วารุณีลูบท้องของตนเอง หันไปมองผู้ชายด้วยความพร่ำบ่น “โทษนายทั้งนั้น!”
หากไม่ใช่เพราะเมื่อคืนเขาใช้แรงทรมานเธอ เธอจะตื่นสายขนาดนี้เหรอ?
แน่นอนว่านัทธีเข้าใจความหมายภายในนัยน์ตาของผู้หญิงตนเอง หัวเราะด้วยเสียงต่ำ “อื้ม โทษฉัน”
“ฮื้ม” วารุณีเหลือกตาขาวใส่เขา หันหลังไป ขี้เกียจสนใจเขาแล้ว
ในไม่ช้า สองสามีภรรยาก็กลับมาถึงวิลล่า
ลีน่าไม่อยู่ในห้องรับแขกแล้ว ไม่รู้ว่าไปไหน คาดว่าน่าจะกลับห้องแล้ว
นัทธีโอบวารุณีเข้ามาในห้องอาหาร ออกคำสั่งกับคนใช้ “เอาอาหารมาให้คุณหญิงหน่อย”
“ได้ค่ะคุณชาย” คนใช้ตอบกลับ จากนั้นก็หันไปทางห้องครัว
นัทธีดึงเก้าอี้ออก ให้วารุณีนั่ง
หลังจากที่วารุณีนั่งลงแล้ว เขาจึงจะดึงเก้าอี้ข้างๆ แล้วนั่งลง “ในเมื่อตื่นแล้ว ทำไมตอนแรกถึงไม่ให้เขาไปเตรียมอาหารให้ล่ะ?”
“ได้ยินลีน่าบอกว่า นายกับลูกทั้งสองเล่นอยู่ที่ข้างนอก ดังนั้นฉันก็เลยออกไปดู” วารุณีรับแก้วน้ำที่ผู้ชายส่งมา
ผู้ชายขมวดคิ้วอย่างไม่เห็นด้วย “ถึงแม้จะสงสัยว่าฉันกับลูกทั้งสองเล่นอะไรกัน เธอก็ควรจะเติมเต็มท้องให้อิ่มก่อน หากเธอไม่สบาย คนที่เป็นห่วงคือสามพ่อลูกเรา”
ฟังคำพูดของผู้ชายที่สั่งสอนตนเอง วารุณีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ ในทางกลับกันยังรู้สึกอบอุ่นใจมาก
ไม่ว่ายังไงแล้วก็มีแต่คนที่เป็นห่วงตนเองจริงๆ จึงจะพูดสั่งสอนตนเองเช่นนี้
หากไม่ใช่ ใครจะมาสนเธอเยอะขนาดนี้
“ฉันรู้แล้วที่รัก อย่าโกรธเลย” วารุณีควงแขนของผู้ชาย ใช้ศีรษะขยับเข้าไปใกล้ไหล่ของเขาแล้วอ้อน
นัทธีหันข้างมองผู้หญิง นัยน์ตาอ่อนโยนหวานหยาดเยิ้มของเธอ ทำให้ใบหน้าที่ตึงเครียดของเขาคลี่คลายลงทันที
เขายกมือขึ้น ลูบผมของผู้หญิงเบาๆ “ฉันไม่โกรธ ขอแค่หลังจากนี้เธออย่าลืมดูแลตัวเองดีๆ ก็ดีแล้ว มีแต่แบบนี้ พวกเราถึงได้เป็นห่วงเธอน้อยลง”
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะดูแลตนเอง” วารุณีหยักหน้า
“งั้นก็ดี” ผู้ชายก้มหน้าลงจูบผมของเธอ พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน
ขณะนี้ คนใช้ถืออาหารเข้ามาแล้ว
นัทธีมองไปแวบหนึ่ง ลุกขึ้นแล้วรับมา จากนั้นก็วางอยู่ตรงหน้าวารุณี “เธอกินก่อนเลย รองท้องหน่อย อย่ากินเยอะเกิน เดี๋ยวก็ถือเวลาอาหารกลางวัน จะกินไม่ลงเอา”
“วางใจเถอะ ฉันเข้าใจ” วารุณียิ้ม จากนั้นก็หยิบแซนด์วิชในจานขึ้นมาแล้วเริ่มทานอาหาร
นัทธีนั่งเป็นเพื่อนเธออยู่ข้างๆ พยุงศีรษะแล้วมองเธออย่างเกียจคร้าน
วารุณีถูกเขามองจนรู้สึกอึดอัด ความเร็วในการกินก็ค่อยๆ น้อยลง
สุดท้าย เธอจึงวางแซนด์วิชในมือลงแล้วมองผู้ชาย “คือว่า......ที่รัก นายหันหน้าไปอีกข้างหนึ่งไป นายมองฉันแบบนี้ ฉันรู้สึกไม่ค่อยชิน”
“ไม่ชินตรงไหน?” ผู้ชายหยิบกาแฟขึ้นมาแล้วจิบไปหนึ่งคำ
วารุณีพูด “ไม่ชินทุกตรง ถูกคนจ้องมองตอนทานหาร ก็ต้องรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย”
“แบบนี้เหรอ” นัทธีพยักหน้าและทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็หันหน้าไปทางอีกข้าง “โอเค เธอกินเลย ฉันไม่มองเธอ”
วารุณีเห็นเขาเป็นแบบนี้แล้ว จึงจะหยิบแซนด์วิชขึ้นมา แล้วกินอีกครั้ง
และแล้วในตอนที่กินอยู่ เธอก็รู้สึกอีกแล้วว่านัยน์ตาของผู้ชายมองอยู่บนตัวของเธอ
เธอวางแซนด์วิชในมือลงอีกครั้ง มองไปทางผู้ชายที่อยู่ข้างกายอยากจะพูดอึกๆ อักๆ “บอกว่าจะไม่มองฉันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมนายมองมาอีกแล้ว”
“ทนไม่ไหว!” ผู้ชายวางแก้วกาแฟในมือลง ตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา
วารุณีเลิกคิ้ว “ทำไมถึงทนไม่ไหว?”
“ท่าทางตอนกินอาหารของเธอน่ารักมาก ดังนั้นฉันจึงทนไม่ไหวที่จะไม่มองเธอ” นัทธีตอบกลับด้วยสีหน้าที่จริงจัง
ทันใดนั้นวารุณีก็หน้าแดงทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...