ตอน บทที่ 391 ปาจรีย์ผู้ใจกล้า จาก พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 391 ปาจรีย์ผู้ใจกล้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ ที่เขียนโดย candy cat เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
นวิยายิ้ม “ฉันมาทำงานที่นี่น่ะ พอดีฉันหายป่วยเป็นปลิดทิ้งแล้ว อยู่บ้านก็น่าเบื่อเลยออกมาหานัทธีเขาน่ะ ทำงานฆ่าเวลาซะหน่อย”
“ทำงาน?” ปาจรีย์มองสำรวจไปที่หล่อน “อย่าถือโทษที่ฉันพูดมากเลยนะคะ คุณหนูนวิยาทำงานอะไรเหรอ?”
“เป็นเลขาของนัทธีน่ะค่ะ” นวิยาตอบด้วยรอยยิ้ม
ปาจรีย์กลอกตามองบน “เลขานี่เอง เป็นเลขาประเภทที่มีงานสั่งให้ทำก็ทำ ไม่มีงานให้ทำก็ทำอย่างอื่นกันแบบนั้นหรือเปล่าคะ?”
คำพูดนี้ถือว่าประสบความสำเร็จที่ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของนวิยานั้นหายไป การแสดงออกทางสีหน้าดูจริงจังขึ้นมา “คุณปาจรีย์คะ โปรดระมัดระวังคำพูดคุณด้วย”
“อะไรกัน ฉันแค่ถามเองก็มาบอกให้ฉันระมัดระวังคำพูดตัวเองซะงั้น ปฏิกิริยาของหล่อนเยอะขนาดนี้คงไม่ใช่ว่าฉันพูดถูกแล้วหรอกเหรอ การที่หล่อนมาที่นี่มันก็คือการทำตัวแบบใครมือยาวสาวได้สาวเอา ท้ายที่สุดแล้วความรู้สึกที่หล่อนมีต่อประธานนัทธี มีใครบ้างที่ไม่รู้กันล่ะ” ปาจรีย์ขดริมฝีปาก
ดูเหมือนว่านวิยาจะโกรธเป็นอย่างมาก หล่อนบีบฝ่ามือแน่น “คุณปาจรีย์คะ ฉันมีแฟนอยู่แล้วซึ่งก็คือพิชิต ดังนั้นในตอนนี้การที่คุณมาพูดจาแบบนี้มันก็คือสิ่งที่สมมุติขึ้นมาเอง ฉันสามารถฟ้องร้องข้อหาที่คุณใส่ความฉันได้เลยนะ”
“งั้นหล่อนก็ฟ้องเลย ใครกลัวกันล่ะ ดีด้วยจะได้พูดทุกอย่างออกมาให้หมด จะพูดว่าหล่อนมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ยังสถิตอยู่ในบ้านของประธานนัทธีอยู่ได้ไม่ยอมไปซะที ตอนนี้ก็ยังไล่ตามมาถึงที่บริษัทอีก ดูซิว่าใคร...”
“พอแล้ว” นวิยาตะโกนออกมาเสียงดังด้วยร่างกายที่สั่นเทา “คุณปาจรีย์ นี่มันจะเกินไปแล้วนะ ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบฉันแต่คุณจะมาทำกับฉันขนาดนี้ไม่ได้?”
“เหอะ รู้เหมือนกันเหรอว่าฉันไม่ชอบหล่อนน่ะ แล้วทำไมฉันจะทำกับหล่อนขนาดนี้ไม่ได้กันล่ะ” ปาจรีย์พูดพร้อมกับกลอกตามองบนอีกครั้ง
นวิยากัดริมฝีปากล่างแน่น ดวงตาแดงก่ำ
มารุตที่อยู่ด้านข้างยังคงดูการแสดงละครนี้อยู่ เมื่อเห็นนวิยาที่กำลังจะร้องไห้ออกมาก็รู้สึกว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เขาทำเสียงอ่ะแฮ่มออกมาเบาๆพร้อมกับลุกขึ้นยืนและเข้าไปห้ามอย่างรวดเร็ว “เอาล่ะครับทั้งสองคน หยุดทะเลาะกันได้แล้ว คุณปาจรีย์มาที่นี่ทำไมเหรอครับ?”
เขาเปลี่ยนเรื่อง
ปาจรีย์จึงนึกถึงจุดประสงค์ของการที่เธอมาที่นี่และได้หยุดทะเลาะกับนวิยา เธอตอบไปด้วยสีหน้าที่ดูเป็นมิตรขึ้นมาเล็กน้อย “ฉันมาหาประธานนัทธี”
“มาหาประธานนัทธี?” มารุตขมวดคิ้ว
นวิยาหรี่ตาลง “คุณปาจรีย์มาหานัทธีมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ฉันมาหาประธานนัทธีมีเรื่องอะไรแล้วเกี่ยวอะไรกับหล่อน รู้อยู่แล้วว่าฉันไม่ชอบก็ยังมาถามอยู่ได้ ชอบแกว่งเท้าหาเสี้ยนหรือไงกัน?” ปาจรีย์กล่าวอย่างเยือกเย็น
สีหน้าท่าทางของนวิยาดูน่าเกลียด
มารุตรีบหัวเราะออกมาเป็นพิธี “คุณหนูนวิยาครับ เชิญกลับก่อนได้เลยนะครับ คนขับรถรออยู่ด้านนอก พรุ่งนี้ค่อยมาทำงานนะครับ”
นวิยารู้ว่าเขากำลังช่วยตนให้พ้นจากปัญหานี้ หล่อนยิ้มและขอบคุณจากนั้นยกฝีเท้าก้าวออกไป
อย่างไรก็ตามขณะที่หล่อนได้เดินผ่านปาจรีย์ หล่อนหยุดฝีเท้าลงพร้อมกับหันมามองปาจรีย์ด้วยสายตาที่เย็นชา ในดวงตาแฝงความเย็นยะเยือกอย่างถึงที่สุด
ความอับอายในวันนี้ หล่อนจะจำมันเอาไว้
มันจะมีสักวันที่หล่อนจะกลับมาเอาคืนให้เป็นเท่าตัวเลย
เมื่อนวิยาออกไป มารุตก็ได้หันมามองปาจรีย์ “งั้นผมขอโทรหาประธานนัทธีก่อน คุณปาจรีย์ของสักครู่นะครับ”
“ค่ะ” ปาจรีย์พยักหน้า
มารุตหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับโทรหานัทธีและโอนสายไปยังห้องทำงานของเขา
ไม่นานนัก นัทธีก็รับสายพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและเย็นชาออกมา “มีเรื่องอะไร?”
“ท่านประธาน คุณปาจรีย์ต้องการพบท่านครับ” มารุตตอบพร้อมกับมองไปที่ปาจรีย์
นัทธีขมวดคิ้วเล็กน้อย “ปาจรีย์?”
“ครับ”
“เธอมาหาฉันมีเรื่องอะไรกัน?”
“เธอไม่ได้พูดครับ ท่านประธานต้องการพบเธอไหมครับ?”
นัทธีเม้มริมฝีปากอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ได้ตัดสินใจ “ให้เธอมา”
“ได้ครับ” มารุตวางโทรศัพท์ลง “ท่านประธานได้ตอบรับแล้ว ตามผมมาเลยครับ”
เมื่อพูดจบ เขาก็เข้าไปในลิฟต์ ส่วนปาจรีย์เองก็ตามเข้าไปติดๆ
“พอแล้ว ถ้าจะมาที่นี่เพื่อพร่ำสอนฉันล่ะก็ออกไปเลย!” นัทธีชี้ไปที่ประตูด้วยสีหน้าที่เย็นชา
ปาจรีย์เบิกตากว้างและต้องการจะพูดอะไรต่อ
นัทธีจึงได้ทำการขับไล่อย่างไม่แยแสอีกครั้ง “ออกไป!”
ปาจรีย์กัดริมฝีปาก “ไปก็ไป ผู้ชายอย่างนายนี่มันไม่สนอะไรเอาซะเลยแต่ก่อนที่ฉันจะไป ฉันจะขอคิดดอกเบี้ยกับนายซะหน่อย สองสามวันนี้ใครให้นายทำวารุณีแบบนี้กันล่ะ!”
ขณะที่พูด เธอก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับทำการตัดสินใจยื่นมือออกไปทางนัทธี ยังไม่ทันที่เขาจะตอบสนองอะไร เธอก็ได้รีบดึงผมของเขาไปสองสามเส้นด้วยความรวดเร็ว
นัทธีพ่นเสียงหึออกมาอย่างเจ็บปวด หัวคิ้วของเขาขมวดแน่น
มารุตนั้นตกใจจนวิญญาณเกือบจะหลุดลอยไป เมื่อเห็นใบหน้าที่ดูน่ากลัวกว่าสิ่งอื่นใดของนัทธีจึงกลัวว่าปาจรีย์นั้นจะถูกนัทธีฆ่าเข้าให้ ก่อนที่นัทธีจะเปิดปากพูดอย่างโกรธเคือง เขาก็ได้ดึงแขนของปาจรีย์พร้อมกับดึงเธอออกมา
“เมื่อกี้เธอทำอะไรน่ะ ทำไมถึงกล้าไปดึงผมท่านประธานกัน อยากตายนักหรือไง?” ด้านนอกของห้องทำงาน มารุตปล่อยแขนของปาจรีย์ลงและตะโกนตำหนิเธออย่างดัง
พูดตามตรงว่าปาจรีย์เองก็กลัวที่ทำเช่นนั้นลงไป
แต่เมื่อมองลงไปดูผมที่อยู่ในมือ เธอก็รู้สึกได้ว่ามันคุ้มค่าแล้วล่ะ
“เหอะ ใครให้เขาทำกับวารุณีแบบนี้กันล่ะ” ปาจรีย์ทำเสียงเหอะออกมา
มารุตถอนหายใจ “ท่านประธานเองก็ไม่ต้องการทำแบบนั้นหรอก เรื่องนี้มันซับซ้อนเกินไป”
“นายรู้เหรอว่าวารุณีไปทำอะไรให้ประธานนัทธีโกรธ?” ดวงตาของปาจรีย์เป็นประกายพร้อมกับจ้องมองมาที่เขา
มารุตพยักหน้า “ถ้าให้พูดตามตรง คุณหญิงไม่ได้ทำอะไรหรอกแต่เป็นแม่ของคุณหญิงต่างหาก นั่นจึงทำให้คุณหญิงต้องถูกลากมาพัวพันกับเรื่องนี้ด้วย”
แม้ว่าคุณหญิงจะไม่ได้เป็นคนขับรถชนสองสามีภรรยาแต่ในตอนนั้นคุณหญิงเองก็อยู่บนรถคันนั้นด้วย
ตอนนี้การที่ท่านประธานไม่ได้แก้แค้นคุณหญิงนั้นก็ถือว่าเมตตาแล้วนะ
“คุณป้าสะใภ้เป็นคนทำเหรอ?” ปาจรีย์ขมวดคิ้ว “แต่ตอนนี้คุณป้าสะใภ้ก็เสียไปแล้ว หล่อนจะทำอะไรได้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...