วารุณีอุ้มไอริณแล้วหรี่ตามอง ครอบครัวทั้งสี่คนปรองดองรักใคร่กันอย่างอบอุ่น มารุตที่ขับรถอยู่รู้สึกอิจฉาตาร้อนเลยทีเดียว
ประธานบอกว่า รอให้คุณหญิงจบการแข่งขันในครั้งนี้แล้ว เขาก็สามารถไปดำรงตำแหน่งท่านประธานที่บริษัทสาขาย่อยได้แล้ว พอเป็นแบบนี้ เขาก็จะมีเวลาส่วนตัวมากมาย ไม่ต้องรับคำสั่งจากท่านประธานวนๆ ลูบๆ แม้กระทั่งเวลาที่อยู่กับแฟนก็น้อยมากๆ
รอให้เขาเป็นท่านประธานแล้ว เรื่องแรกที่จะทำ ก็คือจัดการเรื่องเชอรีนก่อน จากนั้นก็คลอดลูกสองคน ถ้าจะให้ดีคือชายหนึ่งหญิงหนึ่ง
พอถึงเวลา พวกเขาครอบครัวสี่คน จะต้องมีความสุขเหมือนครอบครัวท่านประธานแน่นอน
เฮ้อ สถานการณ์แบบนั้น แค่คิดก็มีความสุขมากๆ เลย
มารุตขับรถอยู่ แต่ในใจคิดฟุ้งซ่าน
ในไม่ช้า ก็มาถึงศูนย์กลางเทคโนโลยี
อารัณรีบกระโดดลงจากรถ มองตึกตรงหน้านี้ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคอย่างดีใจ “คือที่นี่แหละครับ ผมอยากจะมาที่นี่โดยตลอด ในที่สุดวันที่ก็มาถึง”
เขากางมือออก ทำให้มีความสุข
วารุณีและนัทธีจูงมือไอริณลงมาจากข้างหลัง เห็นเจ้าหนุ่มดีใจขนาดนี้ ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ไหว
“พอแล้ว ไม่ต้องยืนอยู่ที่นี่แล้ว อยากจะมีที่นี่ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ รีบเข้าไปเถอะ” วารุณีตบไหล่ของอารัณเบาๆ แล้วพูด
อารัณพยักหน้าติดต่อกัน จากนั้นก็วิ่งไปทางประตูใหญ่ของศูนย์กลางเทคโนโลยีอย่างมีความสุข
วารุณีและนัทธีจูงมือน้อยๆ ของไอริณตามอยู่ข้างหลัง
ทางนี้ ครอบครัวทั้งสี่คนกำลังจะเล่นเกมครอบครัวอยู่
อีกทางหนึ่ง พงศกรติดต่อกับนิรุตติ์ได้แล้ว
ในเมื่อไม่สามารถรู้ข่าวจากนัทธีและวารุณีได้ว่าปาจรีย์ไปหานักสะกดจิตคนไหน ทว่าเขาสามารถลงมือจากทางนิรุตติ์ได้
นิรุตติ์เองก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกที่รู้ว่าปาจรีย์ไปสะกดจิตเพื่อลืมเขา ดังนั้นนิรุตติ์เองก็ต้องชัดเจนแน่นอน ว่านักสะกดจิตของปาจรีย์คือใคร
“คุณหมอพงศกร ไม่เจอกันนานเลย” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ นิรุตติ์ยิ้มทักทาย เหมือนว่าสนิทกับพงศกรมากๆ
พงศกรเอ่ยปากขึ้นอย่างไร้อารมณ์หน้า “ฉันโทรหานาย ไม่ได้จะมาระลึกความหลังกับนาย”
“ฉันรู้” นิรุตติ์เล่นปืนไม้อยู่แล้วตอบกลับ “อย่างไรก็ตามระหว่างพวกเราก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ดังนั้นจะไม่ระลึกความหลังก็ปกติ พูดมาเถอะ โทรหาฉันมีเรื่องอะไร?”
“ฉันอยากรู้ว่า นักสะกดจิตที่ปาจรีย์ไปสะกดจิตคือใคร” พงศกรก็ไม่ได้อ้อม พูดในสิ่งที่ตนเองจะถามออกมาตรจงๆ
ท่าทางที่นิรุตติ์เล่นปืนไม้ได้หยุดชะงักไป จากนั้นก็เลิกคิ้ว “อ๋อ? นายถามเรื่องนี้ อย่าบอกนะว่าจะคลายปมสะกดจิตให้ปาจรีย์”
พงศกรไม่ปริปากพูดว่าถูกหรือไม่ถูก
นิรุตติ์หัวเราะอย่างลับลมคมใน “นายรู้ไหม หากนายคลายปมให้สะกดจิตให้เธอ เธอก็จะกลับไปอยู่ในความเจ็บปวดที่นายเคยทำร้ายเธอ ตอนนี้นายคงจะยอมรับกับความจริงที่นายตกหลุมรักเธอแล้วสินะ ดังนั้น นายอยากจริงๆ เหรอ?”
พงศกรหรี่ตา “นี่ไม่เกี่ยวกับนาย นายแค่บอกฉันว่านักสะกดจิตคนนั้นเป็นใครก็พอแล้ว เรื่องอื่น นายไม่ต้องพูดมาก”
เขาไม่อยากแล้วทำไม?
เทียบกับความอยากไม่อยาก เขายิ่งไม่สามารถรับได้ กับการที่เธอลืมเขาไปตลอดเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...