สงครามบนเตียงอันดุเดือดตลอดคืน
ในตอนที่วารุณีตื่นขึ้นมา เป็นช่วงบ่ายของวันที่สองแล้ว
ยังดีที่วันนี้ไม่ต้องแข่งขัน ก็คือวันหยุดที่เหลือให้กับผู้เข้าแข่งขัน ไม่เช่นนั้นเธอที่เป็นกรรมการและเมนเทอร์ คงจะสายตั้งนานแล้ว
“สวัสดียามบ่ายวารุณี” ในห้องรับแขก ลีน่านั่งอยู่บนโซฟา บนตักมีนิตยสารการออกแบบเครื่องประดับเล่มหนึ่งวางอยู่ มองวารุณีที่ลงมาจากตึก หัวเราะเยาะเย้ย
วารุณีจับราวบันไดลงมา จะไม่รู้ได้ไงว่าลีน่าหัวเราะเยาะเย้ยเรื่องอะไร เหลือกตาขาวใส่เธอแล้วตอบกลับ “สวัสดียามบ่าย เธอมาคนเดียวเหรอ?”
“ใช่แล้ว” ลีน่าพยักหน้า จากนั้นก็เหมือนนึกอะไรออก พูดต่อว่า “สามีของเธอมาลูกชายและลูกสาวเล่นอยู่ที่สนามหญ้าข้างนอกนะ”
“อ๋อ? พวกเขากำลังเล่นอะไร?” วารุณีมีความสนใจขึ้นมาทันที
ลีน่าส่ายหัว “อันนี้ฉันก็ไม่รู้แล้ว เธอลองไปดูเถอะ”
“ได้ เดี๋ยวฉันลองไปดู” พูดจบ วารุณีก็เร่งความเร็วรีบลงจากตึก จับชายกระโปรงที่ยาว วิ่งออกไปทางนอกวิลล่า
ข้างนอกวิลล่าเป็นสนามหญ้าเขียวขจีที่กว้างใหญ่ วิ่งอยู่ข้างบนแล้วรู้สึกสบายมาก
วารุณีเห็นบนสนามหญ้าในที่ไม่ไกล นัทธีพาเด็กทั้งสองนั่งอยู่บนเสื่อพรมผืนหนึ่ง พ่อลูกทั้งสามคนนั่งอยู่ใกล้กัน กำลังก้มหน้าไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
วารุณียิ้ม เดินไปทางทางนั้น “ที่รัก พวกนายกำลังทำอะไรอยู่?”
“หม่ามี๊” เด็กทั้งสองอยู่ตรงข้ามของวารุณี ได้ยินเสียงของวารุณีแล้ว เงยหน้าขึ้น เผยรอยยิ้มหวานมาทางวารุณี
วารุณีก็ยิ้มกลับ จากนั้นก็หันไปทางนัทธี
นัทธียกของในมือขึ้นมา วารุณีจึงจะมองออกว่าคืออะไร เลิกคิ้วขึ้น “โดรน?”
“อื้ม” นัทธีพยักหน้า “อารัณอยากได้โดรนเครื่องหนึ่ง ดังนั้นฉันจึงให้คนซื้อมาเครื่องหนึ่ง ตอนนี้กำลังประกอบกับเด็กเด็กอยู่ เตรียมปล่อยขึ้นไปถ่ายอะไรบางอย่าง เป็นไง? เล่นด้วยกันไหม?”
“หม่ามี๊มาเล่นกับพวกเราเถอะค่ะ!” เด็กทั้งสองก็เห็นด้วยอย่างดีใจ
“ได้สิ หม่ามี๊มาเล่นกับพวกหนู”
“นั่งที่นี่” นัทธีตบไปยังที่นั่งข้างๆ ของตนเอง
วารุณีเดินมานั่งลง จากนั้นก็ประกอบโดรนพร้อมกับนัทธีและเด็กทั้งสอง
โดรนที่นัทธีซื้อ คือชนิดที่ราคาแพงมาก ชนิดที่ชิ้นส่วนเยอะมาก ไม่เหมือนโดรนที่ราคาทั่วไป ขอแค่ประกอบชิ้นส่วนสองสามอย่างก็สามารถประกอบสำเร็จแล้ว
จะประกอบโดรนแบบนี้ ต้องใช้ความอดทนและความละเอียดรอบคอบ ไม่เช่นนั้นหากประกอบชิ้นส่วนน้อยไปหนึ่งอย่าง โดรนก็ไม่สามารถใช้ได้แล้ว
สองสามีภรรยาพาเด็กทั้งสองประกอบไปจะครึ่งวัน ในที่สุดก็ประกอบโดรนที่ซับซ้อนนี้สำเร็จแล้ว
หลังจากที่ประกอบเรียบร้อยแล้ว วารุณีจึงจะมองออกถึงรูปทรงของโดรนตัวนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็ก ไม่ใช่แผ่นกลมๆ ที่พบเจอบ่อยตามท้องตลอด หรือแบบที่ใช้แผ่นกลมประกอบเข้าหากัน เป็นโดรนที่รูปทรงง่ายๆ
รูปทรงของโดรนตัวนี้ เท่มากๆ อย่างไม่ต้องสงสัย แบบที่ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็ก ผู้หญิงหรือผู้ชาย วัยชราหรือวัยรุ่น เห็นแวบแรกก็ต้องชอบ
วารุณีจับโดรนตัวนี้แล้วถามว่า “รูปทรงที่เท่ขนาดนี้ ไม่เคยปรากฏอยู่ท้องตลาดเลย จนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังไม่เห็นบริษัทโดรนไหนที่พัฒนามาถึงขั้นนี้ ที่รัก อย่างบอกนะว่านี่นายให้คนสั่งทำ?”
เธอเหลือบตาไปมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ สงสัยอย่างหนักว่าเขาไปสั่งทำ
นัทธียิ้มอ่อน “ฉันให้คนไปสั่งทำเอง อารัณไม่ชอบรูปทรงที่เห็นบ่อยในท้องตลอด ดังนั้นฉันจึงให้คนไปสั่งทำอันนี้เป็นพิเศษ”
“อันนี้สวยครับ” อารัณมองโดรนแล้วพูดอย่างตื้นตัน
วารุณีลูบคาง “รูปทรงที่ซับซ้อนขนาดนี้ ใช้ชิ้นส่วนมากมายขนาดนี้ประกอบขึ้น ต้องสั่งทำนานมากแน่ๆ บอกมา นายให้คนไปสั่งทำตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“สามเดือนก่อน มาถึงวันนี้พอดี” นัทธีนำโดรนยื่นให้กับอารัณแล้วตอบกลับ
อารัณรับโดรนมาอย่างระมัดระวัง “ขอบคุณครับคุณพ่อ”
“เป็นเด็กดีนะ!” นัทธีลูกศีรษะน้อยๆ ของลูกชาย
อีกทางหนึ่ง ไอริณก็นกมือขึ้น พูดอย่างไม่ยอมล้าหลังว่า “หม่ามี๊ หนูก็มีค่ะ”
“หนูก็มีโดรน?” วารุณีมองเจ้าเด็กน้อยอย่างตะลึงงัน
เธอกลับไม่รู้ว่า เจ้าเด็กน้อยก็ชอบโดรนเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...