พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 395

นัทธีเม้มริมฝีปากพร้อมกับมองไปที่วารุณี แววตานั้นเป็นแววตาที่วารุณีเองก็ดูไม่เข้าใจนัก

หล่อนเห็นด้วยจริงๆกับการให้เด็กทั้งสองคนเปลี่ยนการเรียกชื่อกลับไป

หล่อนหมายความว่ายังไงกันแน่?

“นัทธี” หล่อนถอนหายใจพร้อมกับเดินไปนั่งตรงข้ามเขา “ฉันขอโทษด้วยจริงที่ปาจรีย์เข้าไปก่อกวนที่บริษัท เธอไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เธอเพียงแค่เป็นห่วงฉันก็เท่านั้นเอง”

“แล้วไงล่ะ?” ดวงตาของนัทธียังคงเย็นชา

วารุณีกัดริมฝีปาก “แล้วฉันก็จะมาขอโทษแทนเธอน่ะ”

“ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก” นัทธีตบเข้าไปที่เสื้อสูทของเขาจากนั้นลุกขึ้นยืน

ในเวลานี้ก็เป็นเวลาที่ป้าส้มนั้นถือถุงลงมาจากชั้นบนพอดี “คุณคะ ของที่คุณต้องการค่ะ”

นัทธีเอื้อมมือไปรับของมาจากนั้นยกเท้าเดินออกจากโซฟา

เมื่อวารุณีเห็นเหตุการณ์นี้จึงรีบลุกขึ้นมา “นายจะไปแล้วเหรอ?”

“ฉันได้ของมาแล้วนี่” นัทธีพูดโดยเม้มปากเอาไว้

ความหมายก็คือถ้าไม่ออกไปแล้วจะอยู่ทำอะไรกัน

วารุณีใช้เล็บหยิกเข้าไปในฝ่ามือ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้า “ตอนนี้นายไม่อยากจะอยู่กับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”

นัทธีลดเปลือกตาลง เขาไม่ได้พูดอะไรพร้อมกับก้าวเดินต่อไป

“รอก่อน” วารุณีหลับตาพร้อมกับเรียกเขาให้หยุด “ฉันรู้ถึงเหตุผลว่าทำไมนายถึงปฏิบัติตัวกับฉันแบบนี้แล้วนะ เป็นเพราะพ่อกับแม่ของนายล่ะสินะ”

สีหน้าของนัทธีเปลี่ยนไปเล็กน้อยพร้อมกับหันหลังกลับมาในทันที

เมื่อวารุณีเห็นปฏิกิริยาของนัทธี หล่อนก็รู้ได้เลยว่าสิ่งที่ตนกับปาจรีย์นั้นเดาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

“ที่แท้ก็จริงสินะ ผู้ช่วยมารุตได้เผยถึงเหตุผลที่นายปฏิบัติกับฉันแบบนี้ ซึ่งนั่นก็คือแม่ของฉันที่ทำให้มันเกิดขึ้น ดังนั้นฉันก็เลยสงสัยว่าแม่ฉันไปทำอะไรไม่ดีไว้กับคนของตระกูลไชยรัตน์รึเปล่า ฉันก็เลยไปถามศรัณย์มาและพบว่าทุกวันที่เก้าเดือนตุลาคม แม่จะมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไป”

เมื่อได้ยินคำว่าวันที่เก้าเดือนตุลาคม นัทธีก็ได้จับถุงในมือแน่นขึ้น

เมื่อวารุณีเห็นเช่นนั้น ดวงตาก็มีแสงวาบเข้ามาพร้อมกับพูดอีกว่า “วันที่เก้าเดือนตุลาคมเป็นวันที่พ่อแม่ของนายเสียชีวิตและแม่ของฉันก็เริ่มทำตัวแปลกไปในวันนั้นเมื่อสิบแปดปีที่แล้ว ดังนั้นจึงมีความเกี่ยวข้องกันระหว่างสองคนนี้ จุดเชื่อมโยงที่ใหญ่ที่สุดก็คือการเสียชีวิตของพ่อแม่นายนั้นเกี่ยวข้องกับแม่ฉันบวกกับความจริงที่ว่านายปฏิบัติกับฉันแบบนี้อีก...”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ วารุณีก็ได้มองไปที่ชายที่อยู่ตรงข้ามด้วยดวงตาที่สั่นเทา “ฉันสงสัยว่าแม่ฉันจะไปฆ่าพ่อแม่ของนาย”

หากมันแค่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน เขาคงไม่ปฏิบัติกับหล่อนเกินไปขนาดนี้

ดังนั้น หล่อนจึงคิดว่าความเป็นไปได้ที่มากที่สุดก็คือสิ่งนี้

เพียงแต่แค่ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเขานั้นเป็นอะไรตาย ในอินเตอร์เน็ตก็ไม่ได้พูดแน่ชัดบอกแค่ว่าเมื่อวันที่เก้าตุลาคม คุณหญิงและคุณชายของบริษัทไชยรัตน์กรุ๊ปนั้นถึงแก่กรรม

ใบหน้าของนัทธีนั้นดูเย็นชาและน่ากลัวเป็นอย่างมาก “ไหนๆหล่อนก็เดาออกแล้ว งั้นฉันจะบอกให้ว่าแม่ของหล่อนนั่นแหละที่เป็นคนขับรถชนพ่อแม่ของฉัน”

“เป็นไปไม่ได้!” วารุณีโต้กลับไปโดยไม่ทันได้รู้ตัวพร้อมกับส่ายหัวอย่างแรง “แม่ฉันไม่มีทางขับรถชนพ่อแม่นายแน่ๆ เธอไม่ใช่คนแบบนั้น”

“เป็นไปไม่ได้?” นัทธีก้าวขึ้นไปข้างหน้าสองก้าวพร้อมกับใช้มือบีบไปที่คางของหล่อนแน่น

หล่อนกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ใบหน้าเล็กนั้นถูกบีบเสียจนเกิดรอยย่น

นัทธีเมื่อเห็นเช่นนั้น แววตาของเขาก็แฝงถึงการทนไม่ได้อีกต่อไปจึงได้ปล่อยมือลง

“ถ้าหากว่าเป็นไปไม่ได้ งั้นหล่อนบอกฉันหน่อยสิว่าทำไมแม่ของหล่อนต้องดูผิดปกติไปในวันที่เก้าเดือนตุลาคมด้วย?”

“ฉัน...” วารุณีสำลัก ไร้ซึ่งการตอบกลับใดๆ

นั่นสิ หากแม่ไม่ใช่คนที่ชน

แล้วทำไมแม่ถึงต้องอารมณ์ไม่ดีด้วยล่ะ ทำไมเมื่อเก้าปีที่แล้วถึงได้เมามายกลับมาพูดขอโทษๆหลังจากกลับมาจากไปหาคุณปู่บรรพตด้วยล่ะ?

เมื่อเห็นใบหน้าของวารุณีที่ดูซีดเผือดขึ้นเรื่อยๆและดวงตาที่ดูสั่นคลอน นั่นทำให้นัทธีได้แต่กำหมัดแน่น “ดูสิ แม้แต่หล่อนเองก็ยังหักล้างมันไม่ได้เลย”

“แต่...แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าแม่ฉันเป็นคนชนสักหน่อย” วารุณีตอบเรียบๆไร้ซึ่งความมั่นใจใดใด

นัทธีกัดฟันพร้อมกับคำรามออกมาเสียงดัง “เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว หล่อนยังหลอกตัวเองอยู่ได้”

“ฉัน..” วารุณีที่โดนนัทธีคำรามใสได้แต่ตัวสั่นเทาและน้ำตาก็ค่อยๆไหลรินออกมา

หล่อนไม่ได้หลอกตัวเองเสียหน่อย

แม้ว่าท่าทางแปลกๆของแม่จะบอกได้อย่างแน่ชัดว่ามีความเกี่ยวข้องกันกับการตายของพ่อแม่ของเขา

แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นแม่ของหล่อนที่เป็นคนฆ่านี่ บางทีอาจจะมีเหตุผลอื่นๆอยู่ก็เป็นได้

“วารุณี รู้ไหมว่าการที่ฉันเสียใจแค่ไหนที่ต้องเป็นคนออกไปก่อน?” นัทธีจ้องมาที่หล่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ