พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 495

สรุปบท บทที่ 495 ที่แท้ก็เป็นพวกเขา: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

บทที่ 495 ที่แท้ก็เป็นพวกเขา – ตอนที่ต้องอ่านของ พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

ตอนนี้ของ พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ โดย candy cat ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย จีนทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 495 ที่แท้ก็เป็นพวกเขา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ดังนั้น ตลอดห้าปีของเขา เขาถึงได้ยอมทนกับพิชญา ให้เธอได้ใช้ชื่อเสียงของเขาเพื่อหาผลประโยชน์ต่างๆ

ไม่เพียงเพราะคิดว่าพิชญาเป็นผู้มีพระคุณของเขา ไหนยังจะเรื่องหมั้นที่คุณปู่ได้หมั้นหมายเอาไว้ให้ แต่ใครจะรู้ ว่าคู่หมั้นตัวจริงนั้น ไม่ใช่พิชญา

แต่ก็ยังดีที่สุดท้าย ทุกอย่างก็กลับเข้าร่องเข้ารอยในแบบที่มันควรจะเป็น

นัทธีกุมมือวารุณี แล้วครุ่นคิด

วารุณีก้มมอง ยิ้มแล้วพูดว่า“อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ ทุกอย่างล้วนถูกเตรียมการเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว คุณเองก็รู้เมื่อเจ็ดปีก่อน สุภัทรไล่พวกเราแม่ลูกและน้องชายออกจากบ้านไม่ใช่เหรอ ?”

นัทธีพยักหน้า “ผมรู้”

แต่เขาก็เพิ่งจะมารู้เรื่องเอาในปีที่เธอกลับมาจากต่างประเทศ

เมื่อก่อนรู้แค่ว่าสุภัทรกับวรยาหย่าร้างกัน คุณหนูใหญ่ของตระกูลศรีสุขคําเปลี่ยนชื่อมาเป็นพิชญา และคุณชายใหญ่ตระกูลศรีสุขคําไปพักรักษาตัวอยู่ที่ต่างประเทศ และไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาถูกไล่ออกจากบ้านต่างหาก

มารู้เอาความจริงก็ตอนที่สืบหาเรื่องของว่าที่คู่หมั้น ก็ถึงจะมารู้เรื่อง

“เพราะพวกเราไม่ได้มีสมบัติอะไรติดตัวออกมาด้วยเลย ไม่มีเงินกันเลยสักบาท ศรัณย์ก็เป็นโรคหัวใจมาแต่กำเนิด สองปีที่ถูกไล่ออกมาจากบ้าน โรคหัวใจของศรัณย์ก็มีปัญหามาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อห้าปีที่แล้ว โรคหัวใจของศรัณย์ก็ไม่สามารถจะยื้อต่อไปได้อีก จำต้องเข้าโรงพยาบาล และหมอบอกว่าเขาต้องได้รับการผ่าตัดบายพาส ไม่งั้นศรัณย์ไม่มีทางรอดแน่ ”

พูดมาถึงตรงนี้ วารุณีก็กำมือแน่น “ การผ่าตัดบายพาสหัวใจค่าใช้จ่ายสูงมาก ตอนนั้นฉันกับแม่ไม่มีปัญญาหาเงินจำนวนนี้มาได้ เราจึงได้พูดคุยปรึกษากัน ว่าให้ฉันกลับไปที่ตระกูลศรีสุขคําเพื่อหาสุภัทร เพราะยังไงเขาก็เป็นพ่อของศรัณย์เหมือนกัน คงน่าจะพอให้ความช่วยเหลือเราได้ แต่......”

“แต่อะไร?”นัทธีเหล่มอง

วารุณีเหยียดปาก “แต่ฉันถูกขยานีขวางเอาไว้ ไม่ให้เจอกับสุภัทร จากนั้นก็ถูกขยานีพูดดูถูกให้อับอายขายหน้า แล้วไล่ออกจากตระกูลศรีสุขคํา และในตอนนั้นเอง พิชญาก็มาหาฉัน ตอนนั้นพิชญากำลังเข้าร่วมการแข่งขันอะไรสักอย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ เธอได้รู้จักกับหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่ง”

“พิชญายกเธอให้กับผู้บริหารคนนั้น?”ใบหน้าของนัทธีมืดมน รอบกายแผ่ซ่านไปด้วยไอเย็น

วารุณีพยักหน้า “ผู้บริหารคนนั้นได้ยื่นข้อเสนอให้พิชญาอยู่กับเขาหนึ่งคืน ก็จะการันตีชัยชนะให้พิชญาได้ ดังนั้นพิชญาก็เลยให้ฉันไปแทน คืนนั้น พวกเราไปที่โรงแรมของผู้บริหารคนนั้น พิชญาให้ฉันเข้าไปในห้อง แต่เพราะเกิดข้อผิดพลาดที่หมายเลขห้อง ห้องที่ฉันเข้าไปไม่ใช่ห้องของผู้บริหารคนนั้น แต่เป็นห้องของคุณ ”

พูดๆอยู่ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋า “นี่คือโรงแรมเมื่อห้าปีก่อน กล้องวงจรปิดที่ฉันเข้าผิดห้อง คุณดูเองแล้วคุณก็จะเข้าใจ”

เธอยื่นโทรศัพท์ให้

นัทธีรับมันมา แล้วก้มหน้าดู

เมื่อดูจบ ก็หัวเราะออกมา“ดูๆไปแล้ว เหมือนเราจะมีวาสนาต่อกันนะ ทั้งที่ก่อนหมั้นหมายจะไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน แต่โชคชะตาก็ทำให้มาเจอกันในรูปแบบต่างๆ ”

“ใช่ค่ะ”วารุณีหัวเราะ“เพราะฉะนั้นก่อนหน้านั้น ที่ผลตรวจของเด็กทั้งสองคนออกมาว่าไม่ใช่ลูกของคุณ ฉันกลัวมาก และกระวนกระวายใจไปหมด เพราะฉันไม่รู้ ว่าฉันเคยไปอยู่กับผู้ชายคนอื่นที่ไหนมาก่อน ”

“ขอโทษ เพราะผมไม่ได้ตรวจเช็กมันให้ดี ”นัทธีกอดเธออย่างรู้สึกผิด

วารุณีส่ายหน้า“ไม่ใช่แค่คุณ ตัวฉันเองก็เสียรู้เหมือนกันนี่ ? คนพวกนั้น พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขวางไม่ให้คุณกับเด็กๆได้รู้จักกัน กันจนไม่รู้จะกันยังไงแล้ว แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว พวกเขาอยากจะขวาง ก็ขวางไม่ได้แล้ว”

“คุณพูดถูก”นัทธีหัวเราะออกมาเบาๆ

ในตอนนี้เอง ประตูห้องก็มีเสียงเคาะดังขึ้น

นัทธีปล่อยตัววารุณี “เข้ามา”

เมื่อประตูเปิดออก มารุตก็เดินเข้ามาพร้อมแฟลชไดรฟ์“ท่านประธาน คุณให้ผมไปตรวจดูกล้องวงจรปิด ผมเช็กมาเรียบร้อยแล้วครับ นี่คือของสองวันนั้นครับ”

เขายื่นแฟลชไดรฟ์มา

พอดีกับห้องพักผู้ป่วยนั้นเป็นห้องพิเศษ ด้านในห้องจึงมีคอมพิวเตอร์ไว้อำนวยความสะดวกด้วย

นัทธีเดินตรงไปที่คอมพิวเตอร์ เสียบแฟลชไดรฟ์ แล้วเปิดดูภาพของกล้องวงจรปิดที่มีอยู่สองคลิป

วารุณียืนอยู่ข้างๆเขา และดูมันพร้อมกับเขา

นัทธีกดเปิดตัวแรกที่มีเวลาระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน นั้นก็คือคลิปที่อยู่หน้าห้องทำงานเขา

วิดีโอเริ่มเล่น ภาพแรกที่ปรากฏออกมา คือภาพของทางเดินที่หนึ่ง นั้นก็คือภาพทางเดินหน้าห้องทำงานของเขา

ทางเดินในตอนนี้ไม่มีบุคคลใดเลย แต่ไม่นาน ก็มีเสียงของรองเท้าส้นสูงดังขึ้น จากนั้น ภาพที่คนทั้งสามต่างก็คุ้นเคยกันดีก็ปรากฏขึ้น นั้นก็คือพิชญา

หลังจากที่เธอสูดหายใจเข้าลึก ก็กำมือแน่น จากนั้นก็หายออกไปอย่างเงียบ ๆ

หลังจากที่ดูวิดีโอนี้จบ นัทธีก็กัดฟันกรามแน่น

เขาเดาผิดอีกแล้ว

เขาคิดว่าครั้งนี้ก็น่าจะเป็นฝีมือของขงเบ้ง ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือของนวิยา

แม้แต่วารุณีเองก็ยังแปลกใจ“ที่แท้นวิยาก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่าอารัณกับไอริณเป็นลูกของคุณ แต่เธอก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ ในตอนที่เราบึ้งตึงใส่กัน ยังมาพูดให้ฉันเลิกกับคุณ ยังพูดว่าฉันเอาลูกคนอื่นมาให้คุณเลี้ยง มันไม่ยุติธรรมกับคุณ ”

“เธอเคยพูดแบบนี้กับคุณเหรอ ?”นัทธีมองมาที่หญิงสาว

วารุณีพยักหน้า “ใช่ค่ะ”

“ทำไมคุณไม่บอกผม ?”นัทธีขมวดคิ้ว

วารุณีถลึงตามองเขา “ตอนนั้น ฉันขอคุยกับคุณอยู่ตั้งหลายครั้ง คุณก็ไม่ยินยอม แล้วฉันจะบอกคุณยังไง ”

“......ผมขอโทษ”นัทธีก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด

วารุณีก็ยิ้มออกมา“ช่างมันเถอะ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว จัดการกับสองเรื่องนี้ก่อนเถอะค่ะ ”

เธอชี้ไปที่ภาพจากกล้องวงจรปิด

ท่าทีของนัทธีก็เคร่งขรึมขึ้นมาอีกครั้ง หันมองไปยังมารุต “เช็กดูสิว่าพิชญาสับเปลี่ยนตัวอย่างของDNAยังไง แล้วที่สับเปลี่ยนคือของฉัน หรือของเด็กๆ”

“ที่สับเปลี่ยนน่าจะเป็นของเด็กๆครับ”มารุตกล่าว“ตัวอย่างของท่านประธาน ผมเป็นคนให้กับมือคุณหมอพิชิตด้วยตัวเอง ดังนั้นตัวอย่างของเด็กๆ น่าจะถูกสับเปลี่ยนไป เพราะตัวอย่างของเด็กๆ เป็นหมอที่ไปเจาะเลือดที่โรงเรียนของเด็กๆส่งไปครับ ไม่รู้ว่าหมอคนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า ”

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ไปเช็กหมอคนนั้นซะ แล้วครูที่ดูแลการตรวจร่างกายของเด็กที่โรงเรียนคนนั้นด้วย เช็กให้ละเอียดมีปัญหาตรงไหน รีบรายงานฉันทันที” นัทธีออกคำสั่ง

มารุตพยักหน้า“เข้าใจแล้วครับ แล้วการตรวจครั้งที่สองล่ะครับ ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ