คุณพ่อประสิทธิ์ถอนหายใจแล้วพยักหน้า “ใช่ พ่อกังวลลูกตรงนี้แหละ ลูกมันเด็กขี้ใจอ่อนเกินไป มีเมตตามากเกินไป เพื่อพ่อแม่อย่างเรา ไม่ใช่ว่าลูกจะทำไม่ลง”
ปาจรีย์ยิ้ม “สบายใจเถอะค่ะพ่อ ฉันรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ ฉันไม่ทำไปทั่วหรอก”
พูดจบ เธอก็หยุดคุณพ่อประสิทธิ์ แต่หลังจากที่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วออกมาจากข้างหลังคุณพ่อประสิทธิ์อย่างกล้าหาญ เดินไปที่เตียง
เดิมทีคุณพ่อประสิทธิ์อยากจะดึงเธอไว้ ไม่ให้เธอเข้าไป แต่ทันทีที่นึกถึงทำที่เธอพูดเมื่อกี้ สุดท้ายก็ปล่อยมืออย่างจำใจ ปล่อยให้เธอไป
ช่างเถอะ ในเมื่อลูกสาวต้องการแสดงความกตัญญูต่อชายชราอย่างเขา งั้นเขาก็จะปล่อยมือ ให้เธอเข้าไปแล้วกัน
ไม่อย่างนั้นการที่หยุดเธอ ก็คงไม่ได้ทำให้เธอมีความสุข
คิดอยู่ คุณพ่อประสิทธิ์จึงไม่ทำอะไรสักอย่าง ยืนอยู่ตรงมุมห้อง มองไปที่เตียงด้วยสายตาระมัดระวัง
เขาคิดได้แล้ว เขาไม่ห้ามเรื่องลูกสาวต้องการจะทำ
แต่เขาสามารถยืนป้องกันอยู่ข้างๆ ได้ ทันทีที่พงศกรนั่นต้องการให้ปาจรีย์ทำอะไรบางอย่าง เขาจะจัดการพงศกรก่อน
ปาจรีย์ไม่รู้ว่าคุณพ่อประสิทธิ์กำลังยืนอยู่อีกฝั่งอย่างขมึงทึง เธอมาถึงเตียงของพงศกรอย่างระมัดระวัง
พงศกรมองเธออยู่ตลอด
สิ่งที่คุณพ่อประสิทธิ์พูดกับเธอเมื่อกี้นี้ เขาเองก็ได้ยินหมด เขาไม่รู้ว่าตกลงแล้วเธอมาหาเขามีเรื่องอะไร แต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง เขาอยากให้เธอเข้ามา มาที่ข้างๆ เขา
แต่เมื่อปาจรีย์เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พงศกรก็ค้นพบว่าตัวเองสามารถรู้สึกถึงหัวใจตัวเองที่เต้นอย่างไม่หยุด ความสุขแบบนั้น ความตื่นเต้นแบบนั้น ความฮึกเหิมแบบนั้น กำลังอยู่ในร่างกายของเขา หมุนขึ้นหมุนลงไม่หยุด
ถ้าเขาไม่กำหมัดให้แน่นอย่างสุดแรงเพื่อปกปิด เกรงว่าใบหน้านั้น จะแสดงออกมา
“คุณพงศกร” ปาจรีย์ไม่รู้ว่าพงศกรกำลังมีกิจกรรมอะไรอยู่ในใจ เธอหยุดลงที่เตียงผู้ป่วย มองที่พงศกร แล้วอ้าปาก พูดตะโกน
เมื่อได้ยินเธอเรียกชื่อเขาราวกับห่างไกลแบบนี้ นัยน์ตาพงศกรก็หดลง อารมณ์ตื่นเต้นในใจที่ดึงดูดเธอเข้ามา ก็จมลงทันที กลายเป็นความมืดมน
เขาพูดด้วยเสียงแหบต่ำ “เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?”
“คุณพงศกร” ปาจรีย์ย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นสีหน้าดูไม่ได้ของเขา เธอก็กะพริบตาด้วยความไม่แน่ใจ “งั้น......ฉันเรียกผิดเหรอ?”
เธอไม่รู้ว่าเมื่อก่อนตัวเองเรียกผู้ชายคนนี้ว่าอะไร แต่เธอมั่นใจว่าเธอเรียกถูกอย่างแน่นอน
ยังไงตัวเธอเองก็รักเขา ไม่มีทางที่จะเรียกเขาแบบห่างเหินอย่างนั้น
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ตัวเองตอนนี้ไม่ได้รักเขา และก็จำเขาไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถเรียกเขาอย่างเมื่อก่อนได้อีกต่อไป
เธอทำได้แค่เปลี่ยนการเรียกชื่อใหม่ มารยาทใหม่ แต่กลับดูไม่สนิทสนม
คิดแล้ว ชื่อคุณพงศกรเหมาะสมที่สุด
แต่ไม่รู้ว่าทำไม ผู้ชายคนนี้ กลับมีท่าทางเหมือนว่าไม่ดีใจเท่าไหร่นัก
พงศกรไม่ได้ตอบคำถามของปาจรีย์
เพราะเขาไม่สามารถพูดได้ว่า เธอเรียกเขาผิดจริงๆ
เมื่อก่อนเธอเรียกเขาว่าพงศกร ต่อให้เขาเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ให้เธอเรียกเขาแบบนั้น เขาขยะแขยง เธอก็ยังคงเรียกเขาแบบนั้นเหมือนเดิม
เมื่อเวลาผ่านไป เขาจึงปล่อยตามๆ เธอ
แต่ทว่าตอนนี้ อยู่ๆ เธอก็กลับเรียกเขาว่าพงศกรขึ้นมา ตลกอะไรขนาดนี้
นี่คือบทลงโทษของพระเจ้าที่มอบให้เขา แก้แค้นเขางั้นเหรอ?
เมื่อมองไปที่สีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยของพงศกร หัวใจของปาจรีย์ก็สั่นสะท้าน ก้าวไปข้างหลังอย่างไม่รู้ตัว เพื่อดึงระยะห่างจากเขาอีกหน่อย
เมื่อมองเห็นฉากนี้ สีหน้าของพงศกรก็ดูไม่ได้ขึ้นมาอีกครั้ง “เธอ......กลัวฉันมากเลยเหรอ?”
ปาจรีย์ทั้งส่ายและพยักหน้า “ขอโทษด้วยนะคะคุณพงศกร ฉันไม่ได้กลัวคุณ แต่ฉันรู้ว่าฉัน เมื่อก่อนฉันคนนั้น คงจะกลัวคุณ เพราะเมื่อฉันได้เห็นคุณ ความรู้สึกกลัวในใจของฉันมันก็เลยผุดขึ้นมาเอง ก็เลยส่งผลถึงตัวฉันในตอนนี้ จนกระทั่งเมื่อได้เห็นสีหน้าที่ผิดไปของคุณ จิตใต้สำนึกในร่างกายของฉันเลยแสดงออกมาก่อน”
พงศกรหรี่ตา แล้วรู้สึกแห้งกร้านในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...