ตอนที่42 ศัตรูความรักพบกันย่อมอิจฉาตาร้อนเป็นธรรมดา
ในช่วงพักฟื้นอาการบาดเจ็บไม่กี่วันนี้ จางยวี่โหร่วก็เริ่มใคร่ครวญวางแผนที่จะดำเนินต่อไป
ตามสิ่งที่นางได้รู้เรื่องราวมาในภพก่อน เป่ยจื่อห้าวแอบฝึกกองกำลังทหารกองหนึ่งอย่างลับ ๆ ซึ่งได้ซุกซ่อนไว้ในที่ที่ไม่มีใครรู้สักคน
ในเมื่อแรกเริ่มเขาสามารถขึ้นมาสืบทอดราชบัลลังก์ได้อย่างราบรื่น ไม่เพียงแต่พึ่งพาการสนับสนุนของผู้อื่นอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าในมือเขาไม่มีพลังอำนาจสักนิด ต่อให้ได้ขึ้นครองราชบัลลังก์จริงแล้วในที่สุดก็ยังต้องถูกคนจูงควบคุม จนในที่สุดต้องกลายเป็นหุ่นเชิดตัวหนึ่ง เป่ยจื่อห้าวต้องไม่ยินยอมให้ตนเองต้องตกเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นแน่นอน
องค์ชายสามที่ร่ำลือกันว่า ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายมากที่สุด ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างอ่อนโยนมีมารยาทสุภาพจริงใจ มีใครอีกเล่าที่สามารถรู้ถึงหน้าตาแท้จริงซึ่งซ่อนอยู่หลังภาพเหล่านี้ได้หรือ?
จางยวี่โหร่วคิดใคร่ครวญเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนคราหนึ่ง เพราะเรื่องราวพัวพันเกี่ยวข้องสำคัญมาก จึงต้องกระทำอย่างระมัดระวัง
นางไม่ได้คิดจะบอกผู้คนในวงศ์ตระกูลจาง ถ้าหากให้ตระกูลจางเปิดโปงเรื่องนี้ ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดผลบั้นปลายที่ยากจะจินตนาการได้ ฮองเต้องค์ปัจจุบันทรงรักเมตตาต่อองค์ชายธิดา จึงอาจจะทรงกระทำสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลจางได้ เพราะปกป้องเป่ยจื่อห้าว
ถ้าเช่นนั้น เรื่องนี้มอบให้ผู้ใดไปทำจึงจะเหมาะสมที่สุดน่ะ?
คิดไปคิดมา นางก็ได้คิดไปถึงเงาหลังของผู้ที่ใส่หน้ากากเขี้ยวหมาป่าซึ่งน่าสะพรึงกลัวคนนั้น พลันเกิดประกายสุกใสเล็กน้อยแวบผ่านในดวงตาไป
ถึงยังไงก็เขารู้ว่านางไม่เหมาะกับเป่ยจื่อห้าวตั้งแต่แรก ยิ่งกว่านั้นยังได้ช่วยนางมาอย่างลับ ๆ หลายครั้ง ที่สำคัญที่สุด ในมือเขามีอำนาจทางทหารซึ่งอาจเป็นรากฐานการดำรงชีวิตของประเทศชาติหนึ่ง เรื่องนี้มอบให้เขาไปต้องไม่ผิดพลาดอย่างเด็ดขาดแล้ว
ยิ่งกว่านั้น เป่ยจื่อห้าวใจคอโหดเหี้ยมทะเยอทะยาน จิตใจอำมหิตลงมือดุร้าย ถ้าให้เขาสืบต่อราชบัลลังก์จริง เป็นไปได้หรือที่จะยอมรับละเว้นเขาได้? ต่อให้เขาเป็นชิงผินอ๋องแท้ ๆ ก็ต้องประสบการณ์ลงมือที่อำมหิตของเขา ตระกูลจางในภพก่อนมิใช่เป็นตัวอย่างที่ดีมากหรอกหรือ?
หันยี่ฉีเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง ขอเพียงให้เขาเข้าใจในจุดนี้เล็กน้อย เช่นนั้นทุกสิ่งล้วนไม่เป็นปัญหาแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ จางยวี่โหร่วก็ลุกขึ้นและเดินออกไปนอกประตู
“รั่วสุ่ย เตรียมเกี้ยว”
...
เวลานี้ มีหญิงสาวชุดสีฟ้าสดใสมีเสน่ห์ยืนอยู่คนหนึ่งในสวนดอกไม้หลังพระตำหนักชิงผินอ๋อง
มองไปปราดเดียวก็รู้สึกว่ามีชีวิตชีวา สวยงามหรูหรากระตือรือร้น ดวงตาคู่โตที่สวยงามส่องประกายระยิบระยับด้วยพลังจิตที่เคลื่อนไหวและมั่นใจในตนเอง
“พี่ชาย เจ้ารั้งข้าไว้ทำอะไรน่ะ ข้าได้ออกไปข้างนอกเป็นเดือนแล้ว ตอนนี้ถึงได้กลับมาข้างกายท่านอ๋องอย่างยากลำบาก ข้าอยากจะพบเขาโดยเร็วอ่า” มองดูชายหนุ่มหล่อเหลาสะอาดหมดจดชุดดำที่รั้งนางไว้ตรงหน้า หญิงสาวโกรธจนกระทืบเท้ากล่าวพลาง
“เย่นอิ่ง เจ้าอย่าเอาแต่ใจ ขณะนี้ท่านอ๋องกำลังอยู่ในห้องทรงพระอักษร สนทนาอภิปรายถึงเรื่องที่สำคัญ ไม่สะดวกให้รบกวน”
เย่นอิ่งได้ยินทันที ก็บุ้ยปากน้อยอย่างไม่พอใจขึ้นมา “เจ้าพูดจาภาษาอะไรนี้ เราเป็นคนสนิทของเขา เป็นเพราะห่วงใยกังวลเขา หรือว่าท่านอ๋องมีอะไรที่ไม่ไว้ใจเราอีกหรือ?”
“แต่ว่า...” เย่นหลินยังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกเย่นอิ่งขัดจังหวะโดยตรง
“ไม่มีแต่ว่า เจ้ารีบหลีกทาง ข้าจะไปพบท่านอ๋อง” ในที่สุดนางก็ไม่อาจทนได้ผลักดันมือของเขาออกไป แล้วบุกตรงเข้าไปที่สวนดอกไม้ด้านหลัง มุ่งตรงไปที่ห้องทรงพระอักษรของพระตำหนัก
เย่นหลินรู้สึกจนใจมาก นี่เป็นพระบัญชาของท่านอ๋องอ่า ถึงแม้ว่านางเป็นน้องสาวของตนเอง แต่พระบัญชาของท่านอ๋องไม่สามารถฝ่าฝืนได้
แต่เย่น อิ่งไหนเลยจะเป็นตะเกียงที่ขาดน้ำมันไปได้เล่า พี่น้องทั้งสองทะเลาะตีกันเสียงดังมาตลอดทางจนถึงประตูของห้องทรงพระอักษร
บางทีอาจจะได้ยินเสียงดังที่ข้างนอก จนกระทบคนข้างในแล้ว เวลานี้ ประตูห้องทรงพระอักษรได้ถูกเปิดออกมาทันที
“ท่านอ๋องเพคะ!” ช่วงวินาทีที่ได้เห็นหันยี่ฉี บนใบหน้าของเย่นอิ่งมีประกายตื่นเต้นดีใจกระพริบผ่านไปอย่างเห็นได้ชัด กำลังเตรียมจะรีบกระโจนโผเข้าไปทันที ประกายตาก็ได้สบเห็นหญิงสาวในชุดสีแดงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาโดยพลัน บนเค้าหน้าที่สดใสสะสวยมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนของนางก็ได้หม่นหมองไปแถบหนึ่งในทันใด
กระบี่ในมือก็ออกจากฝักฉับพลัน บีบบังคับตรงสู่หัวใจของจางยวี่โหร่วโดยตรง
รังสีสังหารที่ยิ่งใหญ่! แม้ว่าจางยวี่โหร่วไม่มีวิทยายุทธ์ก็สัมผัสได้แล้ว เมื่อดูอีกครั้ง ก็เห็นกระบี่วิเศษที่มีประกายเยือกเย็นนั้นได้มุ่งแทงมาที่ตนเองแล้วโดยตรง
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก นางไม่ได้มีเวลาที่จะตอบสนองทั้งสิ้น ชั่วพริบตานั้น นางรู้สึกถึงความตายมาเยือนแล้วจริง ๆ
เวลานี้ จู่ ๆ นางถูกคนดึงกระชากอย่างสุดแรงไปครา หลังจากนั้นทั้งคนก็ตกเข้าไปสู่อ้อมอกของเขา
เขากอดนางหมุนตัวไปรอบหนึ่งอย่างรวดเร็ว ปลายกระบี่ก็ได้เฉียดผ่านหูของนางไป ในที่สุดแทงใส่ความว่างเปล่า
เย่นอิ่งดูไปครา พวกเขากลับยังกอดด้วยกัน ยิ่งอิจฉาตาร้อนแล้ว ไม่สนใจไม่ห่วงวิ่งพุ่งตรงเข้าไปแล้ว
“นังสารเลว เจ้ากล้ายั่วยวนท่านอ๋อง ข้าจะฆ่าเจ้าแล้ว!”
เย่นหลินดูปุ๊บท่าจะเสียเรื่อง กลับไม่มีทางที่จะหยุดยั้งได้ทันทั้งสิ้น
ขณะนี้ ผู้ชายเห็นได้ชัดว่าได้โกรธแล้ว เขากอดจางยวี่โหร่วไว้ในอ้อมอกอย่างแนบแน่น มิอาจให้เย่นอิ่งทำร้ายนางแม้สักนิดเดียวอย่างแน่นอน มองดูกระบี่นั่นได้แทงมาแล้ว เขาเอื้อมมือออกไปใช้กำลังกุมไปคราโดยตรง เลือดสดได้พุ่งทะลักออกมาในบัดดล รินหยดลงมาตามปลายแหลมกระบี่ไม่หยุดยั้ง
เมื่อเย่นอิ่งเห็นเขาได้รับบาดเจ็บ พลันตกใจกลัวจนเก็บกระบี่กลับคืน รีบวิ่งเข้าไปถามว่า “ท่านอ๋อง ท่านเป็นอย่างไรแล้วเพคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...