"ผู้หญิงคนนี้แหละ ก่อนหน้านี้มีข่าวฉาวกับท่านประธาน ตอนนี้ก็ควงผู้อำนวยการนิรุตติ์อีก!”
"จริงด้วย ฉันได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้แต่งงานแล้ว ทั้งยังมีลูกสองคน คิดไม่ถึงว่าจะไปยั่วยวนผู้ชายคนอื่นอีก หน้าด้านจริงๆ "
"พวกเธอจะไปเข้าใจอะไร ไม่แน่ยัยนี่อาจจะรังเกียจที่สามีคนปัจจุบันไม่มีเงินก็ได้ อยากจะหาคนที่ดีกว่า”
ฟังคำพูดดูถูกเหล่านี้ วารุณีขมวดคิ้วเป็นปม รู้สึกแย่มาก
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เธอแค่ไปกินข้าวกลับมาเท่านั้น ทำไมถึงกลายเป็นคนหน้าไม่อายในสายตาคนพวกนี้?
คิดถึงตรงนี้ วารุณีเดินไปหาคนพวกนั้นด้วยสีหน้าเยือกเย็น
เห็นได้ชัดคนพวกนี้คิดไม่ถึงว่าเธอจะเดินมา รีบหยุดพูดทันที แล้วมองวารุณีด้วยความกระอักกระอ่วน
"ใครบอกพวกเธอว่าฉันควงผู้อำนวยการนิรุตติ์?" วารุณียืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอ ถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
หลังจากที่พวกเขามองหน้ากัน หนึ่งในนั้นยืนขึ้นแล้วตอกกลับ“คนแผนกออกแบบของพวกเธอนั่นแหละที่พูดในกลุ่ม"
"แผนกออกแบบ?" ริมฝีปากแดงของวารุณีเม้มตรง เข้าใจทุกอย่างทันที
จากนั้น เธอก็ไม่สนใจคนพวกนี้ เดินไปยังลิฟต์
ไปถึงแผนกออกแบบ ทันทีที่วารุณีไปถึงออฟฟิศ เธอได้ยินคำนินทาเดียวกันอย่างไม่น่าแปลกใจ
เธอไม่รู้สึกโมโห จากนั้นเธอก็เดินไปยังโซนทำงานของตน หยิบนิตยสารขึ้นมาหนึ่งเล่มแล้วม้วนเป็นวงกลม จากนั้นฟาดลงบนโต๊ะอย่างแรง
ปั้ง เสียงดังขึ้น ทุกคนต่างตกใจ
สายตาเยือกเย็นของวารุณีกวาดมองไปที่ทุกคนซึ่งมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป พูดเสียงเหี้ยมว่า“ใครกันแน่ที่ได้รับคำสั่งจากคุณพิชญา เผยแพร่เรื่องระหว่างฉันกับผู้อำนวยการนิรุตติ์ ยืนขึ้นด้วยตนเองเดี๋ยวนี้!”
ที่เธอมั่นใจว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือพิชญามากขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะเรื่องที่เธอรู้จักกับนิรุตติ์ มีแค่นัทธีกับพิชญาสองคนเท่านั้นที่รู้ นัทธีไม่มีวันทำเรื่องแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นคนที่จะทำเรื่องแบบนี้ มีแค่คุณพิชญาเท่านั้น
สำหรับสาเหตุ คงเป็นเพราะอยากจะทำลายชื่อเสียงของเธอที่อยู่ในบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป เท่านั้น ช่างเป็นการกระทำที่ต่ำทรามจริงๆ
คนในออฟฟิศได้ยินคำพูดของวารุณี ส่วนมากล้วนตกใจ มีแค่คนจำนวนน้อยเท่านั้นที่แสดงสีหน้าร้อนตัว
วารุณีจำได้สองสามคน เป็นคนของพิชญา ไม่มีพรสวรรค์ด้านการออกแบบ ความสามารถที่มีมากที่สุดก็คือประจบพิชญา
"ที่แท้ก็พวกเธอนี่เอง!” วารุณีมองไปที่พวกเขา
พวกเขารู้ตัวว่าถูกจับได้แล้ว เก็บซ่อนต่อไปก็ไม่มีความหมายอะไร จึงยอมรับสารภาพไปตรงๆ "ฝีมือพวกฉันเองทำไมเหรอ?"
"ขอโทษ!” วารุณีพูดสองพยางค์ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
พวกเขายืนขึ้น "เธอมีสิทธิ์อะไรให้เราขอโทษนะ? เรื่องทุเรศที่เธอทำ ไม่ให้พวกฉันพูดเหรอ?"
วารุณีหัวเราะ "เรื่องทุเรศ? ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปควงผู้อำนวยการนิรุตติ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกเธอก็คาดโทษฉันแล้ว นี่มันรังแกกันเกินไปแล้ว ฉันให้โอกาสพวกเธออีกหนึ่งครั้ง ขอโทษ รวมถึงชี้แจงสิ่งที่พวกเธอใส่ร้ายฉันในกลุ่มด้วย ไม่อย่างนั้นฉันไม่ยอมหยุดง่ายๆ แน่!”
ทว่าหลังจากที่พวกเขาฟัง กลับเมินเฉย ไม่มีทีท่าจะขอโทษแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นแบบนี้ วารุณีพอจะเดาได้ว่าเป็นเพราะพวกเขาไม่กลัว เธอหัวเราะในใจด้วยความเย็นยะเยือก
คนพวกนี้ โง่มากจริงๆ คิดว่ามีพิชญาคอยให้ท้าย ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว นี่มันโง่ขั้นสุด
เป็นเวลาอันประจวบเหมาะ อาศัยโอกาสนี้ ไล่ยัยพวกนี้ออกไปจากบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป ถือเป็นการตัดกำลังของพิชญา ดูสิว่าวันข้างหน้าพิชญาจะเอาใครมาเล่นงานเธอ
ขณะคิด วารุณีทิ้งนิตยสารในมือลง แล้วเปิดคอมพิวเตอร์
คนพวกนั้นเห็นการกระทำของเธอ หัวเราะด้วยความดูถูก
พวกเขาอุตส่าห์คิดว่าเธอเก่งกาจมากเลยนะ ที่แท้ก็เป็นแค่คนที่ขู่เก่งอย่างเดียวเท่านั้น
ชั่วขณะหนึ่ง คนพวกนั้นไม่เก็บเรื่องของวารุณีมาใส่ใจ หลังจากกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตน พูดเรื่องของวารุณีและนิรุตติ์กันต่อ ถึงขั้นจงใจพูดเสียงดัง
วารุณีรู้ว่าพวกเขาพูดให้เธอฟัง ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด ปล่อยให้พวกเขาพูด
ยิ่งพวกเขาพูดเกินกว่าเหตุมากเท่าไหร่ สิ่งที่เธอปรินต์ออกมาก็จะยิ่งมากขึ้น
สุดท้าย เธอหยิบเอกสารที่ปรินต์เสร็จแล้วเดินออกไปจากแผนกออกไป จากนั้นเดินไปยังห้องทำงานของท่านประธาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...