หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง นัทธีก็เริ่มลืมตาขึ้น
ทันทีที่ตื่นขึ้น เขาก็หันมองภรรยาที่อยู่ข้างกาย
ภรรยายังนอนอยู่ นั่นหมายความว่ายังไม่ตื่น
นัทธีลูบแก้มแดงๆ ของภรรยาด้วยความอ่อนโยน หลังจากลูบเสร็จสักพัก จึงตัดใจเอามือออก ดึงผ้าห่มขึ้น แล้วเดินไปที่ห้องน้ำ
หลังอาบน้ำจนเสร็จ ฟ้าก็สว่าง
นัทธีเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วค่อยๆ ออกไปจากห้อง
ตอนนี้ ภายในห้องรับแขกของคฤหาสน์ ก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งมายืนอยู่เป็นที่เรียบร้อย ทั้งหมดคือกลุ่มบอร์ดี้การ์ดเดียวกันหมด
แน่นอน มารุตก็อยู่ในนั้นด้วยเหมือนกัน แล้วยังมีพงศกรที่นั่งอยู่บนโซฟา
เวลานี้พงศกรใส่ชุดสีขาวอยู่บ้าน กำลังนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มชาตอนเช้าอย่างนิ่งเฉย
เขาชักหวงชาของนัทธีแล้วสิ มีแต่ชาล้ำค่าทั้งนั้น
เขามีปัญญาซื้อ แต่ไม่ได้ซื้อได้เหมือนกับคนมีเงินแบบนัทธี ที่มีพร้อมตลอด
ดังนั้น ทุกครั้งที่เขาดื่ม จึงดื่มแบบประหยัด
แต่การอยู่ที่นี่มันต่างกันออกไป ที่เขาดื่มคือชาของนัทธี ไม่ใช่ของตัวเอง เขาจึงไม่รู้สึกเจ็บใจเลยสักนิด ดังนั้นจึงไม่ต้องดื่มแบบประหยัด
ในเมื่อได้มาแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องดื่มแบบจัดเต็มหน่อย ท้ายสุดจะมีโอกาสที่สองอีกหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ประธานนัทธีครับ” ตอนนี้ มารุตที่ก้มดูนาฬิกาอยู่ตลอดเวลา ทันใดนั้นก็ได้เห็นนัทธีที่กำลังลงมา จึงรีบทักทายนัทธี
บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังเขา หลังจากที่ได้ยิน ก็รีบยืนตรง แล้วตะโกนขึ้นมาเป็นเสียงเดียวกัน” ประธานนัทธีครับ”
ในทันที ฉากสั่นสะท้านก็เกิดขึ้น
แต่มีอยู่หนึ่งคน ที่แตกขบวน นั่นก็คือพงศกร
พงศกรไม่ได้อยู่ใต้การบังคับบัญชาของนัทธี จึงไม่ต้องทำตามคนพวกนี้ ที่เมื่อเห็นว่าเขามาแล้ว แล้วต้องทักทาย
ในแขนของนัทธีกอดผ้าอ้อมอยู่ มืออีกข้างจับราวบันไดแล้วค่อยๆ เดินลงมา ด้านหลังยังมีพี่นันทาที่ถือของใช้เด็กทารกตามมา
นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย ให้กับคำทักทายของคนกลุ่มนี้ เพื่อเป็นการตอบรับ
ไม่ช้านัทธีอุ้มสุขใจที่กำลังหลับอยู่มาตรงหน้ามารุต เสียงเข้มถาม “ทั้งหมดเตรียมพร้อมหรือยัง?”
“ไม่ต้องห่วงครับประธานนัทธี ทั้งหมดเรียบร้อยดีครับ” มารุตพยักหน้า
นัทธีอืมเพื่อตอบรับ ไม่ได้ถามอย่างอื่นต่อ แต่ก้มมองเบบี๋ในอ้อมกอดแทน
เด็กน้อยหลับสนิท มือเล็กทั้งสองข้างประกบกันอยู่ตรงหน้าอกของเขา ขยับเป็นครั้งคราว ปากเล็กๆ ขยับอยู่บ่อยๆ ราวกับว่าต้องการที่จะพูด สายตาที่นัทธีที่มองอยู่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน หัวใจแทบจะละลาย
จากนั้น เขาก็เก็บสายตาความรักของความเป็นพ่อ แล้วส่งสุขใจไปให้กับมารุต “จัดการส่งลูกไปอยู่กับอารัณกับไอริณให้อย่างปลอดภัย”
“ครับ ผมจะจัดการแน่นอน” มารุตยื่นสองมือไปสุขใจ กอดอุ้มไว้อย่างระมัดระวัง
นัทธีมองไปที่อ้อมแขนของมารุต เด็กน้อยที่ยังคงหลับไม่ตื่น ก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ หลังจากนั้นก็ยื่นมือไปจิ้มที่จมูกโด่งๆ ของเด็กน้อย “เด็กน้อยไร้เดียงสา เปลี่ยนคนแล้วยังไม่รู้จักลืมตาขึ้นมาดู จากนี้ไปคงถูกลักพาตัวไปจริงๆ
มารุตหัวเราะแหะๆ อย่างซื่อตรง “ประธานนัทธีครับ พูดแบบนี้ไม่ได้นะครับ คุณชายน้อยสุขใจคุ้นกลิ่นของผม เลยรู้ว่าผมอุ้มเขาอยู่ ไม่ใช่คนแปลกหน้าน่ะครับ ถ้าหากว่าเป็นคนแปลกหน้าล่ะก็ คุณชายน้อยสุขใจจะต้องลืมตาขึ้นมาดูแน่นอนครับ”
“ก็หวังว่าอย่างงั้น เอาล่ะ สายแล้ว ไปกันเถอะ ถึงแล้วรีบติดต่อฉันมานะ” นัทธีมองนาฬิกา แล้วโบกมือ
มารุตเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า แล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง “ครับ ประธานนัทธี”
พูดจบ เขาก็อุ้มสุขใจ พร้อมกับพี่นันทาและบอดี้การ์ดออกไปทางประตูคฤหาสน์
บอดี้การ์ดพวกนี้ ทั้งหมดเป็นของนัทธีจัดการมา เพื่อปกป้องสุขใจ ให้พาสุขใจไปส่งที่หมายอย่างปลอดภัย
ทั้งยังจัดการให้มารุตเป็นคนรับผิดชอบครั้งนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...