“ถ้าเกิดว่าฉันบอกว่าไม่ล่ะ?” นิรุตติ์อุ้มวารุณีถอยไปหนึ่งก้าว
เขามาเพื่อช่วยเธอโดยเฉพาะ เพราะอยากให้เธอติดค้างเขาสักครั้ง เขาถึงจะหาโอกาสในการเข้าใกล้เธอให้ได้ แล้วทลายกำแพงในใจเธอ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองให้ได้
ดังนั้นเขาจะปล่อยให้นัทธีมาแทรกกลางได้อย่างไรกัน
แต่เมื่อนัทธีเห็นว่านิรุตติ์ไม่ยอมส่งมาให้ ก็หรี่ตาลง ก่อนจะตะโกนออกไป “มารุต!”
“ครับ!” มารุตลงมาจากรถ ก่อนจะมาที่ด้านหลังของนิรุตติ์ แล้วก็ล็อกแขนของนิรุตติ์เอาไว้ทั้งสองข้าง
“คุณทำอะไร?” นิรุตติ์มีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่ปกปิดความโกรธเอาไว้ไม่อยู่
มารุตยิ้มตาหรี่ลงพลางพูดขึ้น “ผู้อำนวยการนิรุตติ์ ฉันว่าคุณอย่าขยับไปไหนเลย ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคุณวารุณีจะตกลงมาได้นะ”
เมื่อได้ยินคำนี้ นิรุตติ์ที่อยากจะยึดยื้ออย่างเต็มกำลัง ตอนนี้จึงทำได้เพียงไม่ขยับ พลางมองนัทธีแย่งวารุณีไปจากมือของตัวเองตาปริบๆ
นัทธีอุ้มวารุณีก่อนจะเดินขึ้นรถไป
จู่ๆ นิรุตติ์ก็พูดขึ้น “นัทธี คุณรู้ไหมว่าท่าทีของคุณมันเหมือนอะไร?เหมือนชายขี้หึงเลยล่ะ!”
นัทธีชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะมีท่าทีกลับมาเป็นปกติ พลางหันหน้ามามองเขาเล็กน้อย “คุณคิดมากไปแล้วล่ะ ฉันแต่ไม่อยากให้เธออยู่ในมือของคนอย่างคุณเท่านั้นเอง ระหว่างคุณกับเธอมันไม่มีอะไร แต่จู่ๆ กับเข้าใกล้เธอ ไม่ใช่ว่าอยากจะได้อะไรจากตัวเธองั้นเหรอ?”
เมื่อพูดจบ เขาก็ผลุบตาลง ก่อนจะปิดประตูรถ
มารุตเองก็รีบปล่อยนิรุตติ์ก่อนจะขึ้นรถไป
เมื่อเห็นมายบัคขับออกไปไกล นิรุตติ์ขยับๆ ส่วนที่ถูกมารุตจับจนเจ็บ “นัทธีนะนัทธี คุณมีใจให้วารุณีอยู่แล้วแท้ๆ กลับไม่ยอมรับสักที ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็อย่ามาโทษฉันนะ ไม่ว่าจะเป็นคนหรืออะไรก็ตาม ขอแค่คุณสนใจ ฉันก็จะแย่งมาให้ได้!”
วารุณี เขาต้องเอามาให้ได้อย่างแน่นอน!
เชื่อได้เลยว่าจากนี้ นัทธีได้เห็นวารุณีเรียกเขาว่าสามี เด็กทั้งสองคนก็ยังเรียกเขาว่าพ่อ มันต้องน่าสนใจมากแน่ๆ เลย!
เมื่อคิดไป นิรุตติ์ก็หัวเราะอย่างโรคจิต
“ประธาน พวกเราจะไปไหนดี?” บนรถนั้น มารุตขับรถ พลางถามไปด้วย
“ที่นี่ห่างจากคอนโดไม่เท่าไหร่ ไปที่นั่นเลย!” นัทธีมองวารุณีที่อยู่ข้างๆ พลางตอบ
วารุณีพิงอยู่ตรงประตูรถ พลางนั่งขดตัว โดยที่ตัวสั่นไม่หยุด
“หนาวจัง……” เธอพึมพำออกมาอย่างไม่ได้สติ
นัทธีลังเลสักพัก จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมที่ใส่อยู่ออก จากนั้นก็เอามาคลุมให้เธอ
หลังจากที่เขาห่มแล้ว แล้วเตรียมจะดึงมือกลับ วารุณีกลับกอดแขนของเขาเอาไว้ ก่อนจะเอนมาเพื่อซบเขา พลางพยายามจะเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา จนกระทั่งหาจุดที่สบายที่สุดได้ ถึงจะหยุดลง
เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำอะไร เธอรู้เพียงว่า สิ่งที่เธอกอดอยู่นั้น มันทำให้เธอไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป
ท่าทีของวารุณีนั้น ทำให้นัทธีตัวแข็งทื่อไป
เขาผลุบตาลงมามองผู้หญิงเอาหัวมาซุกอยู่ตรงเอวของเขา จากนั้นแววตาก็สั่นไหวไม่หยุด
มารุตที่ขับรถอยู่ ในตอนนั้นในใจก็สั่นไหวเป็นอย่างมาก
ตอนแรกเขาก็ตกใจเพราะประธานอุ้มวารุณีขึ้นมาบนรถ ตอนนี้มาเห็นวารุณีมาอยู่ในอ้อมกอดของประธานอีก ส่วนประธานก็ไม่ได้ผลักเธอออก เลยยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่!
ต้องรู้ก่อนว่า ประธานนั้นยังไม่เคยมีท่าทีสนิทสนมกับคุณนวิยาขนาดนี้มาก่อนเลย!
ในตอนนั้น จู่ๆ มารุตก็นึกถึงคำพูดของนิรุตติ์ขึ้นมาได้ ที่บอกว่าประธานเหมือนชายที่ขี้หึง
เมื่อลองกลั่นกรองดูดีๆ ตอนที่ประธานเห็นนิรุตติ์อุ้มวารุณี ก็จะแย่งวารุณีมาให้ได้ พฤติกรรมแบบนี้ มันคืออาการหึงหวงไม่ใช่เหรอ หรือว่าประธานมีใจให้วารุณี……
ไม่หรอก!
มารุตตกใจจนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พลางไม่กล้าจะคิดต่อไป
ระหว่างทางนั้นไม่มีการพูดคุย เพียงไม่นานก็ไปถึงคอนโดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...