วารุณีไม่คิดว่าชายหนุ่มจะชมตัวเองกลับ ทันใดนั้นใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมา และรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
ตรงข้าม ลีน่ามองไปยังสองสามีภรรยาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เอาอีกแล้วเอาอีกแล้ว
สามีภรรยาคู่นี้ไม่จบไม่สิ้นนะ คอยแต่จะหาโอกาสหยอดหวานกันอยู่ตลอด จริงๆเลย พระเจ้า ช่วยส่งสายฟ้าผ่าลงมาทีเถอะ!
วารุณีไม่รู้ว่าคำบอกรักหวานๆของตัวเองกับนัทธี จะทำเอาคนโสดที่อยู่ข้างๆถึงกับเลี่ยนได้
หรือต่อให้รู้ ก็คงจะแค่ให้หญิงสาวรีบหาแฟนเร็วๆ พอเป็นแบบนี้ ก็จะได้ไม่ต้องมานั่งเหม็นเบื่อคนเขารักกัน
หลังมื้ออาหาร ลีน่าก็รีบกลับขึ้นชั้นบน ไปยังห้องของตัวเอง
หากจะให้เธอพูด ก็คงเพราะกลัวว่าจะมาเห็นพวกเขาโชว์หวานแล้วต้องมานั่งหมั่นไส้อีก
แบบนี้คงทนไม่ไหวแน่
เมื่อวารุณีเห็น ก็ส่ายหัวอย่างขบขันในใจ จากนั้นก็พาเด็กน้อยสองคนขึ้นไปยังชั้นบน
นัทธีไม่ได้ตามขึ้นไป แต่นั่งทำงานต่อในห้องนั่งเล่น เพราะยังมีการประชุมทางวิดีโอต่อ
วารุณีก็จึงเป็นเพื่อนเล่นกับลูกและเล่านิทานให้เด็กน้อยฟังในห้องนอน
เพราะเด็กน้อยทั้งสองคนพรุ่งนี้เช้าก็ต้องเดินทางกลับแล้ว ในฐานะคนเป็นแม่ เธอจึงอยากจะใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด ไม่อย่างนั้นอีกเจ็ดวันก็ถึงจะได้เจอกันอีก
แม้ว่าจะโทรและวิดีโอคอลกันทุกวัน แต่ก็ไม่สู้ได้เห็นหน้ากันจริงๆ
คืนนี้ วารุณีอยู่กับลูกทั้งสองคนจนดึกดื่น เด็กทั้งสองก็ไม่ยอมนอน อาจเพราะตอนบ่ายนอนกลางวันไปนาน ดังนั้นเที่ยงคืนแล้วก็ยังมีพลังและกระปรี้กระเปร่าอยู่
ในท้ายที่สุดหากไม่ใช่เพราะนัทธีมา แล้วบังคับให้เด็กน้อยนอน อย่ากวนวารุณีอีก ดูท่าเด็กน้อยก็คงจะยังเล่นต่อได้ถึงดึกดื่นค่อนคืนแน่
นัทธีโอบกอดวารุณีแล้วพากันเดินออกจากห้องของเด็กน้อย
วารุณีพิงไปยังร่างของนัทธีอย่างเหนื่อยล้า พูดอย่างมีความสุขและจนใจว่า “ไม่ไหวแล้ว ฉันแทบจะไม่ไหวแล้ว ไม่คิดว่า เด็กทั้งสองจะมีพลังที่ล้นเหลือขนาดนี้ ให้ฉันเล่นเกมหมากรุกเที่ยวบินด้วย แล้วเล่นไม่รู้จักเบื่ออีก”
“หากคุณแพ้ต้องร้องเพลงให้พวกเขา และหากพวกเขาแพ้พวกเขาก็จะแสดงโชว์ให้คุณดู ดังนั้นพวกเขาจะเบื่อได้ยังไง”นัทธีมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ“คุณก็ตามใจพวกเขาเกินไป น่าจะสั่งให้พวกเขานอนได้แล้ว แบบนี้ตัวเองก็จะได้ปลีกตัวออกมาได้ ไม่งั้นคงไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้”
วารุณีคลึงไปที่หว่างคิ้วแล้วตอบว่า“ฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้เหมือนกัน แต่พอคิดว่าวันพรุ่งนี้ลูกๆก็ต้องกลับแล้ว และต้องห่างกับฉัน ฉันก็อดใจไม่ได้ อยากจะอยู่กับพวกเขาให้นานๆ”
“ใช่ว่าจะไม่ได้เจอกันอีกซะที่ไหนล่ะ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองเหนื่อยแบบนี้” นัทธีดีดไปที่หน้าผากของเธอ
วารุณีเจ็บจนส่งเสียงร้อง “คุณทำอะไรเนี่ย?”
“ช่วยให้คุณตื่นไง ตอนนี้ดีขึ้นแล้วหรือยัง?”นัทธีปล่อยเธอ จากนั้นก็บีบนวดหัวไหล่ของเธอ ให้เธอนั่งที่ขอบเตียง
วารุณีสะบัดหน้าไปมา“ค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะ ฉันขอนอนเล่นสักเดี๋ยว เมื่อกี้นั่งบนพรมไปหลายชั่วโมง ตอนนี้ปวดหลังนิดหน่อย ”
“ปวดมากไหม ?”นัทธีมองไปยังเอวของเธอ
วารุณีตอบกลับ “ก็ไม่เท่าไร แค่เส้นยึด ยืดตัวตรงไม่ได้ พอเหยียดตัวตรงก็รู้สึกปวด ”
“นอนลง” ริมฝีปากบางของนัทธีออกเสียง พูดคำนี้ออกมา
วารุณีหันมองเขา “จะทำอะไร?”
“นวดให้คุณ”นัทธีกล่าว
วารุณียกยิ้ม จากนั้นก็พลิกตัวแล้วนอนลง “ ไม่ง่ายเลยที่จะได้รับอภินันทนาการบริการนวดจากประธานนัทธี ฉันไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว”
นัทธีมองไปยังหญิงสาว แววตามีแสงสลัวพาดผ่าน จากนั้นก็โน้มตัวลง ขยับชิดเข้าไปที่ใบหู พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “โอ้ ? หาได้ยากกับอภินันทนาการนี้เหรอ ? แล้วเมื่อคืน......”
“หยุด!”ใบหน้าของวารุณีเห่อร้อนขึ้นในทันที จากนั้นก็เอามือปิดหน้าชายหนุ่ม“คุณอย่าเอาสองเรื่องนี้มารวมกัน เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น นวดก็ส่วนนวด ฉันไม่เคยถูกคุณนวดให้มาก่อนจริงๆนี่นา ”
นัทธีเอามือของเธอออกจากปาก“ แต่การนวดนั้น ก็สบายกว่าการนวดแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”
ใบหน้าวารุณีแดงก่ำ จ้องเขม็งมองเขาอย่างเอียงอายและหงุดหงิด“คุณอย่าพูดมาก จะนวดไม่นวด ? ไม่นวดก็ไปอาบน้ำเลยไป ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...