พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ นิยาย บท 136

ตอนที่ 136 ยิ่งปีนขึ้นสูงตกลงมายิ่งเจ็บ

ตอนนี้แผนการของจางอวี่โหร่วทุกวางเอาไว้เกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเสียนเฟย ซูเฟย หรือองค์ชายรอง และตำหนักหลิน นางก็ได้ติดต่อไปหมดแล้ว

คนพวกนี้มีทั้งสนมรักในราชวัง มีทั้งองค์ชายที่สูงส่ง และยังมีขุนนางชั้นสูงในจาว แต่กลับเชื่อฟังการควบคุมจากเด็กสาวตัวน้อยอย่างจางอวี่โหร่ว ถ้าหากว่าผู้คนรอบข้างรู้เรื่องนี้เข้า ก็คงจะรู้สึกไม่รู้จะพูดอะไรทั้งนั้น

ไม่ใช่เพียงพวกเขา ครั้งนี้ตระกูลจางก็อยู่ในแผนการของนาง และจะต้องแสดงผลที่แสนสำคัญออกมาด้วย

นางได้พูดคุยกับท่านปู่และท่านพ่อของตัวเองให้พยายามเก็บคมของตัวเองในตำหนักจาวให้ได้มากที่สุด

ไม่เพียงแต่เก็บคม แต่ยังพูดได้ว่ายอมถอยให้ผู้อื่นด้วย หลังจากนั้นความภาคภูมิใจและความสบายของตำหนักเฉินกั๋วกงจะได้ปรากฏออกมาชัด

พวกคนในตำหนักจาวนั้นส่วนมากก็เป็นนายที่เมื่อเห็นลมก็เคลื่อนเรือ ก่อนหน้านี้เห็นว่าตระกูลจางมีอำนาจ ดังนั้นถึงได้ทยอยกันมาเข้าร่วม

ตอนนี้เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเฉินกั๋วกงกำลังจะกลายเป็นชายาขององค์รัชทายาท ตำหนักเฉินกั๋วกงยังได้รับความสำคัญและความเชื่อถือจากฮ่องเต้ ดังนั้นจึงเริ่มที่จะเคลื่อนย้ายฝั่งไปหาเฉินกั๋วกงตามผลประโยชน์กันแล้ว

การใช้ประโยชน์จากวิธีนี้ทำให้สามารถแยกออกได้ว่า ใครจริงใจกับตระกูลจาง หรือใครเป็นเพียงนักฉกฉวยโอกาส

และความจริงก็ได้ยืนยันว่า วิธีการนี้ของจางอวี่โหร่วเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

เพราะว่าภายในเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน อำนาจภายในตำหนักจาวก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

ก่อนหน้านี้ตระกูลจางครอบครองอำนาจปกคลุมไปทั่ว แม้ว่าเฉินกั๋วกงจะมีต่ำแหน่งที่สูงในตำหนักจาว แต่กลับไม่มีคุณสมบัติสามารถเทียบเคียงตระกูลจางได้

แต่ว่าในตอนนี้พวกคนน้อยที่มองเพียงประโยชน์ตรงหน้าก็เริ่มเคลื่อนย้ายไปทางฝั่งเฉินกั๋วกงกันแล้ว หรือแม้แต่ขุนนางที่ก่อนหน้าอาศัยพึ่งพิงตระกูลจางก็ยังหันหลังให้

สำหรับคนที่ไม่เข้าในสถานการณ์อย่างกระจ่าง ตอนนี้ลำดับของตระกูลจางได้รับการโจมตีและคุกคามอย่างหนักหน่วง และไม่อาจจะสามารถกลับไปประกายได้อย่างก่อนหน้าอีกแล้ว อีกทั้งยังอาจจะสามารถพังทลายได้ แต่ว่าทั้งหมดนี้กลับอยู่ในการควบคุมของจางอวี่โหร่วทั้งหมด

ตอนนี้ทุกๆ วันของตำหนักเฉินกั๋วกงเป็นดั่งตลาด ขุนนางที่เข้าไปเยี่ยมเยียน และคนที่เข้าไปมอบของขวัญถามไถ่มีมากมายจนนับไม่ถ้วน ยิ่งนานเข้าเฉินกั๋วกงก็ยิ่งผยองขึ้นในทุกที เมื่อเห็นว่าใครๆ ก็ยอมโอนอ่อนให้ แม้แต่เมื่อพบเจอกับเป่ยจื่อห้าว เขาก็ไม่ได้นอบน้อมอย่างเมื่อก่อนแล้ว

......

“คุณหนู ท่านดูพวกคนชั้นต่ำที่มองเพียงประโยชน์ตรงหน้าเหล่านี้พูดจาไม่ดีลับหลังเกินไปแล้ว จะต้องถึงคราวที่พวกเขาคร่ำครวญแน่!” เสี่ยวเฟิงที่อยู่ข้างกายพูดออกมาด้วยความโมโห

เด็กสาวคนนี้เพียงออกไปเดินด้านนอกกับผู้ดูแลบ้าน ระหว่างทางได้ยินเรื่องเล่าลือที่ไม่ดีต่อตระกูลจางมากมาย ดังนั้นถึงได้กลับมาแจ้งต่อจางอวี่โหร่ว

นางอารมณ์เสียไม่น้อย แต่ว่าจางอวี่โหร่วกลับมีท่าทางราวกับรับรู้อยู่ก่อนแล้ว และไม่ได้ถูกเรื่องนี้รบกวนเลยแม้แต่น้อย

“คุณหนู ท่านไม่โมโหหรือ? ทำไมพวกชาวบ้านเหล่านั้นถึงได้พูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้อย่างไร้สาเหตุ จะต้องเป็นเพราะพวกเฉินกั๋วกงตั้งใจปล่อยออกมาแน่”

จางอวี่โหร่วพูดออกมาเรียบๆ : “มันก็เป็นเพียงคำเล่าลือปากตลาดเท่านั้น หรือว่าที่ผ่านมาข่าวลือใส่ร้ายพวกเรามีน้อยหรือ? ใครสามารถหัวเราะได้ในตอนสุดท้าย ผู้นั้นต่างหากจึงจะเป็นผู้ที่ชนะ ให้พวกเขาได้ภาคภูมิใจกันไปก่อนเถอะ ยิ่งปีนขึ้นไปสูงมากเท่าใด ตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น ให้พวกเขาคิดว่าตัวเองขึ้นไปถึงจุดสูงสุด จากนั้นก็ตกลงมาจากจุดสูงนั่น เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะเข้าใจแล้วว่าอะไรที่เพียงว่า การหาเรื่องใส่ตัว!”

ในระหว่างที่นายบ่าวทั้งสองกำลงพูดคุยกันอยู่นั้นก็ไม่ได้รู้สึกเลยว่าด้านหลังของทั้งคู่มีร่างโปร่งในชุดขาวกำลังเข้ามาใกล้ และยังได้ยินเรื่องที่พวกนางคุยกันทั้งหมด ภายในสายตาของเขาประกายความล้ำลึกขึ้นมา

ปีนขึ้นไปยิ่งสูง ตกลงมายิ่งเจ็บหรือ? คำพูดนี้ฟังดูน่าสนใจ ดูเหมือนว่านางจะวางแผนเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

เขาจะไม่รู้ถึงอำนาจภายในตำหนักจาวในช่วงนี้ รวมทั้งข่าวลือในเมืองหลวงเหล่านั้นได้อย่างไร?

เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีผลดีต่อตระกูลจางทางด้านอำนาจทุกชนิด และก็เป็นช่วงเวลาที่จักรพรรดิกังวลใจ ผู้น้อยไม่เชื่อฟัง

แต่ว่าถ้าหากถูกคนรู้เข้าว่า สถานการณ์ที่ “ไม่สู้ดี” ของตระกูลจางในตอนนี้ต่างก็เป็นเพราะเด็กสาวตัวเล็กๆ ตรงหน้าสร้างขึ้น มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะสามารถจินตนาการได้เลย

แม้ว่าเขาจะรู้มาตลอดว่าจางอวี่โหร่วเป็นหญิงสาวที่ฉลาดหลักแหลมมาก แต่นางก็ยังคงทำให้เขารู้สึกตกใจได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

ดูเหมือนว่าตัวของนางจะเต็มไปด้วยความลับมากมายที่ผู้คนไม่อาจจะเข้าไปตามหา ยิ่งไม่อาจคาดเดาได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้คนลุ่มหลงมากขึ้นเท่านั้น

ราชวังหลัง ตำหนักจาว ทั้งหมดถูกนางทำให้วุ่นวายจากภายใน และตกลงสู่กำมือของนาง

แม้ว่าจะให้เขาเป็นคนลงมือทำ เขาก็ยังอาจจะทำไม่ได้ดีเท่านาง

อีกไม่นาน ใต้ฟ้าหนานหชู่ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว เขาตั้งตารอภาพนั้นให้มาถึงเป็นอย่างมาก

เมื่อ “มุมกำแพง” นี้ลอบฟังมาไม่น้อยแล้ว เขาก็ตั้งใจไอออกมาหนักๆ เพื่อย้ำเตือนนางถึงการมีอยู่ของตัวเอง

จางอวี่โหร่วหันหน้ากลับมา และได้เห็นร่างสูงโปร่งในชุดแขนกว้างสีขาวยืนอยู่ตรงนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เพิ่งมาถึง แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนแล้ว

“ทำความเคารพท่านอ๋อง!” เสี่ยวเฟิงรีบทำการเคารพเขาในทันที

นางสามารถวุ่นวาย หัวเราะคิกคักกับจางอวี๋โหร่วได้ราวกับพี่สาวน้องสาวหยอกล้อกัน แต่ว่าต่อหน้าอ๋องชิงผิง นางก็ยังคงต้องทำไปตามกฎเกณฑ์

“เป็นอะไร พอข้ามา พวกเจ้าก็ไม่พูดคุยกันแล้ว อีกทั้งยังเป็นระเบียบเช่นนี้อีก ข้ามาทำลายความสนุกของพวกเจ้าหรือไม่?”

“ใช่แล้ว หากท่านรู้ก็ควรที่จะกลับไป จะเข้ามารบกวนทำไมกัน?”

จางอวี่โหร่วอยู่กับเขาจนรู้สึกสงบและมั่นใจในตัวเขาแล้ว ไม่ได้มีอะไรฉุดรั้งเอาไว้ และเต็มไปด้วยท่าทางราวกับสามีภรรยาที่รักใคร่กันดีทั่วไป

ตัวนางเป็นภรรยา จะพูดจาหยอกล้อกับสามีของตนเช่นนี้ มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไปหรือ?

ชายหนุ่มย่างก้าวเข้ามา ก่อนจะคว้าเข้าที่เอวของนาง จากนั้นก็กอดนางเข้าไปในอ้อมอกหยอกล้อโดยไม่สนคนรอบข้าง

“วันนี้ข้าตั้งใจรีบจัดการงานให้เสร็จเป็นพิเศษ อยากจะกลับมาอยู่กับชายาให้นานๆ หน่อย แต่กลับไม่คิดเลยว่าชายาจะเย็นชาต่อกันเช่นนี้ ข้าเสียใจยิ่งนัก!”

น้ำเสียงของเขาฟังดูราวกับได้รับการละเลยอันใหญ่หลวง และแสดงท่าทีออกมาราวกับง้องอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ