พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 86

“ใช่” วารุณีพยักหน้า

ปวิชอายอย่างมาก อยากที่จะหนีไปทันที

ในอดีตที่ผ่านมา เขามักจะแอบอ้างฐานะของสุภัทรในการจีบสาว แทบไม่เคยมีปัญหาเลย

คิดไม่ถึงครั้งนี้กลับมาเจอเข้ากับลูกสาวของสุภัทร

ดูท่าทางที่ละอายใจของปวิช หัวใจของขยานีก็หล่นวูบ รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมา

หรือว่าเขาได้บอกความสัมพันธ์ของพวกเขาไปแล้ว?

ทันใดนั้น หน้าของขยานีซีดเผือดไปหมดแล้ว รู้สึกเหมือนจะหน้ามืด

แต่เธอได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หยิกฝ่ามือของตัวเอง ถึงสามารถฝืนไม่ให้ตัวเองเป็นลมล้มพับไป ถามอย่างลองเชิญ “เมื่อกี้พวกเธอกำลังคุยอะไรกันอยู่?”

“คุณน้าขยานีถามคำถามนี้ได้พอดีเลย วารุณีเหลือบมองไปปวิชที่อยู่ข้างหลังของเธอ น้องชายจากแดนไกลของคุณกำลังแอบอ้างฐานะของพ่อ”

“อะไรนะ?” ขยานีอึ้งไปทันที “แอบอ้างฐานะของพ่อเธอ?”

“ใช่ค่ะ” วารุณีพยักหน้า ชี้ไปที่ปวิชแล้วฟ้อง “ไม่เพียงเท่านี้ เขายังได้ให้นามบัตรกับฉันด้วย อยากจะชวนฉันไปดื่มกาแฟด้วย!” วารุณีเอานามบัตรใส่มือของขยานี

ขยานีมองนามบัตร โล่งอกไปทันที ความกระสับกระส่ายในใจ จึงได้สงบลงมา

ดูแล้วปวิชไม่ได้พูดความสัมพันธ์ของพวกเขาออกไป

อย่างไรก็ตาม เขากลับกล้าอาศัยตอนที่เธอไม่อยู่ ไปจีบผู้หญิงคนอื่น!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ขยานีก็โกรธอย่างมาก มองปวิชที่อยู่ข้างหลังอย่างดุดัน ยื่นมือไปทางปวิช “เอาออกมา”

“อะ..........อะไร? ปวิชถามอย่างสงสัย

วารุณีกลอกตาไปหนึ่งที แล้วกล่าว “คุณน้าขยานี้ขอนามบัตรที่เหลือกับคุณไง คุณสามารถหยิบมันออกมาอย่างง่ายดาย เห็นได้ชัดว่าต้องพิมพ์ไว้เยอะพอสมควร ไม่เช่นนั้นหากเห็นผู้หญิงสวยๆก็น่าจะไม่พอแจก!”

พูดจบ เธอก็มองขยานีอย่างมีความสนใจ

ตามที่คาดการณ์ไว้ ใบหน้าของขยานีถึงกับกระตุกแล้ว สายตาที่จ้องมองปวิช ราวกับจะฉีกเนื้อฉีกหนัง

ปวิชก็กลัวขยานีที่เป็นแบบนี้ ไม่กล้าขัดขืนเธอ รีบหยิบกล่องนามบัตรออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

ขยานีเห็นนามบัตรในกล่อง เหลือเพียงเศษหนึ่งส่วนสาม แววตาก็เริ่มแดง หน้าอกกระพือขึ้นลงอย่างรุนแรง

สำเร็จในการสร้างช่องว่างให้กับเขาสองคน วารุณีก็ยกมุมปากขึ้น แอบยิ้มในใจ “แต่ปากกลับพูดอย่างกังวล คุณน้าขยานี นามบัตรหนึ่งร้อยใบเหลือเพียงประมาณสามสิบกว่าใบ เห็นได้ชัดว่าน้องชายของคุณน้า อยู่ข้างนอกใช้ชื่อของพ่อในการหาผลประโยชน์ จีบผู้หญิงไปไม่น้อยเลยนะ ไม่ได้แล้ว เรื่องนี้มีผลกระทบต่อชื่อเสียงของคุณพ่ออย่างรุนแรง ฉันต้องบอกคุณพ่อ”

ขยานีกับปวิชได้ยินเธอพูดว่าจะบอกเรื่องนี้กับสุภัทร ก็รีบห้ามเธอทันที

“วารุณีจ๋า นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่มีอะไรน่าพูดกับคุณสุภัทรหรอก น้าสั่งสอนเขาก็พอแล้ว” ขณะที่พูด ขยานีก็ตบปวิชไปสองที

เธอไม่มีทางที่จะยอมให้วารุณีไปฟ้อง

สุภัทรรู้แต่แรกแล้วว่าเธอไม่มีญาติ จู่ๆหากรู้ว่าเธอมีน้องชายโผล่มาจากแดนไกลหนึ่งคน ต้องสืบเรื่องนี้อย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นก็จะปิดไม่มิดแล้ว ดังนั้นเธอจำเป็นต้องหยุดวารุณี

วารุณีวางโทรศัพท์ลง “ไม่บอกคุณพ่อก็ได้ แต่คุณต้องให้อะไรดีๆกับฉันหน่อยนะ”

“อะไร?” สมองของขยานีนิ่งไปทันที ตอบสนองไม่ค่อยจะทัน

วารุณีมองไปที่กระเป๋าของเขา “คุณน้าขยานี คุณน้าก็รู้ว่า ความสัมพันธ์ฉันกับพ่อไม่ดี แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังเป็นพ่อของฉัน ฉันซึ่งเป็นลูกสาวก็ควรจะปกป้องเขา แต่ไม่ว่าเรื่องอะไรมันก็มีข้อยกเว้น ขอเพียงมีผลประโยชน์ แล้วฉันก็สามารถทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นนะ”

ตอนนี้ขยานีเข้าใจแล้ว สบถอย่างดูถูกเล็กน้อย “พูดมาเถอะ เธออยากได้อะไร?”

“สิ่งที่ฉันต้องการง่ายมาก ก็คือฉันเพิ่งซื้อโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเล็กๆมาโรงงานหนึ่ง แต่ยังไม่มีเงินซื้อเครื่องจักร ก็เลย...” วารุณีทำท่านับเงิน

ขยานียิ้มเยาะ “สองแสนพอมั้ย?”

“สองแสนเหรอ” วารุณีทำท่าครุ่นคิด สุดท้ายส่ายหัว “เกรงว่าจะไม่ได้ สองแสนซื้อเครื่องจักรได้แค่สองเครื่องเอง ในแผนงานของฉันคือห้าสิบเครื่อง ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่พอ”

“ห้าสิบเครื่อง?” ขยานีจะบ้าแล้ว “เธอคงไม่ใช่ต้องการห้าล้านหรอกมั้ง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ