เมื่อได้ยินคำตอบของปาจรีย์ สีหน้าจริงจังของวารุณีก็คลายลงอย่างมาก “ปาจรีย์ เธอแน่ใจแล้วใช่ไหม?”
“อืม ฉันแน่ใจแล้ว!” ปาจรีย์พยักหน้าอย่างมั่นใจ
ครั้งนี้ เธอแน่ใจแล้วจริงๆ
เธอทำร้ายลูกไม่ได้ ทำร้ายพ่อแม่ไม่ได้ เธอ......ต้องไป!
“ดี ในเมื่อแน่ใจแล้ว ก็เปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ ฉันจะติดต่อไปหานัทธี ถึงตอนนั้น เขาจะจัดการให้เธอกับคุณลุงคุณป้าออกไป เธอบอกกับคุณลุงคุณป้าพวกเขาก่อนก็ได้” วารุณีพยักหน้า
ปาจรีย์อืมเพื่อตอบรับไปสองครั้ง “ตกลง”
“ตกลง เธอพักผ่อนก่อนเถอะ แล้วก็ ป้องกันตัวเองดีๆ ” วารุณีกำชับ
ปาจรีย์สูดหายใจลึก “ฉันจะทำ”
“งั้นก็ดี แค่นี้ก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันจะติดต่อมาใหม่”
พูดจบ วารุณีก็วางสาย
ลีน่าเอามือค้ำศีรษะถาม: “เธอตอบตกลงจะออกไปแล้วเหรอ?”
วารุณีพยักหน้า “ใช่”
“ไม่ง่ายเลยนะ” ลีน่าถอนหายใจพูด
เมื่อกี้นี้เธอเข้าใกล้โทรศัพท์ของวารุณี เลยได้ยินที่ปาจรีย์พูดทั้งหมด
สำหรับปาจรีย์ที่ยืดเยื้อตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะจากไปในตอนแรก เธอทั้งโกรธทั้งจำใจ
ที่โกรธคือ ก็แค่ผู้ชายคนเดียวไม่ใช่เหรอ แถมยังเกลียดเธอ ผู้ชายที่ไม่รักเธอ ทำไมถึงจากไปไม่ลง?
ที่จำใจก็คือ ปาจรีย์รักพงศกรมากเกินไป รักจนเสียสติ
“ใช่มันไม่ง่ายเลย” วารุณีถูขมับ
ลีน่าเบะปาก “เธอนี่นะ รักจนโงหัวไม่ขึ้นของจริง รักใครแล้ว ก็รักซะจนถอนตัวไม่ขึ้น จนไร้ค่า จนขนาดที่ยอมเสียศักดิ์ศรี ถ้าเปลี่ยนเป็นฉัน ฉันจะไม่สนใจพงศกรคนนั้นเลย”
วารุณียิ้ม “เธอเลยไม่ใช่วารุณีไง ทุกคนนิสัยไม่เหมือนกันหรอกนะ ถึงแม้ว่าวารุณีจะเป็นที่รักหัวปักหัวปำไปหน่อย แต่ฉันก็เข้าใจเธอได้ ที่เธอรักพงศกรมาสิบกว่าปีและปล่อยไปไม่ได้ ในความผูกพันนี้ นอกจากรักแล้ว มากกว่านั้นคือ ยังมีความลุ่มหลงด้วย”
ปาจรีย์ได้ให้พงศกรเป็นสิ่งครอบงำเธอเรียบร้อยแล้ว
ถ้าไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทั้งชาตินี้ของปาจรีย์ ก็เป็นไปได้ที่จะไม่มีทางลืมพงศกร
เพราะปาจรีย์ถือความรักที่มีต่อพงศกร กลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว
“เอาล่ะ ไม่พูดถึงเธอแล้ว ยังไงตอนนี้เธอก็ตกลงจะออกไปแค่นี้ก็พอแล้ว ต่อไป ทุกอย่างต้องพึ่งตัวเธอเอง หวังว่าเธอจะใจสู้หน่อย ถ้าหากว่าใจไม่สู้ เธอก็จะทำร้ายตัวเองไม่ช้าก็เร็ว รวมไปถึงพ่อแม่และลูกของเธอด้วย”
วารุณีพยักหน้า “ใช่ หวังว่าปาจรีย์จะคิดได้”
หลังจากนั้น ทั้งสองก็ไม่พูดอะไรอีก ตลอดทางเงียบสนิทจนกลับถึงคฤหาสน์
วันที่สอง นัทธีส่งคนไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปเจอกับปาจรีย์
เพื่อปิดบังจากพงศกร คนของนัทธีตั้งใจปลอมตัวใส่ชุดคุณหมอ แล้วเข้าไปในห้องคนไข้ของปาจรีย์
หลังจากที่อธิบายตัวเองกับปาจรีย์เสร็จ ก็ได้ส่งชุดพยาบาลให้กับปาจรีย์ ให้ปาจรีย์เปลี่ยนชุด
หลังจากรอปาจรีย์เปลี่ยนชุดเสร็จ คนคนนั้นก็พาปาจรีย์ออกมาจากห้องคนไข้ เดินออกจากห้องคนไข้อย่างเปิดเผย เข้าไปในลิฟต์
ภายในลิฟต์ ปาจรีย์กุมหัวใจที่เต้นแรงตุบตับ มองคนข้างๆ “ประธานนัทธีได้บอกหรือเปล่า ว่าพ่อแม่ของฉันเป็นยังไงบ้าง?”
“สบายใจได้ครับคุณปาจรีย์ คุณพ่อคุณแม่คุณออกไปจากเมืองธารากับคนของประธานนัทธีแล้ว ขึ้นเครื่องไปแล้วครับ”
“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ครับ” คนนี้พยักหน้า “พงศกรไม่ได้ส่งคนไปจับจ้องคุณพ่อคุณแม่ของคุณ ส่งแค่คนไปจับตาดูคุณครับ ฝั่งของคุณพ่อคุณแม่คุณเลยจัดการได้ง่ายหน่อย”
หลังจากได้ยินที่พูด ปาจรีย์ก็โล่งใจไปหนึ่งเปราะ “งั้นก็ดี แต่ประธานนัทธีจะจัดการให้เราไปที่ไหนเหรอ?”
“รัฐที่ห่างไกลตัวเมืองหน่อยในประเทศอเมริกาครับ ชีวิตที่นั่นสบายๆ เศรษฐกิจหลักทั้งหมดคือมาจากทรัพย์ที่ดินทางการเกษตร ประเทศอเมริกาเหมาสำหรับชีวิตหลังเกษียณครับ ประธานนัทธีได้จัดการคฤหาสน์ให้พวกคุณเรียบร้อยแล้วครับ แล้วยังมีฟาร์ม เพียงพอสำหรับครอบครัวคุณเลยครับ” เขาคนนี้อธิบาย
ปาจรีย์พยักหน้า “ดีจัง ช่วยฉันบอกประธานนัทธีกับวารุณีหน่อยนะ รอฉันถึงที่นั่นจัดการที่พักเรียบร้อยแล้ว ฉันจะติดต่อไปหาพวกเขา แล้วบอกขอบคุณพวกเขา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...