พงศกรหยุดลงตรงหน้าวารุณีไม่กี่ก้าว ดวงตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นมองเธออยู่แบบนั้น ไม่พูดอะไร
วารุณีโดนเขามองก็อึดอัด รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งทื่อทันที
แต่ว่าแป๊บเดียว เธอก็ปรับอารมณ์ ส่ายมือไปที่คนใช้ด้านหลัง“คุณลงไปก่อนละกัน ชงชามาหน่อย เอาผูเอ่อร์”
ชาผูเอ่อร์ เป็นชาที่พงศกรชอบกิน
ถึงแม้ในใจจะติดใจต่อเรื่องเหล่านั้นที่พงศกรเคยทำ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร พงศกรก็มีพระคุณช่วยชีวิตเธอกับลูกๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้พงศกรก็มาช่วยเหลือด้วย เธอเย็นชากับพงศกรมากไม่ได้
“ค่ะคุณหญิง”คนใช้พยักหน้า หันกลับลงไป
ในห้องรับแขกเหลือแค่วารุณีกับพงศกรสองคน
วารุณีสูดหายใจลึกๆ ทำท่าเชื้อเชิญพงศกร“พงศกร อย่ายืนตรงนั้นเลย รีบมานั่งเถอะ”
พงศกรตอบอือ วางกระเป๋าเดินทางอีกด้าน เดินมานั่งลงตรงข้ามเธอ ดันแว่นที่สันจมูก แล้วจึงมองเธอพูดไปว่า“คุณยังเตรียมชาที่ผมชอบดื่มให้ผมอีก”
วารุณีถามอย่างสงสัย“ทำไมฉันต้องไม่เตรียมด้วยล่ะ?”
พงศกรหัวเราะเบาๆ“เพราะว่าผมรู้สึกได้ว่า คุณรู้สึกซับซ้อนกับผมเล็กน้อย ห่างเหินหน่อยๆ เมื่อก่อนผมเคยทำเรื่องไม่ดีต่อคุณเยอะเลย ผมคิดว่าคุณจะไม่เห็นผมเป็นเพื่อนเสียแล้ว”
ได้ยินคำพูดของเขาแล้ว วารุณีก็ละสายตาลง เงียบลงไปด้วย สักพัก จึงถอนหายใจพูดว่า“นายพูดถูก ในใจฉันไม่ค่อยพอใจนายจริงๆ แต่ฉันก็ยังเห็นนายเป็นเพื่อน ยิ่งไปกว่านั้น นายยังเป็นผู้มีพระคุณของฉันกับลูกของฉัน และแม่ของฉันด้วย และจากสิ่งนี้ แค่นายไม่ทำพวกเราแม่ลูกถึงแก่ชีวิต ฉันก็จะไม่โกรธ ไม่เกลียดนายจริงๆหรอก”
พงศกรตะลึงเล็กน้อย
เขาคิดไม่ถึงว่า วารุณีจะอดทนต่อตัวเองสูงมากขนาดนี้
“เหรอ?ถึงแม้เมื่อก่อนผมเคยทำร้ายปาจรีย์ คุณก็ไม่โกรธผมจริงๆเหรอ?”พงศกรมองเธอ
วารุณีพยักหน้า“ใช่ อีกอย่าง ฉันคือฉัน ปาจรีย์ก็คือปาจรีย์ ความบาดหมางระหว่างนายกับปาจรีย์ ก็เป็นเรื่องของพวกนาย พวกนายควรจัดการกันเอง นอกจากว่านายจะทำร้ายความปลอดภัยในชีวิตของปาจรีย์ ไม่อย่างนั้น ฉันก็จะไม่เข้าไปยุ่งหรอก ฉันไม่สามารถรังเกียจนายได้ เพราะว่าฉันเป็นเพื่อนที่ดีกับปาจรีย์ นั่นไม่ยุติธรรมต่อนาย”
พอได้ยิน พงศกรก็รู้สึกอบอุ่นใจ ใบหน้าที่เยือกเย็นก็ผ่อนคลายลง“ขอบคุณนะ”
วารุณีหัวเราะ“นายในตอนนี้ ดูเจริญตากว่าเมื่อก่อนเยอะเลย”
“หมายความว่าไง?”พงศกรขมวดคิ้ว
วารุณีมองเขา“นายในอดีต ถึงแม้จะมีรอยยิ้มเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิอยู่ตลอดเวลา มองดูอ่อนโยนอย่างมาก แต่ฉันมักจะรู้สึกว่ามีตรงไหนผิดไป แต่ก็พูดออกมาไม่ถูก จนสุดท้าย ฉันถึงรู้ว่า ความอ่อนโยนนั้น ก็แค่หน้ากากที่นายสวมไว้เท่านั้น นั่นไม่ใช่นายที่แท้จริง นายที่แท้จริงไม่สวยงามขนาดนั้น กลับกัน ตัวตนนายที่แท้จริงนั้นมืดมนหมองหม่น น่ากลัวมาก ถึงแม้ตัวตนที่แท้จริงของนาย จะทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจมาก แต่มองไปแล้ว อย่างน้อยก็ดูเจริญตา ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกผิดปกติตรงไหน”
พงศกรหัวเราะเหอะๆ“คุณพูดแบบนี้ ไม่กลัวผมไม่พอใจเหรอ?”
วารุณีส่ายหน้า“นายไม่เป็นแบบนั้นหรอก ฉันเข้าใจนาย ในเมื่อนายกล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง และเลือกที่จะใช้ชีวิตต่อไปด้วยความจริงแล้ว ฉันก็รู้ว่า นายไม่ใช่คนใจแคบอย่างนั้น และพงศกรที่ฉันรู้จัก ถึงแม้จะนิสัยแย่ไปหน่อย แต่ว่าเขาก็เป็นคนดี”
พงศกรเงียบลง สักพัก จึงพูดใหม่อีกครั้ง“ขอโทษนะ ผมอาจจะ ไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิด ผมไม่ใช่คนดีอะไร ผมช่วยคุณไว้น่ะใช่ แต่ขณะเดียวกัน ผมก็ลงมือกับพวกคุณ”
วารุณีละสายตาลง“ฉันรู้ว่า ตอนนั้นคนที่จับตัวอารัณไปคือนาย และนายทำให้อารัณประสบอุบัติเหตุ”
ใบหน้าพงศกรไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่นัก
ตอนนี้ เขาก็รู้ดีว่า เธอน่าจะรู้เรื่องนี้
ยังไงนวิยาก็ตายแล้ว ก่อนนวิยาตาย จะต้องพูดเรื่องพวกนี้ออกมาแน่ มาทำให้เธอรังเกียจ
“ฉันอยากรู้ว่า ทำไมนายถึงทำแบบนี้?”วารุณีกำฝ่ามือ มองคนตรงข้ามด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...