พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 93

นัทธีในตอนนี้ก็มีสภาพไม่ต่างกัน เมื่อเห็นหญิงสาวในภาพแบบนี้ เขาก็ดึงเธอขึ้นจากพื้น ภายใต้การมองเห็นที่พร่าเบลอ เขาเชยคางของเธอขึ้นมา จากนั้นก็จูบไปที่ปากของเธอ

“อุ๊ป……”วารุณีดวงตาเบิกตากว้างทันที หัวสมองขาวโพลนไปชั่วขณะ

เธอ……เธอถูกจูบปาก?

เมื่อรับรู้ถึงสิ่งนี้ ดวงตาของวารุณีก็ฉายแววความอับอายขึ้นมา

เธอคิดจะผลักนัทธีออก แต่นัทธีกลับเป่าลมเข้าไปที่ปากของเธอ

มือที่ยกขึ้นของเธอก็หยุดค้างทันที และจึงเข้าใจว่า เขาไม่ได้จูบเธอ แต่แค่ต่อลมหายใจให้กับเธอ

นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง !

วารุณีขมวดคิ้วแน่น

อากาศภายในโรงงานถูกก๊าซไนโตรเจนทำลายจนแทบเจือจางไม่เหลือ แล้วเขายังถ่ายอากาศมาให้เธออีก เขาคิดว่าตัวเขาเองอายุยืนยาวมากนักหรือยังไง ?

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ วารุณีก็กัดไปที่ริมฝีปากของนัทธีอย่างแรง เพื่อที่จะให้เขาปล่อยเธอ

แต่นัทธีกลับหยุดไปชั่วขณะ จากนั้นก็ทำตามเดิมต่ออย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังกอดเอวหญิงสาวเอาไว้แน่น เพื่อไม่ให้เธอดิ้นรนขัดขืน

แม้จะมีการเปิดทางเดินอากาศจากเขา แต่เซลล์สมองของวารุณีก็ขาดออกซิเจน และเป็นลมหมดสติไป

ร่างกายของนัทธีก็สั่นสะท้าน ดวงตาที่ลุ่มลึกอยู่ตลอดเวลานั้น ในตอนนี้ก็เริ่มพร่าเบลอและเลื่อนลอย เห็นได้ชัดว่าก็เริ่มที่จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

และในตอนนี้เอง เสียงของปาจรีย์ ก็ดังขึ้นมาจากทางประตู “วารุณี พวกเธออยู่ข้างในหรือเปล่า ?”

สีหน้าของนัทธีตะลึงงัน กัดฟันแล้วอุ้มตัววารุณี เดินซวนเซไปทางประตู และเมื่อมาถึงที่ประตู เขาก็ถีบไปที่ประตู

ปาจรีย์ที่อยู่ทางด้านนอกของประตูก็ตกใจ จากนั้นก็รีบหยิบกุญแจออกมาเพื่อไขเปิดประตูทันที

เมื่อประตูเปิดออก ก็มีกลิ่นเหม็นๆโชยออกมา

ปาจรีย์ทนแทบไม่ไหวคลื่นไส้จนอยากจะอาเจียน “นี่มันอะไร ทำไมถึงได้เหม็นอย่างนี้ ?”

นัทธีไม่ได้สนใจเธอ อุ้มวารุณีไปยังสนามหญ้าด้านนอก แล้ววางเธอลงกับพื้น จากนั้นตัวเขาเองก็ล้มลงข้างๆเธอ สูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปฟอดใหญ่อยู่ซ้ำๆอย่างนั้น

ปาจรีย์เดินเข้ามา“ประธานนัทธีมันเกิดอะไรขึ้น แล้ววารุณีเป็นอะไรไป ?”

เธอชี้ไปยังวารุณีที่อยู่ข้างๆเขา

นัทธียกมือขึ้นเพื่อปิดเปลือกตาตัวเอง แล้วบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างไปอย่างอ่อนแรง

เมื่อปาจรีย์ฟังจบ ใบหน้าซีดเผือด “ แม่เจ้า โหดร้ายเกินไปแล้ว ถึงขั้นต้องการเอาชีวิตพวกคุณ ฉันจะเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้ ”

พูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาทันที

“ไม่ต้อง”นัทธีร้องห้ามเธอเอาไว้ “ก๊าซไนโตรเจนทำให้คนขาดอากาศจนตายได้ แต่หากได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไป ก็จะหายเป็นปรกติเอง”

“เหรอคะ งั้นก็ดีเลย !”เมื่อปาจรีย์ได้ยิน ก็โล่งใจขึ้นมาทันที

นัทธีพักอยู่ชั่วครู่ หัวสมองที่พร่ามัว ก็ค่อยๆฟื้นตัว เขาลุกขึ้นนั่ง แล้วนวดคลึงไปที่หว่างคิ้ว “คุณรู้ได้ยังไงว่าพวกเรายังอยู่ที่นี่?”

“ฉันเดาเอา เพราะอารัณเห็นว่าวารุณียังไม่กลับไป และโทรติดต่อวารุณีไม่ได้ เขาเลยโทรหาฉัน ฉันก็เลยรีบมาตามหาพวกคุณ”ปาจรีย์ตอบกลับ“ยังดีที่ฉันมาได้ทันจังหวะพอดี ไม่อย่างนั้น……”

คำพูดหลังจากนั้น เธอไม่ได้พูดมันต่อ แค่คิดก็รู้สึกกลัวแล้ว

นัทธีพยักหน้ารับ แล้วอุ้มวารุณีขึ้นมาวางร่างของหญิงสาวไปบนรถที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก

จากนั้นเขาก็เปิดไฟฉายของโทรศัพท์มือถือ แล้วเดินไปรอบๆโรงงาน สุดท้ายก็กลับมาพร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก

เมื่อปาจรีย์เห็นอุปกรณ์นั้น ร้องออกมาด้วยความตกใจ “เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ มันมาจากไหนคะ?”

นัทธีไม่ได้ตอบ ดึงเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าอกเสื้อออกมา แล้วห่อเอาอุปกรณ์นั้นไว้ โยนมันให้เธอ “คุณให้คนเอาไปตรวจซะ ว่าบนนั้นมีลายนิ้วมือของใครอยู่บ้าง ”

“ได้ค่ะ”ปาจรีย์รีบพยักหน้าให้อย่างร้อนรน

จากนั้นนัทธีก็ขึ้นรถ แล้วขับออกมุ่งหน้าไปที่คอนโด

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่วารุณีตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่โรงงาน แต่อยู่บนเตียงอุ่นๆ เธอก็ต้องประหลาดใจ“ฉันยังไม่ตาย ?”

“เหลวไหล เธอจะตายได้ยังไง หากไม่ใช่เพราะฉันไปช่วยเอาไว้ได้ทัน ตอนนี้เธอก็คงอยู่ตรงเมนเผาศพแล้ว” ปาจรีย์เอนกายพิงอยู่ตรงประตู แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์

วารุณีเงยหน้ามองเธอ “ปาจรีย์?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ