พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 95

“ประธานนัทธี !”เมื่อเห็นเขา แววตาของวารุณีก็อดที่จะเผยความประหลาดใจไม่ได้

เมื่อนัทธีถูกจับได้ อารมณ์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ผมเอง”

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ ?”วารุณีถามออกไปด้วยความสงสัย

นัทธีพาดมือไปยังขอบหน้าต่าง “มารับคุณ”

“มารับฉัน?”วารุณีกะพริบตาถี่ๆด้วยความประหลาดใจ

นัทธีพยักหน้ารับ “ผมได้ยินคุณปาจรีย์บอกว่า คุณมาที่บ้านตระกูลศรีสุขคํา ผมกลัวว่าคนที่บ้านตระกูลศรีสุขคําจะทำอะไรคุณ เลยตามมาดู”

เมื่อได้ยินดังนั้น ในใจของวารุณีก็รู้สึกอบอุ่น“อ๋ออย่างนี้นี่เอง วางใจเถอะค่ะ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรฉันเลย”

“งั้นก็ดีแล้ว ขึ้นรถเถอะ วันนี้นางแบบจะซ้อมใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย พรุ่งนี้จะเปิดตัวแล้ว ยุ่งกันมาก!”นัทธีเปิดประตูรถด้านข้างคนขับให้เธอ

วารุณีก็ไม่ได้มีท่าทีเกรงใจอะไรเขา เดินอ้อมไปทางหน้ารถแล้วขึ้นรถไป

เมื่อมาถึงที่แฟชั่นพาวิลเลี่ยน วารุณีก็แยกตัวกับนัทธี เธอไปยังหลังเวทีเพื่อพูดคุยรายละเอียดกับเหล่านางแบบเรื่องการเดินแบบในวันพรุ่งนี้

ส่วนนัทธีก็ไปอยู่ตรงบริเวณเวทีเดินแบบ ฟังพนักงานรายงานความปลอดภัยของสถานที่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุในวันพรุ่งนี้

ในตอนนี้เอง มารุตก็มายืนอยู่ข้างๆเขา “ท่านประธานครับ”

นัทธีไม่ได้หันกลับมามอง ดวงตายังคงจับจ้องอยู่บนเวทีแคทวอล์ค “เช็กละเอียดแล้ว?”

“เช็กละเอียดแล้วครับ นายสุภัทรกำลังจะเทขายหุ้นที่ถือครอบครองอยู่ครับ”มารุตพยักหน้ารับ

นัทธียิ้มเยาะ “เขาไม่มีเงิน หากไม่ขายหุ้นทิ้ง จะจ่ายให้วารุณียังไง เขาปล่อยขายเท่าไหร่?”

“ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนครับ แต่คิดว่าราคาอาจจะไม่สูงมาก เพราะบริษัทศรีสุขคํากรุ๊ปในตอนนี้อาจจะล้มละลายได้ทุกเมื่อ หากขายในราคาสูงเกินไป หุ้นของเขาก็จะขายไม่ออก”มารุตกล่าว

นัทธีปรับเปลี่ยนท่านั่งของเขา“ งั้นก็กดราคาเขาอีก กดให้เหลือยี่สิบล้าน ให้พอที่จะชดใช้ให้กับวารุณี”

“ถ้าทำแบบนั้น ก็เท่ากับหุ้นของเขาต้องเสียไปเปล่าๆ และหากไม่มีหุ้นเหล่านั้น อำนาจที่เขามีอยู่ในบริษัทศรีสุขคํากรุ๊ปก็จะลดลงไปอีกมาก ไม่แน่ว่าอาจจะถูกกรรมการบอร์ดบริหาร ร่วมกันขับไล่ออกจากตำแหน่งประธานกรรมการก็เป็นได้” มารุตพูดแล้วยกยิ้ม

นัยน์ตาของนัทธีเต็มไปด้วยความเย็นชา “ฉันต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น”

หลายปีมานี้ นายสุภัทรได้ใช้อิทธิพลอำนาจของเขาเพื่อหาผลประโยชน์ เมื่อก่อนเพราะเห็นแก่พิชญา เขาจำต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่ตอนนี้นายสุภัทรก็ยิ่งจะเอาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้ยังแอบอ้างชื่อของเขา วางแผนไปกู้เงินก้อนโตจากธนาคาร

นี่เป็นสิ่งที่เขารับไม่ได้ ถือว่าใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ สั่งสอนนายสุภัทรแล้วกัน

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ”มารุตพูดจบ ก็หันหลังเดินจากไป

นัทธียังคงให้ความสนใจกับเวทีแคทวอล์คอยู่

ผ่านไปไม่นาน เสียงตะโกนหนึ่งก็ดังขึ้น ผู้มีหน้าที่ที่อยู่บนเวทีก็ลงจากเวทีไป หลังจากนั้น ไฟในพื้นที่บริเวณนั้นก็มืดลง ซึ่งก็หมายความว่าการซ้อมใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

ไม่นาน เสียงเพลงก็ดังขึ้น บุคคลรูปร่างสูงยาวเข่าดี ออร่าเต็มไปด้วยความเป็นนางแบบ สวมใส่เสื้อผ้าชุดหรูหราเดินออกมา

นัทธีนั่งอยู่แถวแรกของเวทีแคทวอล์ค มือจับปลายคางแล้วดูการซ้อมอย่างจริงจัง

แม้ใบหน้าของเขาจะไม่ได้แสดงอาการอะไร แต่ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย เห็นได้ชัดว่าพอใจกับการซ้อมในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

การซ้อมกินเวลาอยู่นาน เสื้อผ้าทุกชุดที่ถูกสวมใส่เอามาโชว์ นัทธีก็จะจดลงบนสมุดหน้าตักของเขาทุกครั้ง

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป นางแบบคนสุดท้ายเดินเสร็จ วารุณีก็ปรากฏตัว

เธอปรากฏตัวในฐานะของนักออกแบบ ยืนอยู่กลางเวที สองมือประสานกัน โค้งคำนับให้กับผู้ชมที่อยู่ด้านล่าง

นัทธีวางสมุดบันทึกลงไว้ด้านข้างแล้วลุกยืนขึ้น ปรบมือให้เสียงแผ่วเบา

เมื่อวารุณีได้ยิน หญิงสาวยกยิ้มแล้วเดินเข้าไปหาเขา “ประธานนัทธี ดูการซ้อมแล้ว รู้สึกยังไงบ้างคะ?”

“ใช้ได้”นัทธีวางมือลง “แต่มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้”

“เหรอคะ?ประธานนัทธีมีอะไรจะชี้แนะไหมคะ?”วารุณีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

นัทธีตอบรับคำ“เมื่อครู่ผมได้จดบันทึกเอาไว้แล้ว คุณลองเอาไปดู”

“ได้ค่ะ ฉันจะลงไปดู”พูดจบ วารุณีก็คุกเข่าลงเล็กน้อย เตรียมจะกระโดดลงไปจากเวที

เมื่อนัทธีเห็น ก็ย่นคิ้ว แล้วยื่นแขนไปทางเธอ

วารุณีมองไปที่แขนของเขาอย่างไม่เข้าใจ

นัทธีเม้มปาก “คุณจะลงมาไม่ใช่เหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ