วารุณีส่ายหน้า เอาสายตาย้ายกลับไปที่คอมพิวเตอร์ แล้วเริ่มทำงาน
ถึงเวลาเลิกงานตอนเย็น วารุณีไปรับลูกทั้งสองคนจากโรงเรียนอนุบาลก่อน แล้วไปส่งกับปาจรีย์ ให้ปาจรีย์ดูแลแทน จากนั้นจึงเรียกรถไปโรงแรมซันธารา
หนึ่งทุ่มห้าสิบ ก็มาถึงโรงแรมซันธารา
วารุณีเพิ่งผลักประตูห้องส่วนตัวไป ก็ได้ยินเสียงเบาๆของพิชญาดังขึ้น“คุณวารุณี คุณมาสายแล้ว!”
“สายเหรอ?”วารุณีเดินเข้าไป ยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา ชี้ไปที่เวลาด้านบน“ไม่ได้บอกว่าสองทุ่มเหรอ ตอนนี้ยังไม่ถึง ฉันจะสายได้ไง?”
พิชญาส่ายแก้วไวน์แดง เหลือบมองเธอเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม“ตอนแรกฉันบอกว่าสองทุ่มจริงๆ แต่ว่าต่อมาฉันเปลี่ยนเป็นหนึ่งทุ่มแล้ว แจ้งเตือนก็ส่งไปในกลุ่ม คุณวารุณี คุณไม่เห็นเหรอ?”
วารุณีเม้มริมฝีปาก“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้เข้ากลุ่ม!”
“แบบนี้เองเหรอ?”พิชญามีท่าทีตกใจแล้วไปถามคนอื่น“พวกคุณไม่ได้ลากคุณวารุณีเข้ากลุ่มเหรอ?”
“เปล่าค่ะ ในกลุ่มเต็มแล้ว!”มีคนตอบ
พิชญาหัวเราะอย่างรู้สึกผิดต่อวารุณี“ขอโทษนะคุณวารุณี ฉันคิดว่าพวกเขาดึงคุณเข้ากลุ่มแล้ว”
วารุณีมองการแสดงที่จอมปลอมของเธอ แล้วที่มุมปากก็กระตุก“ไม่เป็นไรค่ะ!”
ถึงเวลานี้แล้ว เธอยังไม่เข้าใจตรงไหนอีก
กลุ่มเต็มอะไรกันล่ะ ตั้งแต่เริ่มต้น พวกเขาก็ได้รับคำสั่งของพิชญา จงใจไม่ดึงเธอเข้า และตอนนี้พิชญาก็จงใจเปลี่ยนเวลาในกลุ่ม จุดประสงค์ก็เพื่อให้เธอมาสาย ทำให้เธอลำบากใจ!
อย่างที่คาดไว้ วารุณีเพิ่งลากเก้าอี้มานั่ง ไวน์แดงขวดหนึ่งถูกพิชญาวางไว้ตรงหน้า“คุณวารุณี ถึงแม้จะมาสายก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร คุณก็ยังมาสาย ลงโทษด้วยขวดหนึ่งเป็นไง?”
มาแล้ว!
ในใจวารุณีแอบพูด จากนั้นเอาไวน์แดงผลักไปตรงหน้าของพิชญา“ผู้จัดการพิชญา ขอโทษนะคะ ฉันดื่มไวน์ไม่ได้”
พิชญาคิดไม่ถึงว่าจู่ๆเธอจะปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ แล้วสีหน้าก็หม่นลงทันที“คุณวารุณีหมายความว่าไงคะ?ไม่ไว้หน้าฉันเหรอ?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ ก็แค่วันนี้ไม่สบาย กินเซฟาโลสปอรินไปสองเม็ด ก็เลย……”
ตอนที่พูด วารุณีก็หยิบเซฟาโลสปอรินแผงหนึ่งออกมาจากกระเป๋าไปวางที่โต๊ะ
มองเซฟาโลสปอรินแผงนี้ สีหน้าพิชญาก็แดงยิ่งขึ้น
ทำไมเธอคิดไม่ถึงว่า ยัยแพศยาวารุณีนี้ จู่ๆจะมากินเซฟาโลสปอรินอย่างบังเอิญแบบนี้!
“ผู้จัดการพิชญา คุณดูสิไวน์นี้ฉันดื่มไม่ได้แล้ว แต่ว่าถ้าดื่มน้ำผลไม้ ฉันทำได้ค่ะ ไม่งั้นฉันเอาน้ำผลไม้แทนไวน์เป็นไง?”วารุณีมองพิชญาที่อยู่ตรงข้าม
พิชญาชักสีหน้าตอบไปว่า“ไม่ต้องแล้ว!”
น้ำผลไม้?
น้ำผลไม้ทำให้คนขายหน้าได้เหรอ?ดื่มไปก็ไม่ต่างอะไรกับไม่ดื่ม!
“ผู้จัดการพิชญาใจกว้างจริงๆ ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็ขอบคุณนะ”วารุณีเอาเซฟาโลสปอรินเก็บเข้าไปพร้อมหัวเราะหรี่ตา
เซฟาโลสปอรินนี้ ไม่ได้เตรียมมาโดยเฉพาะ แต่เธอมีอันนี้ไว้ตลอดจนชิน
ที่ต่างประเทศ เธอมักจะไปร่วมงานเลี้ยงกับอาจารย์ ที่งานเลี้ยงก็หนีการดื่มไม่พ้น พอนานๆเข้าเธอก็ทำลายกระเพาะ ต่อมาภายใต้การเสนอของพงศกร เธอก็เริ่มพกเซฟาโลสปอรินแผงหนึ่งติดตัว แบบนี้ก็มีเหตุผลที่ไม่ดื่มเหล้าแล้ว
ข้าวมื้อนี้ พิชญาไม่พอใจอย่างมาก คนอื่นๆใส่ใจในอารมณ์ของเธอ เลยไม่ได้แสดงท่าทีมีความสุขเท่าไหร่ ดังนั้นกินอาหารกันอย่างอุดอู้ มีแค่วารุณีที่กินอย่างพอใจ
รอจนถึงเวลาพอประมาณ เธอก็ลุกขึ้นไปห้องน้ำ
แต่เพิ่งเดินไปถึงหน้าห้องน้ำ จู่ๆร่างสูงใหญ่ก็ผ่านออกมาจากในห้องน้ำชายข้างๆ คว้าข้อมือของเธอไว้ แล้วผลักเธอไปที่กำแพง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน จนวารุณีตกใจ จะร้องออกมา ก็ถูกชายหนุ่มอุดปากไว้
“ชู่ อย่าส่งเสียง ช่วยผมหน่อย ไม่อย่างนั้นผมจะฆ่าคุณ!”ชายหนุ่มเตือนด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
รูม่านตาวารุณีหดลง ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ รีบพยักหน้ารับปาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...