“ถึงยังไง ตั้งแต่พวกเธอแต่งงานกันมา นี่เป็นรางวัลใหญ่ที่มีค่ามากที่สุดครั้งแรกของเธอเลยนะ ถ้าไม่ทิ้งที่ระลึกไว้หน่อย ก็เสียดายแย่เลยสิ”
เมื่อวารุณีได้ยินที่ลีน่าพูด ก็เงยหน้า ยิ้มแล้วพูด “เขามาแน่นอนจ้ะ แต่ช้าหน่อย น่าจะตอนที่ฉันขึ้นเวทีคงมาถึงพอดี”
“แบบนี้นี่เอง” ลีน่าพยักหน้า “งั้นก็โอเค แต่ก็อย่างที่ฉันพูด งานรับรางวัลของภรรยาสุดที่รัก ประธานนัทธีจะพลาดได้ยังไงกัน”
“เมื่อกี้เธอยังถามอยู่ไม่ใช่เหรอว่าเขาจะมาหรือไม่มา พอมาตอนนี้ยังบอกอีกว่าเขาจะพลาดได้ไง นาน่า ฉันพบว่าเธอเนี่ยหักมุมเก่งมากนะ”
วารุณีหัวเราะแล้วมองที่เธอ
ลีน่าหัวเราะแหะๆ “ไอหย๋า ก็คนเนอะ ก็ต้องเรียนรู้เรื่องแบบนี้สิ ขอเพียงแค่เป็นทริคนี้ ไม่ว่าจะอยู่แวววงไหนก็อยู่ได้ อยู่เป็น”
“ก็จริงนั่นแหละ” วารุณีไม่ปฏิเสธ
ตากลมของลีน่ากลอกไปมา ก็นึกอะไรได้บางอย่าง ขยับเข้ามาใกล้เธอ” ใช่แล้ววารุณี วันเธอตื่นตั้งเที่ยงแหนะ แสดงว่าของขวัญที่ฉันให้ เมื่อคืนพวกเธอใช้กันแล้วล่ะสิ เป็นไง ผลลัพธ์ดีหรือเปล่า อารมณ์ของเธอกับประธานนัทธีดีดเลยทันทีหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ใบหน้าของวารุณีก็ระเบิดขึ้น กลางเป็นหยดเลือดสีแดงทันที หลังจากนั้นก็ตีลีน่าอย่างทั้งอายทั้งโกรธ “เธอยังกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีก ฉันลืมไปแล้วแท้ๆ ฉันก็ต้องพูดถึงสิ ในเมื่อพูดถึงแล้ว งั้นก็ดี งั้นฉันจะได้จัดการเธอ”
พูดอยู่ ทั้งสองมือของวารุณีก็กำเข้าที่คอของลีน่า แล้วเขย่าอย่างแรง
ลีน่าถูกเธอเขย่าจนวิงเวียนไปทั้งตัว จึงรีบขอให้เธอยกโทษให้ “วารุณี……วารุณีเธอใจเย็นก่อน เลิกเขย่าได้แล้ว ฉันเวียนหัว เดี๋ยวได้อ้วกกันพอดี”
“งั้นเธอก็สมควรแล้วล่ะ!” วารุณีพ่นเสียงออกทางจมูก
ถึงแม้ว่าปากเธอจะพูดแบบนี้ แต่ก็ปล่อยลีน่าไปด้วยความใจอ่อน “ฉันอุตส่าห์ตั้งหน้าตั้งตารอของขวัญจากเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า สิ่งที่เธอส่งมาจะเป็นของพวกนั้น”
มองไปที่แก้มเล็กแดงๆ ของวารุณี ลีน่าก็หัวเราะแหะๆ “ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ เธอกับประธานนัทธีเพิ่งจะรวมตัวกันหลังสงครามเย็น ก็ต้องกระตุ้นอารมณ์หน่อย ฉันคิดอยู่ตั้งนาน ถึงได้ตัดสินใจซื้อนี่มา นี่คือที่ส่งต่ออารมณ์ได้โดยตรงมากที่สุด นี่ก็เพราะฉันหวังดีกับพวกเธอนะ เธอไม่ขอบคุณฉันยังไม่พอ ยังมาบีบคอฉันอีก”
“เธอยังจะมาพูดอีก” วารุณีค้อนเธอ “เธอรู้มั้ยว่าเมื่อวานตอนที่ฉันเห็น อายจนแทบตาย สรุป เธอห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก ไม่งั้นฉันจะไม่หยุด ได้ยินมั้ย”
เธอชี้ลีน่าแล้วสั่งอย่างโหดเหี้ยม
ลีน่าแลบลิ้น ตอบอย่างไม่เต็มใจ “โอเคๆๆ ฉันรู้แล้ว ไม่พูดก็ไม่พูด”
“รู้ก็ดี ไม่อย่างนั้นตอนเธอแต่งงาน ฉันก็จะส่งไอ้นี่ให้เธอเหมือนกัน” วารุณีใช้อำนาจ
ตอนแรกที่คิดว่าลีน่าจะอาย แล้วรีบปฏิเสธ ใครจะรู้ว่าดวงตาเธอกลับเป็นประกาย พยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ดีเลยๆ”
“……” วารุณีเห็นท่าทางเธอแบบนี้ จึงหมดคำพูดทันที
ท้ายสุด เธอจะคุยกับคนไร้ยางอายได้ไงกัน?
ส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด วารุณีขี้เกียจสนใจเธอแล้ว
ยิ่งให้ความสนใจเธอ เธอก็จะยิ่งไม่สำรวม ไม่งั้นเธอจะพูดเรื่องทำให้คนอื่นหน้าแดงแบบนี้ได้ยังไง
คิดอยู่ วารุณีก็ก้มหน้า แล้วดูโทรศัพท์ต่อ
ลีน่ารู้ว่าเธอไม่อยากสนใจเธอ แล้วก็ไม่โกรธด้วย เพราะเธอเองก็ชัดเจน ว่าเพื่อนรักน่ะหน้าบาง ไม่เหมือนเธอ
นิสัยตัวเองซุ่มซ่ามไม่สำรวม ตัวเธอเองก็รู้ดี เพื่อนรักก็รู้
เพื่อนรักกลัวว่าเธอจะพูดเรื่องไม่สุภาพต่อ จึงขี้เกียจสนใจเธอ เธอเข้าใจดี
ไม่ช้า ก็ถึงที่ทำการแข่งขัน ที่นี่คนเยอะแยะวุ่นวาย ผู้สื่อข่าวแต่ละสื่อใหญ่ต่างๆ แทบจะยึดครองสถานที่แข่งขัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...