นสักพักก็ส่ายหัวไปมา “เป็นไปไม่ได้หรอก แม่ฉันใจดีมากเลยนะ นอกจากคุณน้าขยานีกับลูกสาวและพ่อของฉันแล้วก็ไม่ได้อาฆาตมาดร้ายกับใครอีก สำหรับคนในครอบครัวของนัทธี นัทธีเองก็ไม่ลงรอยกับครอบครัวลูกชายคนโต พ่อแม่ของเขาก็จากไปก่อนเวลาอันควร จะมีก็แต่คุณท่านที่เสียไปเมื่อเจ็ดปีก่อนเท่านั้น...”

“เดี๋ยวนะวารุณี ฉันจำได้ที่หล่อนเคยพูดว่าป้าสะใภ้เป็นลูกบุญธรรมของคุณปู่ของประธานนัทธีใช่ไหม คุณปู่บรรพตเป็นคนเลี้ยงประธานนัทธีมา ดังนั้นในใจของประธานนัทธีก็เป็นคุณปู่ที่สนิทชิดเชื้อมากที่สุด แบบนั้น...”

“เธอกำลังจะบอกว่าแม่ของฉันไปทำอะไรคุณปู่บรรพตไว้แล้วนัทธีเพิ่งมารู้เอาตอนนี้น่ะเหรอ ดังนั้นเขาก็เลยมาทำกับฉันอย่างนี้?” รูม่านตาของวารุณีขยายใหญ่

ปาจรีย์พยักหน้า “นอกจากนี้ ฉันก็คิดถึงเหตุผลอื่นไม่ออกแล้วล่ะ”

วารุณีใช้ฝ่ามือกุมขมับพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่หดหู่ “แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างแม่กับคุณปู่บรรพตไหม ฉันรู้แค่ว่าแม่ของฉันเป็นลูกบุญธรรมของคุณปู่บรรพต แม่เพิ่งบอกเรื่องนี้กับฉันเมื่อสี่เดือนก่อนเองด้วยซ้ำ”

ปาจรีย์วางมือไว้บนไหล่ของหล่อน “หรือว่าจะลองถามศรัณย์ดูล่ะ แต่ก่อนร่างกายของศรัณย์ไม่ค่อยแข็งแรงและอยู่แต่บ้านตลอด จะมีก็แต่คุณป้าสะใภ้ที่คอยมาดูแลเขา เขาอาจจะรู้เรื่องหลายอย่างของคุณป้าสะใภ้ก็ได้นะ”

ดวงตาของวารุณีเป็นประกาย “เธอพูดถูก ฉันโทรหาศรัณย์หน่อยละกัน”

ขณะที่พูด หล่อนก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ