“พูดแล้วไม่คืนคำ” วารุณีส่ายหัว “ฉันพูดจริงทำจริง จริงๆ นะ!”
กลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ เธอถึงกับชูนิ้วสามนิ้วขึ้นเพื่อสาบาน
นัทธีเอามือของเธอกลับมาจับไว้ “ผมเชื่อคุณ”
วารุณียิ้มพร้อมเอนพิงอกเขา “ฉันรู้อยู่แล้วว่าสามีจะต้องเชื่อฉัน”
“พอแล้วๆ” นัทธีลูบผมที่อ่อนนุ่มของเธอ “คุณนั่งไปก่อนนะ เดี๋ยวผมขึ้นไปชั้นบนเปลี่ยนเสื้อผ้า ช่วงกลางวันผมเข้าโกดังกับคนอื่นมา ตรวจสอบอุปกรณ์ บนตัวมีฝุ่นเยอะมาก ผมอาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยลงมานะ”
“ไปเถอะ” วารุณีโบกมือ เป็นสัญญาณให้เขารีบไป
นัทธีลุกขึ้นยืน ลัดเลาะผ่านโซฟา เดินไปทางบันได และขึ้นไปชั้นบน
เพิ่งเดินถึงชั้นสอง นัทธีก็ได้ยินเสียงฝีเท้าชั่วประเดี๋ยวเดียว
เขาแหงนตามองขึ้นไป เห็นพงศกรสวมชุดขาวทั้งตัว สวมใส่แว่นตาขอบเงินกำลังเดินมาทางนี้พอดี
นัทธีหยุดก้าวฝีเท้า ไม่ได้เดินขึ้นไปชั้นบนต่ออีก ยืนอยู่ที่เดิมมองพงศกร
พงศกรก็มองเห็นนัทธีแล้ว ฝีเท้าจึงหยุดชะงัก เห็นได้ชัดว่าเขาก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะบังเอิญขนาดได้เจอกับนัทธีที่นี่
เพียงชั่วครู่พงศกรก็สงบสติอารมณ์กลับมาปกติและเดินหน้าต่อไป จนกระทั่งเขาเดินไปใกล้ถึงตัวนัทธี ตำแหน่งอยู่ห่างจากนัทธีไม่เกินสองก้าว ถึงจะหยุดเดินโดยสมบูรณ์
“ประธานนัทธี ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ” พงศกรยิ้มให้นัทธี และยื่นมือออกไป
รอยยิ้มนี้ เหมือนกับว่าย้อนกลับไปยังตอนแรกที่เขาเพิ่งกลับประเทศมา พงศกรที่อ่อนโยนคนเดิมคนนั้น
แต่นัทธีกลับยังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา มองไปที่มือพงศกรแวบหนึ่ง แต่ไม่มีความคิดที่จะจับมือกับเขาเลย
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” นัทธีหรี่ตา พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
พงศกรก็มองออกว่านัทธีไม่อยากจับมือกับเขา เขาก็ไม่เรียกร้อง จากนั้นจึงเอามือลงอย่างเฉยเมยราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเอามือล้วงกลับเข้าไปในกระเป๋า “ประธานนัทธีดูเหมือนจะไม่ค่อยยินดีต้อนรับผมเลยนะครับ เรื่องนี้มันกลับทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย ถึงอย่างไรผมก็มาช่วย คุณเองก็เห็นด้วยไม่ใช่เหรอครับ?”
“ผมเห็นด้วย แต่มันไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องให้การต้อนรับคุณ” นัทธีพูดอย่างเย็นชา
พงศกรยิ้มอีกครั้ง “ประธานนัทธีพูดแบบนี้ไม่กลัวว่าจะทำให้ใครขุ่นเคืองเหรอครับ?”
“ทำไมล่ะ?ทำให้คุณขุ่นเคือง คุณก็จะไปเหรอไง?” นัทธีหรี่ตา “หากคุณต้องการไป นั้นก็เชิญเลย ผมไม่รั้งไว้ ผมสามารถเชิญคุณหมอท่านอื่นมาได้ทุกเมื่อ”
“ห๊ะ พิชิตเหรอครับ?” พงศกรยักคิ้ว “เวลานี้คาดว่าเขาคงอยู่ในป่าเก่าแก่เขาลึกแห่งไหนสักแห่งนะครับ เขาเป็นหมอพเนจรไม่ใช่เหรอครับ?”
“ถึงไม่มีเขา ก็ยังมีหมอคนอีก บนโลกนี้ไม่ได้ขาดแคลนหมอที่เก่งกาจเลย” นัทธีกล่าวเสียงเย็นชา
พงศกรยักไหล่ “โอเคครับ ผมกลับลืมฐานะของประธานนัทธีเสียได้ ด้วยฐานะของคุณทำให้คุณสามารถเชิญหมอที่เก่งกาจที่สุดในโลกมาได้จริงๆ”
“เพราะงั้นแล้ว คุณต้องการจะไปไหม?” นัทธีมองพงศกร
พงศกรยิ้มอีกครั้งหนึ่ง “ไม่ไปแน่นอนอยู่แล้วครับ ผมมาที่นี่ไม่ใช่แค่เพราะช่วยเหลือคุณ ที่สำคัญที่สุดคือผมมาช่วยวารุณี เธอเป็นเพื่อนของผม ผมไม่สามารถมองเห็นเธอเป็นอะไรไปได้”
“ในเมื่อคุณบอกว่าเป็นเพื่อนกับเธอ นั้นก่อนหน้านี้คุณปฏิบัติกับเธออย่างไร?” นัทธีจู่ๆ ก็โกรธขึ้นมา พร้อมคว้าคอเสื้อพงศกรขึ้นมาทันที และคำรามด้วยสีหน้ามืดมน
คนคนนี้ แต่ก่อนปากพูดตลอดเวลาว่ารักวารุณี
แต่ผลสุดท้ายล่ะ?ความรักของเขาก็เป็นแบบที่แสดงออกมานั้น ลักพาตัวลูกของคนที่รักจนทำให้เด็กเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้แล้ว ไม่เพียงแต่ไม่รู้จักสำนึกผิด ไม่ยับยั้งตัวเอง แต่กลับยิ่งบ้าคลั่งขึ้นไปอีก แม้กระทั่งทำลายโรงงานของคนที่รัก อีกทั้งยังวางแผนว่าตัวเองเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ก็เพื่อให้คนที่รักกลับมาดูแลและทำให้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...